รวบหนุ่มใหญ่รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม

กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – ตำรวจตามรวบหนุ่มใหญ่รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม ให้คนซื้อนำไปสวมรถยนต์ติดไฟแนนซ์ และสวมซากรถ


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการจับกุมแหล่งผลิตป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม ที่ร้านรับซ่อมแซมแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์รถจักรยานยนต์ b&m modify ริมถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พร้อมของกลางเป็นเครื่องคอม้าใช้สำหรับอัดตัวอักษรและตัวเลขลงบนแผ่นป้ายทะเบียน 1 เครื่อง เครื่องปั๊มลงตัวอักษร ขส. 1 เครื่อง แผ่นอะคริลิคตัวอักษรและเลขอารบิกจำนวนมากรวมถึงตัวปั๊มหมวดป้ายทะเบียนจังหวัดต่าง ๆ รวมของกลางกว่า 300 ชิ้น พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 1 คน คือนายรณชัย อายุ 46 ปี

โดยเป็นการขยายผลมาจากคดีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดที่ใช้รถพลิกปรับเปลี่ยนแผ่นป้ายอัตโนมัติ ได้ก่อนหน้านี้จึงมีการสืบทราบถึงแหล่งผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอมซึ่งไม่ได้ออกโดยกรมการขนส่งทางบก จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวพบตัวนายรณชัย เป็นเจ้าของ ในช่วงแรกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบแผ่นป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ที่ลูกค้าสั่งทำไว้ 2 แผ่น และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อมานายรณชัย ให้การยอมรับว่า ได้รับทำแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมานานกว่า 5 ปีแล้ว และได้เปิดร้านรับซ่อมแผ่นป้ายทะเบียนอีกที่หนึ่งจึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นที่ร้านดังกล่าวก่อนพบของกลางดังกล่าว รวมทั้งบัญชีลูกค้าของร้านดังกล่าว ซึ่งมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 100 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องการนำแผ่นป้ายทะเบียนไปใช้กลับรถติดไฟแนนซ์ รถสวมซาก และอาจเอาไปสวมทะเบียนใช้กับการกระทำความผิดอื่นๆ โดยจะคิดค่าบริการป้ายละ 1,000 บาท


พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า ป้ายทะเบียนดังกล่าวถือว่าเป็นป้ายทะเบียนที่ปลอมแปลงได้ในระดับเกรดเอ หรือ 90% คือ มีตราของ ขส. ของกรมการขนส่งทางบก และมีลายน้ำคาดระหว่างเลขทะเบียนและหมวดจังหวัด แต่ป้ายทะเบียนดังกล่าวยังมีส่วนที่ปลอมแปลงได้ไม่เหมือนคือตำหนิที่กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีข้อตกลงกัน ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ได้ แต่ผู้ต้องหาไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้จึงไม่ได้ปลอมแปลงตำหนินี้ลงไป และส่วนสำคัญคือ เส้นลายน้ำคาดทะเบียน ยังปลอมแปลงได้ไม่เหมือนเนื่องจากไม่มีลักษณะการเหลื่อมแสง

สำหรับประชาชนที่จะนำป้ายทะเบียนปลอมไปใช้ต้องระวังความผิดฐานปลอมเอกสารราชการมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000- 100,000 บาท และข้อหาใช้เอกสารราชการปลอมต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท เช่นเดียวกับผู้ปลอมทะเบียน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก