กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ทะเบียนราษฎร์หลอกผู้เสียหายให้โหลดแอปฯ ควบคุมมือถือระยะไกล ก่อนถอนเงินในบัญชีกว่า 1.2 แสนบาท
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้เสียหายเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือ อ้างว่าเบอร์มือถือส่งข้อความหมิ่นเบื้องสูง เชิญเล่นพนัน และโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนต่อสายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก จากนั้นมิจฉาชีพที่อ้างเป็นตำรวจหญิงได้ส่งข้อมูลทะเบียนราษฎร์ที่มีรูป ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน และข้อมูลคนในครอบครัวของผู้เสียหาย มาให้ดู ก่อนจะใช้กลอุบายหลอกผู้เสียหายโหลดแอป TeamViewer QS เพื่อควบคุมมือถือระยะไกล ก่อนจะโอนเงินในบัญชีผ่านแอปฯ ธนาคาร กว่า 122,880.45 บาท ออกไป
น.ส.วัน (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงบ่าย 2 ของวันที่ 27 สิงหาคม มีเบอร์มือถือซึ่งเป็นเบอร์ปกติ 10 หลัก โทรเข้ามา โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทให้บริการมือถือรายหนึ่ง บอกว่าเบอร์ตนไปร่วมกับบุคคลที่ถูกจับแล้วใช้ส่งข้อความจำนวน 3,124 ครั้ง ซึ่งเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสม เชิญเล่นพนัน และโฆษณาขายยาที่ไม่ได้รับอนุญาต และยังพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารไว้เพื่อฟอกเงินอีกกว่า 20 บัญชี ให้รีบติดต่อไปคุยกับตำรวจ สภ.ช้างเผือก และห้ามไม่ให้บอกใคร เพราะอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วย ด้วยความกลัวจึงไม่ได้บอกใคร
จากนั้นได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเบอร์ที่ให้มา ก็บอกชื่อและตำแหน่ง รวมถึงบอกรายละเอียดข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ของตนถูกต้องทุกอย่าง จึงทำให้คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวจริง จากนั้นมีการให้แอดไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพได้ส่งทั้งหมายจับ เอกสารธนาคาร และทะเบียนราษฎร์ของตนเองมาให้ดู เมื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวอะไรไปก็ตอบได้หมด ทำให้เชื่อเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้ถามตนว่าให้ยินยอมให้ ปปง. ตรวจสอบข้อมูลผ่านแอปฯ TeamViewer QS หรือไม่ รวมถึงถามว่ามีกี่บัญชี อะไรบ้าง และให้โอนเงินไปรวมยังธนาคารเดียว ยอมรับว่าตอนนั้นไม่รู้ว่าโปรแกรมนี้ใช้ทำอะไร นึกว่าเป็นแอปฯ ของหน่วยราชการ จึงยอมโหลด จากนั้นมิจฉาชีพถามข้อมูลตัวเลขต่างๆ ที่อยู่บนหน้าจอในแอปฯ ซึ่งตนได้บอกไป ก่อนมิจฉาชีพบอกว่าจะแจ้งผลกลับมา ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที พบว่าเงินในบัญชีกว่า 122,880.45 บาท ถูกโอนไปยังบัญชีผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อโทรกลับไปกลับติดต่อไม่ได้ จึงรู้ว่าโดนหลอก ซึ่งได้แจ้งความออนไลน์ไว้ที่ บช.สอท. แล้ว
นายเอกภพ เปิดเผยว่า เมื่อก่อนการหลอกในลักษณะนี้เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะให้ออกไปทำธุระกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม แต่ปัจจุบันมิจฉาชีพได้พัฒนาไปตามยุคสมัย ใช้โปรแกรม TeamViewer QS ควบคุมมือถือระยะไกล ก่อนจะเข้าไปล้วงข้อมูลต่างๆ รวมถึงทำธุรกรรมในมือถือ ซึ่งโปรแกรมนี้เมื่อก่อนจะเป็นโปรแกรมที่ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ใช้ควบคุมระยะไกล ลงโปรแกรมโดยลูกค้าไม่ต้องหิ้วเครื่องไปที่ร้าน แต่มิจฉาชีพกลับนำมาใช้ในการหลอกเหยื่อ ที่สำคัญเคสนี้มิฉฉาชีพได้ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายไปได้อย่างไร หลังจากนี้คงต้องยื่นหนังสือสอบถามไปยังกรมการปกครองว่ามีผู้ใดค้นข้อมูล หรือแอบเอาข้อมูลทะเบียนราษฎร์ผู้เสียหายไปให้มิจฉาชีพ มาใช้หลอกผู้เสียหายด้วย.-สำนักข่าวไทย