‘ทรัมป์’ ระบุยังไม่มีแผนที่จะคุยกับ ‘มัสก์’

วอชิงตัน 7 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า เขาไม่มีแผนที่จะพูดคุยกับนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและซีอีโอของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้นำสหรัฐและอดีตพันธมิตรใกล้ชิดของเขาอาจยังไม่สามารถยุติความบาดหมางเรื่องร่างกฎหมายลดภาษีครั้งใหญ่ได้ในเร็ว ๆ นี้ นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน พาหนะประจำตำแหน่งประธานาธิบดีว่า เขาไมได้คิดถึงเรื่องนายมัสก์เลย และเขาหวังว่านายมัสก์จะทำได้ดีกับเทสลา อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์กล่าวว่าการทบทวนสัญญาข้อตกลงของนายมัสก์กับรัฐบาลกลางเป็นสิ่งจำเป็นและรัฐบาลจะดูทุกด้าน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยนามกล่าวว่า นายทรัมป์ อาจจะกำจัดรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา โมเดล เอส สีแดงที่เขาซื้อมาเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากที่เคยจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าของนายมัสก์คันนี้ที่สนามหญ้าทำเนียบขาว ทางด้านนายมัสก์เองไม่ได้กล่าวถึงนายทรัมป์โดยตรง แต่ยังคงวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายลดภาษีและงบประมาณมหาศาลของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของนโยบายในประเทศของนายทรัมป์ นายมัสก์ยังประกาศด้วยว่าถึงเวลาแล้วที่จะมีพรรคการเมืองใหม่ในสหรัฐเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชนร้อยละ 80 ที่อยู่ตรงกลาง คนใกล้ชิดกับนายมัสก์กล่าวว่า ความโกรธของนายมัสก์เริ่มลดลงแล้ว และคิดว่า นายมัสก์จะต้องการฟื้นความสัมพันธ์กับนายทรัมป์.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา จบที่ “ศาลโลก” ได้จริงหรือ?

6 มิ.ย. – กัมพูชามุ่งหมายนำข้อพิพาทกับไทยไปยังศาลโลก รายงาน 9 ทันโลก ของฝ่ายข่าวต่างประเทศ วันนี้ พาไปติดตามบทบาทหน้าที่ของศาลโลก และเงื่อนปมต่างๆ ที่เกี่ยวกับความขัดแย้งตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

กต.จัดงานเสวนาครบรอบ 150 ปี-50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน

กรุงเทพ 6 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ จัดงานเสวนาเนื่องใน 2 โอกาสสำคัญแห่งปี คือ วาระครบรอบ 150 ปี การสถาปนากระทรวงการต่างประเทศ และครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน การเสวนาในหัวข้อ “สู่การเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ของความสัมพันธ์ไทย – จีน” ซึ่งจัดโดยกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน โดยนางศิริลักษณ์ นิยม รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดงานย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับและทุกมิติ ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากบทบาทของพระบรมวงศานุวงศ์ไทย และในปี 2568 นี้ ทั้งสองประเทศกำหนดให้เป็น “ปีทองแห่งมิตรภาพไทย – จีน” ภายใต้คำขวัญ “จีน – ไทย สานใจกัน ร่วมสร้างฝัน ประชาคมฯ” การเสวนาในวันนี้ เป็นการอภิปรายถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน ในทุกมิติตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งดำเนินไปอย่างแน่นแฟ้น และส่งเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งในมิติการทูต […]

รัฐบาลทรัมป์คว่ำบาตรตุลาการไอซีซี 4 คน

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศวานนี้ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อตุลาการศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court) หรีอ ไอซีซี 4 คน ซึ่งเป็นการตอบโต้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการที่ศาลแห่งนี้ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลและการตัดสินใจก่อนหน้านี้ที่จะเปิดคดีสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า ทหารสหรัฐก่ออาชญากรรมสงครามในอัฟกานิสถาน นายมาร์โก ริบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ ผู้พิพากษาทั้ง 4 คน มาจาก ยูกันดา เปรู เบนิน และสโลวีเนีย บุคคลทั้ง 4 ได้เข้าร่วมอย่างแข็งขันในการกระทำที่ผิดกฎหมายและไร้เหตุผลของไอซีซี ซึ่งมุ่งเป้าไปที่อเมริกาหรืออิสราเอล ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐ ไอซีซีถูกทำให้เป็นเรื่องการเมืองและอ้างสิทธิ์ในการสอบสวน ตั้งข้อหา และดำเนินคดีกับพลเมืองของสหรัฐและพันธมิตรของสหรัฐอย่างไม่มีข้อจำกัดโดยไม่ถูกต้อง ทางด้านไอซีซี ประณามการกระทำของสหรัฐดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการพยายามบ่อนทำลายความเป็นอิสระของสถาบันตุลาการระหว่างประเทศที่มอบความหวังและความยุติธรรมให้กับผู้ตกเป็นเหยื่อ ‘การทารุณกรรมที่ไม่อาจจินตนาการได้’ นับล้านคน.-813.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามเกินดุลสหรัฐเพิ่มมากขึ้น

ฮานอย 6 มิ.ย. – รัฐบาลเวียดนามเปิดเผยตัวเลขการค้ากับสหรัฐในวันนี้พบว่า เมื่อเดือนที่แล้วเวียดนามเกินดุลสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก เวียดนามได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 12,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 42 และเพิ่มจากเดือนเมษายนร้อยละ 17 ขณะที่ข้อมูลของทางสหรัฐระบุว่าการเกินดุลของเวียดนามเมื่อเดือนเมษายนมีมูลค่าสูงกว่าเม็กซิโก และเป็นรองเฉพาะจีนกับสหภาพยุโรปเท่านั้น คาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้ส่งออกของเวียดนามพยายามเร่งส่งออกให้ได้มากที่สุดก่อนที่มาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์จะเริ่มมีผลในต้นเดือนกรกฏาคม ซึ่งสินค้าจากเวียดนามจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึงร้อยละ 46.-816.-สำนักข่าวไทย

‘สี จิ้นผิง’ ต่อสายคุย ‘ทรัมป์’ ชี้การเจรจาเป็นทางเลือกถูกต้อง

ปักกิ่ง, 6 มิ.ย. — ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เปิดเผยว่าการเจรจาและความร่วมมือคือทางเลือกเดียวที่ถูกต้องสำหรับจีนและสหรัฐ สำนักข่าวซินหัว รายงานวันนี้ว่า นายสี กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์ ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ว่าการปรับทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ เปรียบเสมือนการควบคุมเรือใหญ่ที่ต้องร่วมกันถือหางเสือ และมุ่งหน้าให้ถูกทาง พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนหรือปัจจัยที่ทำให้ไขว้เขว นายสี ระบุว่าการประชุมทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน-สหรัฐ ที่นครเจนีวาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเกิดขึ้นตามข้อเสนอของฝ่ายสหรัฐ ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การแก้ไขประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องผ่านการเจรจาหารือ โดยการประชุมดังกล่าวได้รับการตอบรับเชิงบวกจากสังคมของทั้งสองประเทศ และประชาคมระหว่างประเทศ นายสี ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องใช้กลไกการหารือทางเศรษฐกิจและการค้าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ และแสวงหาผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันภายใต้หลักความเท่าเทียมและการเคารพต่อความกังวลของกันและกัน โดยจีนมีความจริงใจในเรื่องนี้ และยึดมั่นในหลักการของตนเช่นกัน ผู้นำจีนย้ำว่าฝ่ายจีนให้ความสำคัญกับคำมั่น และทำตามที่ให้สัญญาไว้เสมอมา โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงที่บรรลุในการประชุมที่เจนีวา ซึ่งจีนได้ดำเนินการตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงจังแล้ว พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐ ยอมรับความคืบหน้าที่เกิดขึ้น และยกเลิกมาตรการเชิงลบต่อจีน นอกจากนี้ นายสี ยังเสนอให้ทั้งสองฝ่ายยกระดับการสื่อสารในด้านต่างๆ อาทิ การต่างประเทศ เศรษฐกิจและการค้า การทหาร และการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างฉันทามติ แก้ความเข้าใจผิด และเสริมสร้างความร่วมมือ นายสีเน้นย้ำว่าสหรัฐ ต้องจัดการกับปัญหาไต้หวันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ยึดมั่นใน “เอกราชไต้หวัน” ฉุดลากจีนและสหรัฐฯ ไปสู่เส้นทางอันตรายของการเผชิญหน้า […]

‘ทรัมป์’ เผยการเจรจากับจีนเป็นไปด้วยดี

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า การเจรจาการค้ากับจีนยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติและถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่าเขาอาจจะเดินทางไปเยือนจีนในอนาคต ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนนานกว่า 1 ชั่วโมงว่าการเจรจาปัญหาการค้ากับจีนถือว่าเป็นไปด้วยดี และจะเดินหน้าเจรจากันต่อไปโดยหลังจากนี้จะมีการเจรจาเพิ่มเติมระหว่างผู้แทนการค้ารัฐมนตรีคลัง รวมทั้งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน นอกจากนี้นายทรัมป์ยังประกาศผ่าน “ทรูธ โซเชียล” สื่อสังคมออนไลน์ของเขาด้วยว่าจะมีการหารือกันเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วย ซึ่งทรัมป์หวังว่าจะมีความคืบหน้าเรื่องการส่งออกแร่หายากของจีน หลังจากที่ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกันไปเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมในการลดภาษีศุลกากรของแต่ละฝ่ายลงจากที่เคยประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึงระดับเกินกว่า 100% ก่อนหน้านี้ ด้านโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานข่าวนี้เช่นกัน ว่าประธานาธิบดีสีได้แจ้งต่อผู้นำสหรัฐว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อขจัดการแทรกแซง แม้กระทั่งการก่อวินาศกรรมทุกรูปแบบ พร้อมกันนี้ผู้นำจีนยังกล่าวชื่นชมการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่นครเจนีวาเมื่อเดือนที่แล้วว่าเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกันและในการสนทนาครั้งนี้ผู้นำทั้งสองต่างก็เชื้อเชิญให้แต่ละฝ่ายเดินทางมาเยือนด้วย.-816.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ ขู่จะยกเลิกสัญญากับสเปซเอ็กซ์

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐขู่จะยกเลิกสัญญามูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์กับบริษัทสเปซเอ็กซ์ หลังเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับนายอีลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับนายมัสก์ ยังลุกลามบานปลายไม่หยุด ล่าสุดผู้นำสหรัฐขู่ว่าจะยกเลิกสัญญาระหว่างรัฐบาลกับบริษัทสเปซเอ็กซ์ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถึง 22,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 7 แสนล้านบาท ซึ่งอาจทำให้โครงการด้านอวกาศของสหรัฐต้องตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความขัดแย้งที่มีชนวนเหตุมาจากการที่นายมัสก์วิจารณ์กฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายงบประมาณของทรัมป์ที่เริ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกำลังลุกลามบานปลายไปอย่างรวดเร็ว โดยทั้งสองฝ่ายมีการโพสต์ตอบโต้กันหลายครั้ง แต่การยกเลิกสัญญาระหว่างสเปซเอ็กซ์กับองค์การบริหารการบินและอวกาศหรือนาซ่า รวมทั้งกระทรวงกลาโหมอาจทำให้ความก้าวหน้าด้านอวกาศของสหรัฐต้องเผชิญกับความล่าช้าโดยเฉพาะการปลดระวางยานดราก้อนของสเปซเอ็กซ์จากการทำภารกิจรับส่งนักบินไปยังสถานีอวกาศนานาชาติหรือ ไอเอสเอส ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องหลายประเทศต้องอาจสะดุดลง เนื่องจากยานดราก้อนเป็นกำลังหลักในการขนส่งนักบินของนาซ่า โดยมียานโซยูซของรัสเซียเป็นยานรอง นอกจากนี้ยังมีโครงการที่สเปซเอ็กซ์เสนอจะยกระดับจากการส่งยานไปสำรวจดวงจันทร์ให้เป็นโครงการขึ้นไปสำรวจดาวอังคาร ตลอดจนการสร้างเกราะป้องกันขีปนาวุธในอวกาศ แต่ล่าสุดนายมัสก์ได้โพสต์ข้อความลงในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ สื่อสังคมออนไลน์ที่เขาเป็นเจ้าของระบุว่า สเปซเอ็กซ์จะไม่ปลดระวางยานดราก้อนจากโครงการ ไอเอสเอสหลังจากที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งประกาศว่าจะเริ่มปลดประจำการยานดราก้อนที่นาซ่าใช้งานอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งกับผู้นำสหรัฐ.-816.-สำนักข่าวไทย

ศาลระงับคำสั่ง ‘ทรัมป์’ ห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนฮาร์วาร์ด

บอสตัน 6 มิ.ย. – ผู้พิพากษาศาลกลางในเมืองบอสตันของสหรัฐสั่งในวันพฤหัสบดีให้ระงับคำสั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการชั่วคราว ที่ห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐเพื่อศึกษาหรือเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้พิพากษาอัลลิสัน บอร์โรวส์ แห่งศาลแขวงสหรัฐ ได้สั่งระงับประกาศของนายทรัมป์ไม่ให้มีผลบังคับใช้ เพื่อรอการพิจารณา ท่ามกลางข้อพิพาทที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของสหรัฐกับนายทรัมป์ ผู้พิพากษาลงความเห็นว่าคำสั่งของนายทรัมป์ที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติเดินทางมาสหรัฐเพื่อศึกษาที่ฮาร์วาร์ดในช่วงเวลาหกเดือนข้างหน้า จะก่อให้เกิด ‘ความเสียหายที่เกิดขึ้นในทันทีและไม่อาจแก้ไขได้’ ก่อนที่ศาลจะมีโอกาสทบทวนเรื่องนี้ นายทรัมป์ ได้ออกประกาศห้ามนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไม่ให้เข้าประเทศ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และกล่าวหาว่าฮาร์วาร์ดว่า ไม่จัดการปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักศึกษาต่างชาติอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

กัวเตมาลาสั่งอพยพหนีภูเขาไฟปะทุ

กัวเตมาลาซิตี 6 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่กัวเตมาลามีคำสั่งให้อพยพประชาชนที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูเอโก ไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังจากภูเขาไฟเกิดการปะทุขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภูเขาไฟฟูเอโกพ่นลาวาออกจากปากปล่องภูเขาไฟไหลเป็นทางเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร และพ่นเอาเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า 6,000 เมตร ทางการกัวเตมาลาได้ออกคำเตือนในระดับสีส้ม และขณะนี้มีชาวบ้านกว่า 500 คน จากเมืองโดยรอบอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง 4 แห่งที่ทางการเปิดไว้รองรับ คาดว่าภูเขาไฟฟูเอโกจะปะทุต่อเนื่องนานถึง 40 ชั่วโมง ทำให้ต้องโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว ภูเขาไฟฟูเอโกอยู่ทางภาคตะวันตกของกัวเตมาลา เคยปะทุรุนแรงเมื่อปี 2561 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 คน ประชาชน 1 ล้าน 7 แสนคน ได้รับผลกระทบ.-815.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์-มัสก์’ ขัดแย้งเดือด-ขู่ยกเลิกสัญญา-หนุนถอดถอน

วอชิงตัน 6 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ในวันพฤหัสบดีว่าจะยกเลิกสัญญาของรัฐบาลกับบริษัทของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่เคยให้การสนับสนุนเขา ขณะที่นายมัสก์เสนอว่านายทรัมป์ควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมให้กลายเป็นศึกโซเชียลมีเดียเต็มรูปแบบ ความเป็นปรปักษ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อนายทรัมป์วิจารณ์นายมัสก์ ซีอีโอของเทสลา (Tesla) บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในห้องทำงานรูปไข่ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากน้ัน ความสัมพันธ์ที่เคยใกล้ชิดกันมากก็เสื่อมสลายลงอย่างเต็มที่ต่อหน้าสาธารณชน เมื่อทั้งสองต่างเริ่มโจมตีกันและกันอย่างดุเดือดบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ “ทรูธ โซเชียล”  (Truth Social) ของทรัมป์ และ เอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์เดิม ที่นายมัสก์เป็นเจ้าของ นายทรัมป์โพสต์ข้อความบน “ทรูธ โซเชียล” ว่า วิธีที่ง่ายที่สุดในการประหยัดเงินในงบประมาณจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ คือการยกเลิกเงินอุดหนุนของรัฐบาลและสัญญาของรัฐบาลกับบริษัทของมัสก์  ความเห็นของนายทรัมป์ทำให้บรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเทขายหุ้นของเทสลาและหุ้นเทสลาปิดตลาดลดลงร้อยละ 14.3 สูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นมูลค่าลดลงมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสตร์ของเทสลา  ไม่กี่นาทีหลังจากปิดตลาด นายมัสก์ได้ตอบโพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ระบุว่า นายทรัมป์ควรถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่พรรครีพับลิกันของนายทรัมป์ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาในรัฐสภาและไม่น่าจะถอดถอนเขาได้ ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อหลายวันก่อน เมื่อนายมัสก์ได้ประณามร่างกฎหมายลดภาษีและการใช้จ่ายครั้งใหญ่ของนายทรัมป์ ทางด้านนายทรัมป์นิ่งเงียบมาตลอดจนเมื่อวานนี้เขาบอกกับนักข่าวว่า เขา “ผิดหวังมาก” ในตัวนายมัสก์ โดยระบุว่า เขากับนายมัสก์มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม แต่เขาไม่รู้ว่าจะยังเป็นเช่นนั้นอีกต่อไปหรือไม่ ในขณะที่นายมัสก์ […]

อัตราการเกิดของญี่ปุ่นลดต่ำเป็นประวัติการณ์

โตเกียว 6 มิ.ย. – อัตราการเกิดของประชากรในญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และลดต่ำกว่า 7 แสนคนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บสถิติเมื่อปี 2442 กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเมื่อปีที่แล้วมีทารกเกิดใหม่ 686,061 คน ลดลงจากปีก่อนหน้านั้น 41,227 คน และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ขณะที่สถาบันวิจัยความมั่นคงทางสังคมและประชากรประเมินว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงไปอยู่ที่ 680,000 คนจนถึงปี 2582 ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 1,605,298 คน เพิ่มจากปีก่อน 29,282 คน ส่งผลให้จำนวนประชากรทั้งหมดของญี่ปุ่นลดลงถึง 919,237 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา.-816.-สำนักข่าวไทย

1 29 30 31 32 33 5,490
...