ต่างประเทศ

วอชิงตัน 1 ส.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐออกแถลงการณ์วานนี้ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าส่งออกจากประเทศไทย ในอัตราร้อยละ 19 จากเดิมขู่จะเก็บภาษีสินค้าไทย สูงถึงร้อยละ 36 ทำเนียบขาวประกาศเรื่องนี้ในเอกสารข้อมูล ก่อนหน้ากำหนดเส้นตายข้อตกลงทางการค้าในวันศุกร์ ซึ่งระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษเมื่อวันพฤหัสบดี สำหรับอัตราร้อยละ 19 ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น อินโดนีเซีย ร้อยละ 19 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 19 และกัมพูชา ร้อยละ 19 ในขณะที่เวียดนาม ถูกเรียกเก็บในอัตราร้อยละ 20 สปป ลาว ร้อยละ 40 และเมียนมา ร้อยละ 40 โดยอัตราภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป คำสั่งพิเศษของนายทรัมป์ ระบุอัตราภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นสำหรับประเทศต่างๆ โดยจะอยู่ในช่วงร้อยละ 10-41 สำหรับ 69 ประเทศคู่ค้า บางประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงที่ช่วยลดภาษีได้ ในขณะที่บางประเทศไม่มีโอกาสเจรจากับรัฐบาลของเขาเลย คำสั่งดังกล่าวระบุว่าสินค้าจากประเทศอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อภาคผนวกจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 10 […]

ย่างกุ้ง 31 ก.ค. – ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว หลังจากก่อรัฐประหารยึดอำนาจมานานกว่าสี่ปี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับการจัดการเลือกตั้งในปลายปี 2025 รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินหลังการประชุมสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ ภายใต้รัฐธรรมนูญของเมียนมาฉบับปี 2008 การยกเลิกกฎภาวะฉุกเฉินถือเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้ ซึ่งรัฐบาลทหารเคยให้คำมั่นว่าจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำก่อรัฐประหาร ยังได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลแห่งสหภาพที่มีสมาชิก 30 คน โดยแต่งตั้งนายญอ ซอ (Nyo Saw) ที่ปรึกษาของเขาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม สภาฯ ได้ตัดสินใจขยายภาวะฉุกเฉินออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม โดยให้เหตุผลในขณะนั้นว่า “จำเป็นต้องมีเสถียรภาพเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่เสรีและเป็นธรรม” เมื่อต้นสัปดาห์นี้ กองทัพได้ออกกฎหมายที่ระบุว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องกระบวนการเลือกตั้งจากการ “ก่อวินาศกรรม” โดยมีบทลงโทษรวมถึงโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ขัดขวางการเลือกตั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ลอนดอน 31 ก.ค. – สนามบินฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกอย่างน้อย 16 เที่ยวบินในวันนี้ หลังจากเกิดปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างกว้างขวางทั่วสนามบินของประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ สำนักงานบริการการจราจรทางอากาศแห่งชาติ หรือ เนชันแนล แอร์ แทรฟฟิก เซอร์วิสเซส (National Air Traffic Services) ซึ่งให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศสำหรับเครื่องบินที่บินในน่านฟ้าของสหราชอาณาจักรและส่วนตะวันออกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ กล่าวเมื่อวันนี้ว่า ระบบควบคุมการจราจรทางอากาศกลับมาทำงานได้เต็มระบบแล้วและกลับเข้าสู่การทำงานตามปกติแล้วหลังจากต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบสำรอง ข้อมูลจากบริษัทให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลการบิน “ซีเรียม” (Cirium) ระบุว่า การขัดข้องครั้งที่สองในรอบหลายปีของสำนักงานบริการการจราจรทางอากาศแห่งชาติ ยังส่งผลกระทบต่อสนามบินแกตวิก (Gatwick) ใกล้กรุงลอนดอน สนามบินเอดินเบอระในสกอตแลนด์ และสนามบินอื่นๆ ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินถึง 122 เที่ยว นับจนถึงเวลา เวลา 18:30 น. ของวันพุธตามเวลามาตรฐานสากล หรือ ตรงกับ 01.00 น. ของวันพฤหัสบดีตามเวลาในประเทศไทย เว็บไซต์ของสนามบินฮีทโธรว์แสดงให้เห็นว่ามีเที่ยวบินอย่างน้อย 16 เที่ยวถูกยกเลิกในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินขาออกไปยังกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมและนครโตรอนโต ของแคนาดาและเที่ยวบินขาเข้าจากนครนิวยอร์กของสหรัฐและกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี.-813.-สำนักข่าวไทย

กัวลาลัมเปอร์ 31 ก.ค. นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียกล่าววันนี้หลังจากได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐว่า อัตราภาษีของสหรัฐสำหรับสินค้ามาเลเซียจะประกาศในวันศุกร์ มาเลเซียจะต้องเผชิญกับอัตราภาษี 25% สำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ภายในวันศุกร์นี้ โดยทั้งสองประเทศได้จัดการเจรจาการค้าด้วยกันหลายรอบ และรัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียระบุว่ายังมีประเด็นที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี นายอันวาร์กล่าวต่อรัฐสภามาเลเซียในวันนี้ว่าเขาได้หารือเรื่องภาษีด้วยสิ่งที่เขาเรียกว่า “จิตวิญญาณและหลักการของการค้าเสรี” ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า หลังจากที่นายทรัมป์ได้รับฟังสิ่งที่เขาอธิบาย นายทรัมป์ก็ตัดสินใจที่จะทบทวนอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีการประกาศในวันพรุ่งนี้ แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องอัตราภาษี นายอันวาร์ยังกล่าวด้วยว่านายทรัมป์ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ที่มาเลเซียในเดือนตุลาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกง 31 ก.ค. – ชุดอัญมณีหลายร้อยชิ้นที่เกี่ยวข้องกับพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าได้กลับคืนมายังประเทศอินเดียแล้ว หลังจากผ่านไป 127 ปี ภายหลังจากที่มีแผนการจะนำอัญมณีเหล่านี้ออกประมูล ซึ่งทำให้รัฐบาลอินเดียขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้กล่าววานนี้แสดงความชื่นชมการกลับมาสู่ประเทศอินเดียของชุดอัญมณีนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “อัญมณีปิปราห์วา” (The Piprahwa Gems) เขาโพสต์ข้อความทางแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ว่า เป็นวันที่น่ายินดีสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมของอินเดียและจะทำให้ชาวอินเดียทุกคนภาคภูมิใจ ชุดอัญมณีมากกว่า 300 ชิ้นนี้มีอายุย้อนไปถึงสมัยจักรวรรดิเมารยะ (Maurya Empire) หรือประมาณ 240-200 ปีก่อนคริสต์ศักราช เดิมทีชุดอัญมณีนี้มีกำหนดจะถูกนำออกประมูลโดย สถาบันประมูลโซธบีส์ (Sotheby’s) ในฮ่องกงในเดือนพฤษภาคม แต่การประมูลถูกเลื่อนออกไปหลังจากรัฐบาลอินเดียขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายและเรียกร้องให้นำอัญมณีกลับคืนมา หลังจากนั้น โซธบีส์ ได้ระบุว่าบริษัทเครือ โกเดรจ อินดัสทรีส์ กรุ๊ป (Godrej Industries Group) ของอินเดียเป็นผู้ซื้อ และได้มีการขายและส่งผลให้อัญมณีกลับคืนสู่อินเดียเป็นการถาวร ซึ่งจะนำไปจัดแสดงต่อสาธารณะต่อไป โซธบีส์กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า โซธบีส์รู้สึกยินดีที่ได้อำนวยความสะดวกในการส่งมอบอัญมณีปิปราห์วากลับคืนสู่อินเดีย อัญมณีเหล่านี้ถูกขุดพบในปี 1898 จากสถูปโบราณในเมืองปิปราห์วา ทางตอนเหนือของอินเดีย โดยวิลเลียม แคลกซ์ตัน เปปเป้ […]

ออตตาวา 31 ก.ค. – หลายประเทศเรียกร้องให้มีการรับรองรัฐปาเลสไตน์เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างยั่งยืน นายมาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวว่าเขาตั้งใจที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสหประชาชาติในเดือนกันายายนที่จะถึงนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาความเป็นไปได้ของแนวทางแก้ปัญหาแบบสองรัฐ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นทางการปาเลสไตน์ในการปฏิรูปการปกครอง ซึ่งรวมถึงการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าโดยที่กลุ่มฮามาสจะไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ ส่วนท่าทีของประเทศอื่นๆ เวลานี้ฝรั่งเศสและอีก 14 ประเทศได้ร่วมลงนาม “ข้อเรียกร้องนิวยอร์ก” ในที่ประชุมสหประชาชาติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการเรียกร้องเพื่อให้มีการรับรองรัฐปาเลสไตน์ ซึ่งเรื่องนี้นายฌ็อง โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสได้โพสต์ลงสื่อโซเชียลวานนี้ ว่าทั้ง 15 ประเทศแสดงความตั้งใจที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ และเชิญชวนให้นานาประเทศทั่วโลกเข้าร่วมในข้อเรียกร้องดังกล่าวด้วย สำหรับรัฐมนตรีต่างประเทศที่ร่วมลงนาม “ข้อเรียกร้องนิวยอร์ก” ประกอบด้วย อันดอร์รา ออสเตรเลีย แคนาดา ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก มอลตา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส ซานมารีโน สโลวีเนีย และสเปน ขณะที่นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตือนว่าเขาจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์เช่นกันหากอิสราเอลยังไม่ยอมเปิดทางให้จัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าให้มากขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสก็ได้ประกาศว่าจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์เช่นกัน ด้านนายอันโตนิโอ กูเตียเรซ เลขาธิการยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุมยูเอ็น […]

วอชิงตัน 30 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวในวันพุธว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 15% สำหรับสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ ลดลงจากอัตรา 25% ที่เคยขู่ไว้ นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางแอปพลิเคชัน “ทรูธ โซเชียล” ว่าเขายินดีที่จะประกาศว่าสหรัฐได้ตกลงข้อตกลงทางการค้าที่สมบูรณ์และครบถ้วนกับสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีใต้ตกลงที่จะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์ ในสหรัฐ ในโครงการที่นายทรัมป์เลือก และจะซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ เขายังกล่าวอีกว่าเกาหลีใต้จะยอมรับผลิตภัณฑ์สหรัฐเข้าสู่ตลาด รวมถึงรถยนต์และสินค้าเกษตร และจะไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้าใดๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้กล่าวว่า ตลาดข้าวและเนื้อวัวของประเทศจะไม่ถูกเปิดเพิ่มเติม และการเจรจาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหรัฐเกี่ยวกับกฎระเบียบด้านอาหารยังคงดำเนินต่อไป ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในทันทีว่าข้อตกลงการลงทุนจะมีโครงสร้างอย่างไร, แหล่งเงินทุนมาจากไหน, จะดำเนินการภายในกรอบเวลาใด และเงื่อนไขจะมีผลผูกพันมากน้อยเพียงใด นายทรัมป์กล่าวว่าจะมีการประกาศการลงทุนเพิ่มเติมจากเกาหลีใต้ในภายหลัง การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบแรกๆ ของประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ ที่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน หลังจากการเลือกตั้งอย่างกะทันหัน เขาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่าข้อตกลงนี้ได้ขจัดความไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมการส่งออก และทำให้อัตราภาษีของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับคู่แข่งรายสำคัญ นายอี กล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้เกาหลีใต้ได้ข้ามผ่านอุปสรรคสำคัญไปได้แล้ว ส่วนนายทรัมป์กล่าวว่า นายอีจะเดินทางเยือนทำเนียบขาวภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า เพื่อประชุมกับประธานาธิบดีสหรัฐเป็นครั้งแรก.-813.-สำนักข่าวไทย