รัฐบาลไทยขอประชาคมโลกร่วมประณามกัมพูชา ชี้เป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง

ทำเนียบฯ 25 ก.ค.- “ภูมิธรรม” อ่านแถลงการณ์รัฐบาลไทย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณในหลวง-พระราชินี รับผู้บาดเจ็บทุกคนจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ชี้ กัมพูชา ใช้กำลังทหารโจมตีพื้นที่ชุมชน-โรงพยาบาล ขัดกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม ลั่น เป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ขอประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำไร้ซึ่งมนุษยธรรม พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสีย ยืนยัน รัฐบาลไทยไม่นิ่งนอนใจ บอก กองทัพไทยตอบโต้ทันทีนับตั้งแต่เสียงกระบอกปืนนัดแรกดัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี อ่านแถลงการณ์รัฐบาลไทย ฉบับแรก ต่อสถานการณ์ความไม่สงบที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อสื่อสารกับประชาชน โดยระบุว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยของเรากำลังถูกคุกคามจากประเทศกัมพูชา แม้ที่ผ่านมาเราจะอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุและเลือกที่จะใช้สันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและตามหลักมนุษยธรรมแล้ว แต่เป็นที่น่าผิดหวังมากที่ฝ่ายกัมพูชาเลือกที่จะใช้กำลังทางทหารก่อนและยังเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อกรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรมอย่างรุนแรง ด้วยการโจมตีโรงพยาบาล และพื้นที่ชุมชนที่ประชาชนอาศัยอยู่ซึ่ง เลยแนวชายแดนมากว่า 20 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือน 13 รายรวมไปถึงเด็ก สตรีและคนชรา รวมทั้งทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเสียหายอย่าง ใหญ่หลวง ถือเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง ซึ่งเมื่อวานนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับเลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐบาลได้มีหนังสือถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ประณามการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาคมโลกร่วมประณามการกระทำอันไร้มนุษยธรรมนี้ รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียของพี่น้องประชาชน ทุกท่าน และขอยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาล กองทัพ และหน่วยราชการทุกหน่วยไม่ได้นิ่งนอนใจแม้แต่น้อย นับแต่เสียงจากกระบอกปืนนัดแรกดังขึ้น กองทัพไทยได้มีการตอบโต้โดยจำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายทางการทหารของกัมพูชา […]

ทบ. ซัดเขมรพุ่งเป้าโจมตีผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่วิถีนักรบ

25 ก.ค.- ทบ. ซัดเขมร พุ่งเป้าประชาชน-คนบริสุทธิ์ ไม่ใช่วิถีของนักรบ แจงไทม์ไลน์สู้รบ 2 วัน 10 จุดได้รับผลกระทบ เรียกร้องประชาคมโลก-องค์กรระหว่างประเทศ สอบสวนอย่างอิสระ มั่นใจคนทำผิดได้รับโทษอย่างเหมาะสม เพจกองทัพบก Royal Thai Army โพสต์ข้อความว่า การกระทำที่พุ่งเป้าไปยัง ประชาชน พลเรือน ผู้บริสุทธิ์ มิใช่วิถีของ “นักรบ” วิถีกระสุนที่สาดเข้ามาอย่างไร้ทิศทาง ของศัตรู ผู้ไม่ได้อยู่ในวิถีของนักรบ ย่อมเป็นเครื่องยืนยัน “ทหารไทย มีความชอบธรรม” ต่อปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้น การกระทำต่อเป้าหมาย “พลเรือน” “สถานพยาบาล” “ผู้บริสุทธิ์” ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขาดความเคารพต่อชีวิตมนุษย์และการไม่แยแสต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน นับเป็น อาชญากรรมสงครามที่จะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา กองทัพบกได้รับรายงานในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไปแล้ว คือ ล่าสุด […]

“นิกรเดช” กร้าว! ไทยถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐาน

กระทรวงการต่างประเทศ 25 ก.ค.- “ไทย” สวน “กัมพูชา” กล่าวหาสร้างความเสียหายปราสาทเขาพระวิหาร ยันเป็นไปไม่ได้ บอกห่างตั้ง 2 กม. เตรียมทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ “นิกรเดช” กร้าว! เราถูกโจมตีก่อน “เขมร” ละเมิดศีลธรรมขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เชื่อทำหนังสือด่วน เหตุต้องการฟ้อง UNSC เย้ย เป็นความจริงหรือไม่ต้องติดตาม แต่ของไทยเป็นของจริง นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงพัฒนาการสถานการณ์ไทย – กัมพูชา โดยระบุว่า ตั้งแต่เกิดการเปิดฉากโจมตีของกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวาน 24 ก.ค. การปะทะยังเกิดต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายกัมพูชายังเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อย่างทรงตัว กองทัพเราเริ่มเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ตกค้างโดยเฉพาะในพื้นที่ที่สำคัญ เช่น ที่ปั๊มน้ำมันในอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน และเพื่อรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาตลอด เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาและขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปะทะ ที่เริ่มโดยฝ่ายกัมพูชา ชีวิตทหารไทยและพลเรือนที่บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตลง รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่อาจยอมรับได้ ตนขอย้ำอีกครั้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรแห่งสหประชาชาติ […]

ตร.แนะคนไทยแยกแยะ กำชับดูแลทรัพย์สิน ปชช.ที่อพยพออกจากบ้าน

ตร. 25 ก.ค. – โฆษก ตร. เตือนคนไทยอย่าหัวร้อน แนะให้แยกแยะ สั่งกำชับดูแลทรัพย์สินประชาชนที่อพยพออกจากบ้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เชิญตำรวจทุกหน่วยงานเข้ามาประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา กำชับให้ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้ยกระดับมาตรการดูแลบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีผู้ดูแล เพราะอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ส่วนพื้นที่รอบสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา หรือสถานที่มีสิทธิก่อความไม่สงบ ได้จัดกำลังตำรวจในพื้นที่และตำรวจสันติบาลเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ส่งกำลังใจไปให้กับประชาชน ผู้ที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้า และตำรวจในพื้นที่ และพร้อมที่จะสนับสนุนทุกภารกิจหากมีการร้องขอเข้ามา ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปชาวกัมพูชาถูกทำร้ายร่างกายในประเทศไทยนั้น ทราบว่าคนไทยส่วนใหญ่อาจมีอารมณ์โกรธเคือง แต่หากไปก่อเหตุรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายคู่ขัดแย้งจะถูกดำเนินคดีทุกกรณี เพราะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย พร้อมขอให้ประชาชนระมัดระวังการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือไม่เหมาะสมในสื่อโซเชียล เพราะอาจกลายเป็นการจุดชนวนให้เหตุการณ์บานปลายจนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.-416-สำนักข่าวไทย

สหรัฐเตือนพลเมืองเลี่ยงการเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

25 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศเตือนพลเมืองสหรัฐผ่านทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในรัศมี 50 กิโลเมตร จากชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารในบริเวณดังกล่าว เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพฯ ยังแจ้งเตือนพลเมืองอเมริกันที่อาศัยอยู่หรือเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันของทั้่งสองประเทศ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และติดต่อสอบถามข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลในท้องถิ่น นอกจากนั้นยังแจ้งด้วยว่า ในวันนี้รัฐบาลไทยได้สั่งปิดจุดผ่านแดนในจังหวัดจันทบุรี และตราด ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ทั้งทางบกและทางทะเล ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศปิดโรงพยาบาล 11 แห่งในพื้นที่ชายแดนเป็นการชั่วคราวทั้งหมดหรือบางส่วน และกระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศปิดโรงเรียนชั่วคราว 751 แห่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี.-813.-สำนักข่าวไทย

กรมอุทยานฯ​ เฝ้าระวังหมู่บ้าน-ทรัพย์สินชุมชนชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​

กรุงเทพฯ​ 25 ก.ค.​ – “เฉลิม​ชัย​” สั่ง​กรม​อุทยาน​ฯ​ สนับสนุนฝ่ายความมั่นคง เฝ้าระวังหมู่บ้าน-ทรัพย์สินชุมชนชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ ตามแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” นาย​เฉลิม​ชัย​ ศรี​อ่อน​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​ทรัพยากร​ธรรมชาติ​และ​สิ่ง​แวดล้อม ​กล่าว​ว่า​ สั่งการ​ให้​กรมอุทยาน​แห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และ​พันธุ์พืช​ สนับสนุนหน่วยงานความมั่นคงและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสนับสนุนแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง (หมู่บ้าน)” โดยจัดกำลังจากอุทยานแห่งชาติ (อช.) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) เฝ้าระวังบ้านเรือนและทรัพย์สินของชุมชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงสนับสนุนการจัดตั้งเต็นท์พักพิงสำหรับทหารและประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ชุมชน นายอรรถ​พล​ เจริญ​ชันษา​ อธิบดี​กรม​อุทยาน​แห่งชาติ​ สัตว์ป่า​ และ​พันธุ์พืช​ กล่าว​ว่า​ ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง เช่น ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม ที่ได้สั่งอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาได้สนับสนุนการเคลื่อนย้ายประชาชนในตำบลดงรัก อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปยังศูนย์พักพิงที่จัดตั้งขึ้น พร้อมจัดเตรียมรถยนต์ราชการและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการอพยพ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตฯ ได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านแซร์สะโบว์ ฝ่ายปกครอง และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่ตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง และอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านเดินทางไปยังศูนย์พักพิงและบ้านญาติในอำเภอไพรบึง […]

รมว. ตปท. จีนระบุพร้อมช่วยคลี่คลายปัญหาไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า จีนพร้อมที่จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงตรง เพื่อช่วยลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า นายหวัง อี้ กล่าวในการระหว่างการประชุมกับนายเกา กิม ฮวน (Kao Kim Hourn) เลขาธิการอาเซียน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ที่กรุงปักกิ่งว่า การปะทะกันที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง” นายหวังกล่าวด้วยว่า ต้นตอของปัญหานี้เป้นสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดที่ตกค้างอยู่จากสมัยที่ชาติตะวันตกเข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมทิ้งไว้มาตั้งแต่ในอดีต และตอนนี้จำเป็นต้องเผชิญหน้าอย่างใจเย็นและจัดการอย่างเหมาะสม.-813.-สำนักข่าวไทย

เอไอเอส “อุ่นใจอาสา” ส่งต่อความห่วงใยสู่ชายแดน

กรุงเทพ 25 ก.ค. – AIS เคียงข้างคนไทยในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งถุงยังชีพ–เสริมระบบสื่อสาร พร้อมดูแลลูกค้าเต็มกำลังใจ เอไอเอส เดินหน้าดูแลลูกค้าและคนไทย ในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ระดมทีม ‘อุ่นใจอาสา’ พร้อมนำศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะเข้าไปเสริมทัพเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สนับสนุนทั้งการปฏิบัติงานและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ    นำโดย นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจองค์กร เอไอเอส ระดมพนักงานเอไอเอส “อุ่นใจอาสา” ส่งต่อความห่วงใย จัดเตรียมสิ่งของจำเป็น ทั้งถุงยังชีพ น้ำดื่ม และผ้าห่ม ส่งต่อความห่วงใยผ่านความร่วมมือกับกองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งมอบให้ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ พร้อมสนับสนุนระบบสื่อสารอย่างเต็มกำลังแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่แนวชายแดน โดยขยายสัญญาณเครือข่าย และมอนิเตอร์เครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมร่วมกับไทยคม สนับสนุนอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียว อีกทั้งยังสนับสนุนเครือข่ายภาคประชาชน ขยายสัญญาณในศูนย์อพยพ 5 จุดในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ เอไอเอสยังดูแลลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ฝั่งกัมพูชาและไทย ขยายเวลาชำระค่าบริการลูกค้าเอไอเอสรายเดือน และ AIS FIBRE3 และขยายเวลาการใช้งานให้ลูกค้าระบบเติมเงิน โดยปิดบริการ AIS Shop และตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถทำธุรกรรมและรับบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอป […]

7 สายการบินสัญชาติไทยพร้อมรับคนไทยกลับจากกัมพูชา

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – โฆษกกระทรวงคมนาคม ยืนยัน 7 สายการบินสัญชาติไทย พร้อมรับคนไทยกลับจากกัมพูชา ขณะนี้มี 4 สายการบินที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-กัมพูชา อยู่แล้ว นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมและโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน เข้าประชุมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ถึงแผนการรองรับการเดินทางของคนไทยในกัมพูชา ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ผลจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ทุกสายการบินสัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มี 4 สายการบิน ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-กัมพูชา อยู่แล้ว ได้แก่ การบินไทย ให้บริการ 16 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน, ไทยแอร์เอเชีย 28 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน, บางกอกแอร์เวย์ส 40 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 […]

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย

อพยพแล้วกว่า 6 หมื่นคน หนีสู้รบชายแดน ทบ.เร่งดูแล

25 ก.ค.- ทบ. เร่งอพยพกว่า 6 หมื่นคน 14 อำเภอ 4 จังหวัด หนีสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา พบวันนี้เสียชีวิต 16 ราย เจ็บ 29 คน ตั้งโรงครัวพระราชทาน 6 จุด พ.ต.หญิง จุฑาพัชร เปรมบัญญัติ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่การสู้รบ ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา หลังจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนักยิงโจมตีเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทยตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้ (24 ก.ค.68) ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่รวม 14 อำเภอ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ อ.บ้านกรวด, จ.สุรินทร์ อ.กาบเชิง, อ.พนมดงรัก, อ.สังขะ, อ.บัวเชด, อ.ปราสาท และ อ.เมืองสุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ อ.กันทรลักษ์, อ.เบญจลักษ์, อ.ศรีรัตนะ, อ.พยุห์, อ.กันทรารมย์ […]

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

1 69 70 71 72 73 82
...