“หลวงตาสินทรัพย์” เลี้ยงหมูกระทะ 200 ชุด บำรุงขวัญทหารชายแดน

อุบลราชธานี 15 ก.ย. – หลวงตาสินทรัพย์ มอบหมูกระทะ 200 ชุด บำรุงขวัญกำลังใจทหารชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี “พล.ต.ณัฏฐ์” รองแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าแนว พร้อมจัดเลี้ยงหมูกะทะกว่า 200 ชุด ที่ได้รับการสนับสนุนจาก หลวงตาสินทรัพย์ ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ จ.อุบลราชธานี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ทหารได้ผ่อนคลาย และให้รู้ว่าแนวหลังยังห่วงใย พร้อมส่งกำลังใจให้รั้วของชาติที่ปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยความเสียสละ ซึ่งหลายนายอยู่ประจำการที่ชายแดนตั้งแต่ก่อนการปะทะ จนหยุดยิงก็ยังคงประจำการอยู่ที่ฐานหน้าแนวชายแดน ยังไม่ได้หยุดพักกลับไปเยี่ยมครอบครัว ทหารหลายนายบอกว่า ตอนนี้ยังกำลังใจดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด และอยากจะฝากบอกครอบครัวว่าไม่ต้องเป็นห่วง และอยากจะให้กำลังใจทหารที่อยู่ตลอดแนวชายแดนด้วยกัน ขอให้ปลอดภัย และพยายามหากิจกรรมทำจะได้ไม่เครียด พยายามพูดคุยกันเยอะๆ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เลี้ยงหมูกระทะ อยากให้มีเลี้ยงแบบนี้ทุกอาทิตย์ พลตรีณัฏฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้แม้สถานการณ์จะดูผ่อนคลาย หลังพูดคุยเจรจากับกัมพูชา แต่ก็ไม่เคยเชื่อใจ เพราะตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงการปะทะครั้งล่าสุด ก็ไม่เคยทำตามข้อตกลง และรู้สันดานเขมรดี […]

ซูเปอร์โพลเผยคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมเปิดด่านไทย-กัมพูชา

14 ก.ย.- ซูเปอร์โพลสำรวจข้อดี-ข้อเสีย การเปิดหรือปิดด่านไทย-กัมพูชา พบ 38.9% กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน แต่ 60.7% มองทำร้ายจิตใจคนไทย ทำลายศักดิ์ศรี ยังไม่พร้อมคืนดีหรือให้อภัย วันนี้ (14 ก.ย.68) ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้ก่อตั้งสำนักวิจัยซูเปอร์โพล มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง เสียงประชาชนต่อการเปิดด่านไทย-กัมพูชา จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,158 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 12 – 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ผลการสำรวจที่ค้นพบ สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนเห็นข้อดีของการเปิดด่านในหลายมิติ แต่ตัวเลขส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าร้อยละ 50 ทั้งหมด โดยลำดับแรกคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน ได้รับการยอมรับมากที่สุดที่ร้อยละ 38.9 รองลงมาคือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ร้อยละ 33.4 และ การเสริมสร้างสันติภาพชายแดน ร้อยละ 32.8 ขณะที่ แรงงานเข้าระบบถูกกฎหมาย ได้ร้อยละ 24.5 และข้อดีอื่น ๆ […]

“สุรเดช” ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน แนะเจรจาเงื่อนไขชดใช้เยียวยา

14 ก.ย.- “สุรเดช” ไม่เห็นด้วยเปิดด่าน ลั่นต้องยกเลิก MOU 43-44 และข้อตกลงทั้งหมดที่ผ่านมา หลังไทยได้รัฐบาลใหม่แล้ว เชื่อดีกว่ารัฐบาลเก่าที่อ่อนแอ เจรจาเสียเปรียบตลอดแน่นอน แนะเจรจาเงื่อนไขให้กัมพูชาชดใช้เยียวยาสิ่งที่ไทยสูญเสียทั้งชีวิต-ทรัพย์สินก่อนคุยเปิดด่านในอนาคต นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุม GBC โดยมีข้อหนึ่งที่มีรายงานมีบางประเทศกดดันให้ไทยทบทวนการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปรากฎว่ามีกระแสสังคมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านโซเชียลฯเป็นจำนวนมากว่า ส่วนตัวตนก็ไม่เห็นด้วยในการเปิดด่านเช่นกัน เพราะเราไว้ใจเขมรไม่ได้ ตนถึงบอกว่าอยากให้มีการกั้นกำแพงเลย การเปิดด่านควรต้องเป็นหลังจากที่มีการกั้นกำแพงแล้ว และเราไม่ควรฟังประเทศใดๆที่มากดดันเรา ปัญหาอะไรที่ประเทศเหล่านั้นกังวลให้เขาไปจัดการกันเอง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของอธิปไตยของไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก “เราต้องเอาตามข้อตกลงของเรา ไม่ใช่ข้อตกลงของกัมพูชา พูดง่ายๆคือที่ผ่านมาต้องยกเลิกทั้งหมด ไม่ต้องไปเจรจาอะไรกับกัมพูชาแล้ว และตอนนี้เราเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องเปลี่ยนท่าทีใหม่ เราต้องไม่อ่อนแอเหมือนรัฐบาลเก่าที่มีการเจรจาเสียเปรียบมาโดยตลอด ทั้งๆที่ถ้าเราต่อสู้กัน ปะทะกัน เราก็ชนะอยู่แล้ว ที่ผ่านมากัมพูชาก็พยายามละเมิดอธิปไตยและข้อตกลงมาตลอด ที่ไปตกลงกันมาไม่มีประโยชน์เลย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเปิดด่านจะต้องมีการยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ44 ก่อน เป็นเอ็มโอยูที่ทางพรรคภูมิใจไทยเสนอในสภาแล้ว และตอนนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาลแล้ว ก็ต้องมาพิจารณาตรงนี้ก่อนเลย คือยกเลิกไปเลยทั้งเอ็มโอยู 43 และ 44 ข้อตกลงเก่าที่ผ่านมายกเลิกให้หมด แล้วมาดูกันใหม่ ส่วนการเปิดด่านต้องเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถ้ากัมพูชายอมก็ต้องชดใช้สิ่งที่ประเทศไทยสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนและทหาร จะมาใช้วิธีว่าเมื่อปะทะกันแล้ว […]

ประชาชน-ภาคธุรกิจ ยังเห็นต่าง ปมเปิด-ปิดด่านชายแดนกัมพูชา

13 ก.ย. – ชาวบ้านตามแนวชายแดน ยังไม่เห็นด้วยการเปิดด่าน เพราะไม่ไว้ใจกัมพูชา ไม่อยากต้องสูญเสียดินแดนในอนาคต ขณะที่ภาคธุรกิจอยากให้เปิดด่าน เพื่อฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์ล่าสุด ในพื้นที่ด่านชายแดนถาวรจันทบุรี ยังคงปฏิบัติการตามกฎระเบียบเดิม แม้จะมีการหารือเรื่องการปิด-เปิดด่านในวงกว้าง โดยด่านทั้ง 2 แห่ง ใน อ.โป่งน้ำร้อน ได้แก่ ด่านถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต และด่านถาวรบ้านผักกาด ต.คลองใหญ่ ยังคงเปิด–ปิดตามกำหนดเวลาปกติ ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. โดยอนุญาตเฉพาะแรงงานกัมพูชา เดินทางกลับประเทศ และเหตุผลในด้านมุนษยธรรมเท่านั้น ขณะที่บรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ยังคงเป็นไปตามปกติ โดยยังไม่มีการเปิดด่าน แม้ผลการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา จะสร้างความหวังให้กับผู้ประกอบการและภาคธุรกิจใน จ.จันทบุรี ที่ต้องการให้เปิดด่านฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันจันทบุรีเป็นพื้นที่ที่มีความตึงเครียด น้อยกว่าพื้นที่ชายแดนอื่นๆ จึงควรเป็นพื้นที่นำร่องในการผ่อนปรนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่ในพื้นที่กลับเกิดกระแสคัดค้านจากประชาชนบางส่วน แม้จะต้องขาดรายได้ แต่ก็ยังไม่เชื่อใจในความจริงใจของกัมพูชา และห่วง เรื่องอธิปไตยชาติไทย ไม่อยากเสี่ยงกับการสูญเสียดินแดนในอนาคต พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพ มีความชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นก่อนที่จะเปิดด่าน โดยเฉพาะเรื่องการจัดการปัญหาความขัดแย้งที่ยังไม่คลี่คลายอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

“สิริพงศ์” ยันยังไม่เปิดด่าน ย้ำนายกฯ ยึดประโยชน์คนไทย

พรรคภูมิใจไทย12 ก.ย.- “สิริพงศ์” ยันยังไม่มีการเปิดด่าน ย้ำ “นายกฯ อนุทิน” ยึดประโยชน์คนไทย-ประเทศ เป็นสำคัญ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกดดันของประเทศที่ 3   นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ  รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึง ข้อกังวลของสังคมที่มีต่อการผ่อนปรนการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ว่า ต้องเรียนว่าในช่วงเวลานี้นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจอะไรซึ่งแนวทางของท่านนายกรัฐมนตรี ได้พูดไปแล้วในวันที่รับพระบรมราชโองการคือการใช้แนวทางสันติวิธีและจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียว ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูดมาโดยตลอดซึ่งในการที่จะเปิด – ปิดด่าน เป็นกรณีที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ตนก็ต้องยืนยันว่าการที่จะเปิด – ปิด จะต้องเป็นประโยชน์กับคนไทยในชาติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาติใดหรือประเทศที่ 3 นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นแนวทางที่จะดำเนินการเปิด – ปิดด่าน  ต้องพิจารณาอันดับแรก คือต้องดูความจริงใจของกัมพูชาก่อนว่ามีความจริงใจในถอนกองกำลังจริงหรือไม่ ตนมั่นใจว่าทีมเจรจาจะต้องไปพูดคุยเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยมากที่สุด อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีการเปิดพื้นที่ที่มีผลกระทบน้อย แต่ก็เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงไม่สบายใจ ดังนั้นสิ่งที่กองทัพจะต้องดูคือความจริงใจของกัมพูชาและการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งในฝั่งประชาชนผู้อยู่อาศัยและในฝั่งของผู้ที่ค้าขาย เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทันทีที่ท่านนายกรัฐมนตรีรับตำแหน่งก็จะได้มีการหารือในเรื่องนี้ นายสิริพงศ์ กล่าวถึง กรณีแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่เห็นด้วยกับการให้มีการเปิดด่าน เพราะจะเป็นการส่งเสริมบ่อนพนัน และสแกมเมอร์ ว่า ถือเป็นอีกความเห็นหนึ่งของแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งก็เป็นความเห็นสำคัญที่รัฐบาลควรจะต้องรับฟังแต่อย่างไรก็ดี […]

กต.แจงย้ำยังไม่เปิดด่านชายแดน หากไม่บรรลุ 3 เงื่อนไข

กระทรวงการต่างประเทศ 12 ก.ย.- กต.แจงหลังทัวร์ไทยถล่มเพจสถานทูตญี่ปุ่น ยืนยันยังไม่เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หากไม่บรรลุ 3 เงื่อนไข “ถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์” นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ที่เกาะกง ประเทศกัมพูชาว่า กระทรวงการต่างประเทศยินดีต่อผลการประชุมทั้งสองฝ่าย ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและเห็นชอบร่วมกันในหลายประเด็น ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญ โดยเฉพาะที่ฝ่ายไทยผลักดันมาโดยตลอดได้แก่ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์หรือสแกมเมอร์ สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วยมนุษยธรรม จะมีการตั้งคณะประสานงานร่วมภายใน 1 สัปดาห์เพื่อจัดทำแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและกำหนดพื้นที่นำร่อง โดยจะเริ่มดำเนินการทันทีภายในเวลา 1 เดือน ส่วนการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และสำนักการตำรวจแห่งชาติทั้งสองประเทศ หารือและจัดตั้งคณะทำงานภายใน 1 สัปดาห์ จัดทำแผนปฏิบัติการร่วม โดยฝ่ายไทยได้ส่งมอบข้อมูลและพิกัดที่ตั้งของสแกมเมอร์กว่า 60 แห่งในกัมพูชาให้กับฝ่ายกัมพูชาแล้ว โดยจะมีการประชุมประสานงานในวันที่ 16 ก.ย.นี้ที่จังหวัดสระแก้ว นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือประเด็นอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงปลอดภัย และความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะบริเวณชายแดน โดยมี 4 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การถอนอาวุธหนักและอาวุธยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนกับสู่ที่ตั้งปกติตามกรอบเวลา โดยฝ่ายเลขานุการของ GBC […]

“ไชยชนก” มั่นใจ “อนุทิน” ไม่มีนโยบายเปิดด่านไทย-กัมพูชา

กทม. 12 ก.ย. – “ไชยชนก” ไม่หนุนเปิดด่านไทย-กัมพูชา มั่นใจ “อนุทิน” ไม่มีนโยบายนี้ เชื่อสังคมอาจตีความผิด ชี้ระหว่างจัดการเรื่อง MOU 44 ไม่ควรเปิดช่องเพิ่มความเสี่ยง นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ในการพิจารณาเปิดด่านชายแดน ไทย-กัมพูชาว่า สิ่งที่ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดเพราะกระแสออนไลน์ตอนนี้ไปอีกทิศทางหนึ่ง ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่งไม่สงบยังไม่มีความชัดเจน และเรากำลังเดินหน้าพิจารณาเรื่องการยกเลิก MOU 43 และ 44 จึงเป็นเวลาไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดด่าน และตามกระแสสังคมที่เห็น อาจมีการตีความผิดพลาด จากการสื่อสารที่ระบุว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีนโยบายแบบนี้ แต่ส่วนตัว มั่นใจว่านายอนุทินเป็นหนึ่งในคนที่รักชาติและสถาบันมากที่สุด อีกทั้งที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไปคลุกคลีในพื้นที่ 4 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในการลงไปดูแลพี่น้องประชาชนที่ศูนย์อพยพ นำคนออกจากบ้าน และมีคนคิดสั้น จึงเชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ผิด เข้าใจผิดว่าเป็นนโยบายของนายอนุทิน ทั้งนี้เห็นว่าไม่เหมาะสมน่าจะเป็นภัยต่อประเทศ เมื่อถามถึงกรณีแม่ทัพภาค 2 ไม่สนับสนุนเปิดด่าน นายไชยชนก กล่าวว่า ทุกคนก็คิดเช่นนี้ได้ การปิดด่านไทย-กัมพูชาเศรษฐกิจได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน […]

กองทัพภาค 2 ตรวจพบทหารเขมรเสริมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์

กทม. 11 ก.ย.-GBC ลงนามทำตามข้อตกลงไปวันเดียว “ทภ.2” ตรวจพบทหารเขมรเสริมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมทั้งการก่อสร้างฐานที่มั่นเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 11 ก.ย.68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาสถานการณ์โดยรวม ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่แนวชายแดน โดยพบการเสริมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมทั้งการก่อสร้างฐานที่มั่นเพิ่มเติม ทั้งยังมีการเคลื่อนย้ายยานพาหนะเข้าสู่พื้นที่ชายแดนหลายครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกที่ขนส่งวัสดุสำหรับการก่อสร้าง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของฐานปฏิบัติการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมและการปรับกำลังของฝ่ายกัมพูชา เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ฝ่ายไทยยังคงจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจในพื้นที่แนวชายแดนอย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้งรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการตอบโต้ หากมีเหตุการณ์ที่กระทบต่ออธิปไตยและความมั่นคงของชาติ การดำเนินงานด้านจิตอาสา ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 24 พ.อ.วรวุฒิ สำราญ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองคาย รับมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค รวมไปถึงสิ่งของที่จำเป็น จากชาว จ.หนองคาย โดยมี พระเทพวชิรคุณเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย/เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) เป็นผู้แทนคณะสงฆ์, ปลัดจังหวัดหนองคาย และผู้บริหารแดงแหนมเนือง ผู้แทนพ่อค้าคหบดีในพื้นที่เป็นผู้แทนประชาชน จ.หนองคาย นำสิ่งของส่งต่อเป็นกำลังใจแก่ทหารแนวหน้า และพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน และประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ช่วยขนย้ายสิ่งของ ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน จ.สุรินทร์ นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ […]

กห.แจงย้ำยังไม่เปิดด่าน ต้องประเมินความจริงใจของกัมพูชา

กลาโหม 11 ก.ย.- รมช.กลาโหม ย้ำ ไม่มีการเปิดด่านในขณะนี้ เป็นการเตรียมการในระยะต่อไป ต้องประเมินความจริงใจและการปฏิบัติตามข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชา พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดเกาะกง กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา เป็นก้าวสำคัญในการใช้กลไกทวิภาคี เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำว่า “การปกป้องอธิปไตยของชาติต้องเป็นอันดับแรก ควบคู่ไปกับการดูแลปากท้องประชาชนและผู้ประกอบการในประเทศ” จากผลการประชุม GBC มีประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน ได้แก่ โดยจะเริ่ม นำร่องมาตรการผ่อนปรนในโซนที่ 3 ก่อน พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ร่วมกำหนดรายละเอียด เช่น ประเภทสินค้า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]

จับตา! ประชุม GBC “ไทย-กัมพูชา” ที่เกาะกง

10 ก.ย.- “ไทย-กัมพูชา” เปิดโต๊ะเจรจา GBC สมัยพิเศษ ที่จังหวัดเกาะกง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนระดับสูง ร่วมหารือสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ลดความตึงเครียด และเดินหน้ามาตรการสร้างสันติสุขชายแดน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และว่าที่รัฐมนตรีกลาโหม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี คณะผู้แทนประกอบด้วย พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอก นนทรี อินทรสาลี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน, นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พลเอก กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลเอก ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก, พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ และพลอากาศเอก วชิระพล […]

สถานการณ์เช้านี้ พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน เหตุการณ์ทั่วไปปกติ

ทำเนียบ 7 ก.ย.-สถานการณ์เช้านี้ พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน เหตุการณ์ทั่วไปปกติ แต่ยังคงตรึงกำลังเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยอย่างเต็มที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานสถานการณ์ชายแดนใน 7 จังหวัด โดยรวมยังคงปกติ กองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาและป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในทุกรูปแบบ รัฐบาลและกองทัพยังขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร และติดตามข้อมูลจากช่องทางราชการอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อป้องกันการบิดเบือนหรือข่าวปลอมที่อาจสร้างความสับสน โดยย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพยังคงปฏิบัติภารกิจด้วยความรอบคอบ เพื่อสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง “เหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา อยู่ในความสงบ กองทัพยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังใกล้ชิด ขณะเดียวกันรัฐบาลยังคงดูแลและอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมทั้งส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมยืนยันเดินหน้าปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ และขอให้ประชาชนเชื่อถือข้อมูลจากช่องทางราชการ เพื่อร่วมกันรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพและความมั่นคงของชาติ” นายจิรายุ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 81
...