
รพ.จุฬาฯตรวจมะเร็งเต้านม เฉลิมพระเกียรติ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดให้บริการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันแม่แห่งชาติ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดให้บริการตรวจวินิจฉัยมะเร็งเต้านม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันแม่แห่งชาติ
กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ส่งผลให้ไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ช่วงวันที่ 1-4 ส.ค.นี้
แชร์สนั่น! เดลินิวส์ ปลดฟ้าผ่า ลดพนักงานออนไลน์ 50% พร้อมชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เตรียมพิจารณากำลังคนในส่วนหนังสือพิมพ์ต่อไป
โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองใหญ่ แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่มีมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มข้น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนต้นแบบของ จ.ศรีสะเกษ
ททท.ร่วมสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จัดงานมหกรรม “ภูเก็ต…เด็ดทั้งเกาะ” จัดโปรโมชั่นลดราคาทั้งที่พักและแพ็กเกจท่องเที่ยว ดำน้ำชมความสวยงาม ของไข่มุกอันดามัน
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางมาสหราชอาณาจักรในช่วงนี้
กรุงเทพฯ 31 ก.ค..-กสศ.เปิดตัวระบบ iSEE 2.0 นวัตกรรมลดความเหลื่อมล้ำการศึกษา เครื่องมือเอ็กซเรย์ข้อมูลระดับพื้นที่ในทุกมิติ ช่วยทำให้สังคมไทยมองเห็นเด็กทุกคนในประเทศ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เปิดตัวระบบ “iSEE 2.0 นวัตกรรมสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา” เครื่องมือสำคัญที่ทำให้การช่วยเหลือไปถึงเด็กๆได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ตรงตามสภาพปัญหาอย่างแท้จริง พร้อมจัดเวทีเสวนา “EdTech และการขับเคลื่อนสังคมด้วยข้อมูล (Data Activism) กรณีศึกษาระบบ iSEE กับการระดมความร่วมมือเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า กสศ.ได้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (Information System for Equitable Education : iSEE) เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (BIG Data) รายบุคคล ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสมากกว่า 4 ล้านคนโดยเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับของ 6 กระทรวง คือ ศึกษาธิการ คลัง มหาดไทย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แรงงาน และสาธารณสุข รวมถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ […]
ประชาชนสามารถช่วยกันสอดส่อง เพื่อปิดเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายได้ง่ายๆ ส่วนขั้นตอนจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
สปส.31ก.ค.-สำนักงานประกันสังคม เผยชงตัวเลขผู้ประกันตนผ่านการคัดกรองแล้ว 59,000 ราย ให้กระทรวงการคลังโอนเงิน แจงหากได้รับโอนมาเมื่อใด พร้อมโอนเข้าบัญชีให้ผู้ประกันตน ภายใน 2 สัปดาห์ นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงกรณีการจ่ายเงินชดเชยรายได้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เคยยื่นกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย และส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ไม่ครบ 6 เดือนภายใน 15 เดือนแล้ว ทำให้ไม่ได้รับการชดเชยรายได้เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการได้รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ซึ่งขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการขอสนับสนุนเงินจากกระทรวงการคลัง โดยได้แจ้งจำนวนผู้ประกันตนที่ไม่ได้รับเงินกรณีว่างงานจำนวน 59,000 ราย ต่อกระทรวงการคลังแล้ว และหากอนุมัติเงินมาเมื่อใด สำนักงานประกันสังคม พร้อมโอนเงินเข้าบัญชีผู้ประกันตนตามฐานข้อมูลรายชื่อ พร้อมหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนภายใน 2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อยังสำนักงานประกันสังคมแต่อย่างใด โฆษกสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า เงินชดเชยรายได้ที่ใช้ในการดำเนินการครั้งนี้ เป็นเงินที่สำนักงานประกันสังคมได้เสนอโครงการไปเพื่อขอรับเงินกับรัฐบาล ไม่ใช่เงินที่สำนักงานประกันสังคมสั่งจ่ายจากเงินกองทุนประกันสังคมแต่อย่างใด และการจ่ายเงินกรณีว่างงานให้กับผู้ประกันตน ก็เป็นการจ่ายชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ไม่เคยได้รับสิทธิในโครงการเราไม่ทิ้งกันจากกระทรวงการคลัง .-สำนักข่าวไทย
อย.31 ก.ค.-อย.แจงข่าวส่งต่อบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์เสี่ยงเป็นมะเร็ง ไม่เป็นความจริง เบื้องต้นยังไม่พบข้อบ่งชี้ทางการแพทย์หรืองานวิจัยยืนยันข้อมูลดังกล่าว แนะผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (รองเลขาธิการ อย.) เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อความผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในลักษณะ “บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์เสี่ยงเป็นมะเร็ง โดยงานวิจัย เมื่อ 3 ปีที่แล้วโรงพยาบาลใหญ่ 5 แห่งใน กทม. วิจัยสาเหตุมะเร็งเพิ่มขึ้น 300% เกิดจากกินผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะตัว P (ฟอสฟอรัส) มากเกินขนาดเป็นสาเหตุเกิดมะเร็งเต้านม” ซึ่ง อย. ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่าข้อความที่ถูกส่งต่อนั้นมีการส่งต่อวนกลับมาเป็นระยะ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยผักไฮโดรโปนิกส์ไม่ใช่ผักออร์แกนิค ดังนั้นจึงสามารถใช้สารเคมีในการเพาะปลูกได้แต่ต้องปฏิบัติตามหลักทางการเกษตร และมีปริมาณสารพิษตกค้างรวมทั้งสารปนเปื้อนไม่เกินปริมาณตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกําหนด ปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ หรือมีงานวิจัยทั้งในประเทศและระดับนานาชาติยืนยันว่า ฟอสฟอรัสเชื่อมโยงกับการเกิดโรคมะเร็งเต้านม รวมถึงยังไม่มีการยืนยันว่าสารไนเตรทที่พบอยู่ตามธรรมชาติในอาหาร ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น ไนไตรด์ในระบบการย่อยอาหารทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง สำหรับความกังวลเรื่องปริมาณสารไนเตรทในผักไฮโดรโปนิกส์ปริมาณสูง เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งนั้น ความเป็นจริงไนเตรทเป็นสารที่พบได้ทั้งผักที่ปลูกในดินและผักไฮโดรโปนิกส์ ถ้าพืชมีการเจริญเติบโตและสังเคราะห์แสงที่เป็นปกติ โอกาสที่จะเกิดการสะสมไนเตรทจนถึงระดับที่ไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคจึงมีน้อยมาก นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไม่เคยเสนอคณะกรรมการอาหารพิจารณาในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ที่แน่ชัด “ขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อข้อความที่ส่งต่อกัน เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันว่าบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์แล้วเสี่ยงเป็นมะเร็ง หากกังวลเรื่องปริมาณไนเตรท อาจใช้วิธีนึ่งหรือต้มผักเป็นเวลา 10 […]
สธ.31 ก.ค.-กระทรวงสาธารณสุข เข้มมาตรการทุกสายการบิน คัดกรองก่อนขึ้นเครื่อง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบินและบนเครื่องบิน ด้านสายการบินไทยแอร์เอเชียขานรับ ปฏิบัติตามแนวทางมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ (31ก.ค.)ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย แถลงข่าว “มาตรการป้องกันโควิด-19 ในสายการบิน” ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังคัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มผู้เดินทางเข้าออกประเทศ ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ 68 แห่งทั่วประเทศ ทั้งท่าอากาศยาน ท่าเรือ และด่านพรมแดนทางบก เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด- 19 สำหรับด่านท่าอากาศยาน ได้ร่วมมือกับทหาร ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บริษัทท่าอากาศยานไทย และจิตอาสา ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ตั้งแต่ก่อนเข้าประเทศ ผู้เดินทางจะต้องมีเอกสาร เช่น Fit to Fly, ผลการตรวจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง มีประกันภัยที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโควิด-19 […]
ศธ.31 ก.ค.-“คุณหญิงกัลยา” เปิดตัวหนังสือผลงาน 1 ปี วางรากฐานการศึกษา พร้อมก้าว สู่ปีที่ 2 มุ่งปฏิรูปการศึกษาดันเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปีได้วางนโยบายเน้นการปฏิรูปไปที่ตัวผู้เรียน เพื่อวางรากฐานการศึกษาไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 ภายใต้นโยบายหลัก 4 เรื่อง คือโค้ดดิ้ง(Coding) การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การอ่านเขียนเรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อสารร่วมสมัย และอาชีวะเกษตร ซึ่งถือเป็นการสร้างพื้นฐานให้กับผู้เรียนและ พัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน สำหรับหนังสือ “ใกล้ชิดเกาะติด พัฒนาการศึกษาไทยทันโลกในศตวรรษ ที่ 21” เป็นการรวบรวมผลงานที่ถือเป็นความภาคภูมิใจร่วมกันของทีมครูกัลยา ทั้งในส่วนทีมที่ปรึกษาคณะทำงาน และหน่วยงานในกำกับดูแลทุกคน ที่ได้ทุ่มเททำงานด้วยความตั้งใจ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาหวังคนไทยมีคุณภาพและเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ “หนังสือผลงาน 1ปีคุณหญิงกัลยาใกล้ชิดเกาะติดพัฒนาการศึกษาไทยทันโลกในศตวรรษที่ 21 ไม่เป็นเพียงแค่การนำเสนอผลงานแต่ยังมีการนำ เสนอแนวพระราชดำริของพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ที่ทรงให้ความสำคัญกับการวางรากฐานการศึกษาไทย ที่มาของ พิพิธภัณฑ์ การศึกษาไทย แนวนโยบายและการขับเคลื่อนผลักดันผ่านงานในกำกับดูแลหลายด้าน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวหน้า ลดเหลื่อมล้ำและทำให้ทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ” คุณหญิงกัลยา กล่าว ทั้งนี้ สาระสำคัญในหนังสือยังได้สื่อให้เห็นถึงความทันสมัยในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสื่อสารเรื่องราวต่างๆผ่านแอปพลิเคชัน โดยผู้อ่านสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในหนังสือ เพื่อพบวีดิทัศน์นำเสนอเรื่องราวหลายอย่างที่น่าสนใจ […]