สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธีภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16

กทม. 26 ก.ค. – สื่อนานาชาติเข้าใจไทยในยุทธวิธี ภารกิจเหยี่ยวเวหา F-16 จำกัดวงเฉพาะพื้นที่ทหาร หลังกัมพูชาถล่มเป้าหมายพลเรือนไทยต่อเนื่อง ยืนยันป้องกันประเทศตามหลักกฎหมายสากลระหว่างประเทศ ขณะที่อินฟลูฯ และนักวิชาการนานาชาติชื่นชมไทยปฏิบัติภารกิจด้วยสุภาพบุรุษทางการทหาร นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ได้สรุปความคิดเห็นของนักวิชาการ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ต่างแสดงความเข้าใจที่ประเทศไทยดำเนินการทางยุทธวิธี ในกฎการปะทะ โดยปฏิบัติจำกัดวงของภารกิจเฉพาะพื้นที่กำลังทางทหารของกัมพูชาซึ่งเป็นการปฏิบัติต่อต้านการรุกราน รักษาอธิปไตยดินแดนไทย และยืนยันการใช้ F-16 ตอบโต้กัมพูชาเมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2568 สอดคล้องกับสิทธิในการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ หลังจากกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธหนัก และยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าใส่บ้านเรือนและพื้นที่ของพลเรือนไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ มีการระบุว่าศักยภาพ F-16 เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อพื้นที่พลเรือน ขณะที่กัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่างปืนใหญ่ที่นำมาใช้อย่างไม่เลือกเป้าหมาย ล่าสุดสื่อต่างประเทศ เช่น CNA ของสิงคโปร์ ได้สัมภาษณ์นักวิชาการด้านความมั่นคงจากมหาวิทยาลัยการป้องกันประเทศ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งยืนยันว่าการตอบโต้ของปองทัพไทยมีความแม่นยำและจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นต้นตอของการโจมตี โดยไม่กระทบพื้นที่พลเรือน พร้อมชี้ว่าใช้ยุทธวิธีได้อย่างเหมาะสมในบริบทของความขัดแย้งชายแดน ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศไทยนั้นได้ใช้ F-16 […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

ชาวกัมพูชาแห่กลับประเทศ ทะลักจุดผ่านแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว

สระแก้ว 26 ก.ค. – ชาวกัมพูชาทะลักจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รอข้ามกลับประเทศ หลังญาติพี่น้องเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ชาวกัมพูชานับพันยืนรอแน่นเพื่อรอการปล่อยให้เดินเข้าช่องตรวจเอกสารของตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ในการเดินออกข้ามพรมแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา โดยแรงงานเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยแล้วไปทำงานอยู่ในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งในสถานการณ์ไม่ปกตินี้ ทางญาติพี่น้องในกัมพูชาเป็นห่วง ขอให้เดินทางกลับ การผ่อนผันดังกล่าวเพื่ออนุโลมให้ชาวกัมพูชาที่ตกค้างอยู่ในฝั่งไทยกว่าพันคนเดินทางกลับประเทศกัมพูชา และอนุโลมให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชากว่า 200 คน สามารถเดินทางผ่านประตูเล็กข้างด่านพรมแดนคลองลึก กลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ตั้งแต่เวลา 11.00-13.00 น. ภายในวันนี้วันเดียวเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ยังไม่ตอบกัมพูชาขยับอาวุธหนักยิงไกล 130 กม.

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค. – “แพทองธาร” ยังไม่ตอบกัมพูชาขยับอาวุธหนักยิงไกล 130 กิโลเมตร ขยายวงเกินพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุขอประชุมก่อน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางมาที่กระทรวงวัฒนธรรม เวลา 13.55 น. เพื่อประชุมติดตามมาตรการการรับมือและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงมหาดไทย เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการที่กัมพูชาขยับอาวุธหนักที่สามารถยิงไกลได้กว่า 130 กิโลเมตร ขยายวงเกินพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีมาตรการตอบโต้อย่างไรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่าขอประชุมก่อน.-319-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน-เร่งประสานช่วยเหลือใกล้ชิด

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมฝ่าวิกฤติ พร้อมเร่งประสานช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหา เยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย และเร่งรัดการประสานงานด้านความช่วยเหลือในทุกมิติ ภารกิจเริ่มขึ้นในเวลา 09.30 น. ที่วัดแห่งหนึ่ง ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง โดยนายอนุทินได้พบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ สอบถามความเป็นอยู่ และให้กำลังใจแก่ชาวบ้านที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดจากเหตุความไม่สงบ พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ทุกภาคส่วนจะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดอีกแห่งหนึ่งใน ต.ไพรบึง เช่นกัน โดยระหว่างการพบปะชาวบ้าน นายอนุทิน กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่เสียสละและร่วมแรงร่วมใจกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดีที่สุด วันนี้สิ่งที่เราต้องทำคือเดินหน้าช่วยเหลือโดยไม่รีรอ พรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมประสานทุกหน่วยงาน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูชีวิตของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน และคณะ มีกำหนดการเยี่ยมเยียนพื้นที่เสี่ยงภัยและจุดอพยพอีกหลายแห่งใน จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกจุดที่เดินทางไปถึง โดยมีการพูดคุย รับฟังข้อเสนอแนะจากชาวบ้านในแต่ละชุมชน เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการผลักดันนโยบายหรือมาตรการช่วยเหลือที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง.-319-สำนักข่าวไทย

ไทยชี้แจงสถานการณ์ชายแดนต่อยูเอ็นเอสซี

นิวยอร์ก, 26 ก.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดประชุมส่วนตัวเมื่อวานนี้ ที่สำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ค ภายใต้หัวข้อวาระ “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ” นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ได้แถลงชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำถึงการกระทำที่ยั่วยุของกัมพูชา และความจำเป็นที่ไทยต้องป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นายเชิดชาย เริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องมากล่าวต่อที่ประชุมภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด โดยระบุว่า การรุกรานที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชานั้น คุกคามอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มุ่งมั่นในสันติภาพ เอกอัครราชทูตไทยเน้นย้ำว่า ประเทศไทยถือว่ากัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็นสมาชิกในครอบครัวอาเซียนเสมอมา ไทยได้ให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ การสร้างชาติ และการพัฒนาของกัมพูชามาโดยตลอดนับตั้งแต่การได้รับเอกราชในปี 2496 แต่ก็ยอมรับว่าในฐานะเพื่อนบ้านย่อมมีความท้าทายและความไม่เห็นด้วย ซึ่งควรแก้ไขด้วยการเจรจา ไม่ใช่ความรุนแรง นายเชิดชาย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะเล็กน้อยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดยระบุว่ากองกำลังไทยกำลังลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย และถูกบังคับให้ต้องป้องกันตนเองจากการยิงที่ไม่ได้มาจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งไทยเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด และได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้บานปลายขึ้นเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ทหารของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดในขณะที่ลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย […]

“เท้ง” เยี่ยมศูนย์พักพิงสุรินทร์ ให้กำลังใจประชาชน-จนท.

สุรินทร์ 26 ก.ค. – “เท้ง ณัฐพงษ์” รุดเยี่ยมศูนย์พักพิง จ.สุรินทร์ ให้กำลังใจประชาชน-เจ้าหน้าที่ หวั่นหากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ประชาชนต้องอพยพอีกรอบ แนะรัฐบาลเร่งดูแลศูนย์พักพิง-สนับสนุนของใช้จำเป็นที่ยังขาดแคลน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เข้าพื้นที่เยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในการอุปโภคบริโภคของประชาชน หัวหน้าพรรคประชาชนสอบถามเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ถึงปัญหาและอุปสรรคในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงสอบถามสิ่งของที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคที่ศูนย์พักพิงยังขาดแคลน พบว่าห้องน้ำในศูนย์พักพิงยังขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ขาดสิ่งของในการอุปโภคหลายรายการ เช่น ยากันยุง เสื้อผ้า ต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า บริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราวอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ยังถือเป็นพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงจากรัศมีการยิงของฝั่งกัมพูชา โดยมีเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก หากสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนยังไม่คลี่คลายหรือไม่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องวางแผนในการอพยพประชาชนจากบริเวณศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ใกล้เคียงกับชายแดน ย้ายไปยังอำเภอเมืองสุรินทร์ มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชน นายณัฐพงษ์ ยังได้พูดคุยเพื่อให้กำลังใจและขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในการความช่วยเหลือ พร้อมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เร่งปรับปรุงดูแลศูนย์อพยพ สนับสนุนของใช้จำเป็นให้เพียงพอ โดยระหว่างนี้ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งการระดมสิ่งของจำเป็นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการได้.-319-สำนักข่าวไทย

เตือนเรือประมงไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 26 ก.ค.​ – กรมประมงออกประกาศเตือนเรือประมงไทยทุกประเภท ให้เพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำประมงในบริเวณใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนยังคงมีเหตุปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของชาวประมง ลูกเรือ และทรัพย์สิน นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทำการประมง (FMC) มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในการประกอบอาชีพประมง จึงขอให้ผู้ประกอบการเรือประมงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายหรือได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบตำแหน่งเรือได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชัน “Fisheries Next” ที่กรมประมงพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเฝ้าระวังและติดตามเรือประมงในทะเล พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ FMC โทรศัพท์ 0 2561 3132, 0 2561 2296, 0 2561 2297, 0 2579 0341 หรือทาง Line ID : @114velss และ Facebook Page : กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง รวมทั้งติดตามข่าวสารจากศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) กรมประมงเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ […]

“ทักษิณ” ควงตะหลิวทำข้าวผัดแจกผู้อพยพศูนย์พักพิงอุบลฯ

อุบลราชธานี 26 ก.ค.- “ทักษิณ” จัดตั้งครัวกลางทำอาหารบริเวณศูนย์พักพิง จ.อุบลราชธานี ก่อนควงตะหลิวลงมือทำเมนูข้าวผัดหมู แจกจ่ายชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี เดินทางมายังเทศบาลเมืองเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี พบปะให้กำลังใจผู้อพยพจากการสู้รบ ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดและได้ลงมือทำข้าวหมู แจกจ่ายชาวบ้าน จากนั้นเดินทางไปพบกับประชาชนในศาลาอเนกประสงค์ ท่ามกลางเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิด 26 ก.ค. นายทักษิณ จะเดินทางไปมอบสิ่งของให้กับประชาชนอีกจำนวน 5 จุด สำหรับศูนย์ของพรรคเพื่อไทย ทำโรงครัวแจกจ่ายผู้อพยพในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2 มื้อ รองรับได้มื้อละ 4,000 กล่อง โดยนายทักษิณ กล่าวว่าได้พูดคุยกับทางทหาร ให้ดำเนินการตามยุทธการทหารได้เลย หากฝ่ายตรงข้ามอยากเจรจาค่อยดำเนินการภายหลัง และได้บอกว่าสถานการณ์กำลังดีขึ้น ระหว่างนายทักษิณ เดินเยี่ยมประชาชน เกิดเหตุความวุ่นวาย มีหญิงขาวอำเภอเดชอุดม ได้ตะโกนให้รับผิดชอบความเสียหายในการสู้รบชายแดนแต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกันออกไป ส่วนในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จุดปะทะถึงแม้ว่าจะมีฝนตกตลอดทั้งคืน แต่เสียงปืนก็ยังคงดังต่อเนื่อง และยังไม่มีรายงานความเสียหายในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

กลุ่ม ปตท.ส่งถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย

กรุงเทพ​ฯ 26 ก.ค. – กลุ่ม ปตท. ส่งถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่อพยพจากเหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา และผู้ประสบอุทกภัย วานนี้ (25 ก.ค. 2568) กลุ่ม ปตท. ได้ส่งมอบความช่วยเหลือไปยังศูนย์พักพิงผู้อพยพของพี่น้องไทยในสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี และ จ.บุรีรัมย์ ให้แก่ นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 2,000 ชุด บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) ส่งมอบน้ำดื่มจำนวน 9,480 ขวด และบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด […]

เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค. – สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ เตรียมขนย้ายเสือ 16 ตัว ออกนอกพื้นที่ หวั่นเหตุหลุดกรงเป็นอันตรายต่อประชาชน หลังสถานการณ์ชายแดนทวีความรุนแรง นายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีฯ อยู่ระหว่างเตรียมแผนเคลื่อนย้ายเสือโคร่ง 15 ตัว และเสือดาว 1 ตัว รวม 16 ตัว ออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ใกล้เคียงทวีความตึงเครียด และอาจเป็นอันตรายหากสัตว์หลุดจากกรง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ดูแลสัตว์ป่ากว่า 500 ตัว บนพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ครอบคลุมเขตรอยต่อของ อ.ภูสิงห์ ขุขันธ์ และขุนหาญ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าก่อนคืนสู่ธรรมชาติ ปัจจุบันสัตว์ในความดูแลแบ่งออกเป็นหลายโซน อาทิ โซนสัตว์กีบ เช่น เก้ง กวาง ละมั่ง, โซนสัตว์ปีก เช่น เหยี่ยว อินทรี และโซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม […]

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

1 48 49 50 51 52 64
...