root

ระนอง 28 มิ.ย.- ชาวบ้านระนองผวารอยเท้าสัตว์ในสวนอำเภอกะเปอร์ พืชผลถูกกัดกินเสียหาย จนท.รุดพิสูจน์คาดเป็นหมีหมาสัตว์ป่าคุ้มครอง วอนอย่าทำร้ายหากพบอีกให้รีบแจ้ง จนท.ทันที เพื่อหาทางป้องกัน ความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ซอยป่าเลน  ม.1 ต.กะเปอร์  อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เกิดความวิตกกังวลจึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบร่องรอยของสัตว์ภายในสวนการเกษตร หลังพบว่าช่วง 2 วันที่ผ่านมา พืชผลถูกกัดเสียหายและมีรอยเท้าสัตว์อยู่ทั่วบริเวณ เกรงว่าเป็นสัตว์ป่าดุร้าย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระนอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชควนแม่ยายหม่อนเข้าพื้นที่ตรวจพิสูจน์ร่องรอยดังกล่าวพบว่าลักษณะของรอยเท้าสัตว์คล้ายหมีหมาที่เคยพบในป่าอำเภอกะเปอร์ คาดว่าออกมาหาอาหารมาประมาณ 1-2 ตัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือชาวบ้านอย่าทำลายสัตว์ป่า เนื่องจากหมีหมาเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และช่วงนี้ขอให้ระมัดระวังหรือชะลอการเข้าสวน หากพบร่องรอยหรือพบหมีหมาให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อจะได้วางแผนในการป้องกันไม่ให้ออกมาทำร้ายชาวบ้าน  สำหรับหมีหมาหรือหมีคน เป็นหมีขนาดเล็ก ลำตัวยาวประมาณ 1 เมตร บางครั้งร้องคล้ายเสียงสุนัขเห่ากระโชก จึงเรียกว่า หมีหมา เมื่อยืน 2 ขา จะยืนตัวตรง จึงเรียกอีกชื่อว่า หมีคน โดยหมีหมาชอบกินลูกไม้ ใบไม้อ่อน สัตว์เล็ก ๆ ที่ชอบมาก คือน้ำผึ้ง รวมทั้งเนื้ออ่อนของมะพร้าว.-สำนักข่าวไทย

เชียงใหม่ 28 มิ.ย.- หายกังวลแล้ว ผอ.รพ.มหาราชนครเชียงใหม่นำทีมแถลงยืนยันโลหิตชาวชนเผ่าใช้กับทุกคนได้ตามคุณสมบัติที่ตรงกัน ยินดีรับบริจาค ขณะที่ตัวแทนชนเผ่าไม่ติดใจ ชี้ข้อมูลข่าวอาจเคลื่อนคลาดได้ แต่เชื่อทุกฝ่ายเจตนาดีเพื่อช่วยสังคม ผศ.นพ.วิชัย ชื่นจงกลกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.นพ.เจษฏา สิงห์เวชสกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล และ น.ส.ประกาย สมพาน หัวหน้าหน่วยจัดหาและตรวจความปลอดภัยของโลหิต งานธนาคารเลือด แถลงกรณีสื่อนำเสนอข่าวของโรงพยาบาลประกาศเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันบริจาคโลหิต แต่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในข้อมูลบางประเด็น เกี่ยวกับคุณสมบัติเลือดของชนเผ่าไม่สามารถใช้กับบุคคลทั่วไปได้ เพราะมีสารบางชนิดว่า   อาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการสื่อสารมากกว่า ทางโรงพยาบาลยินดีรับบริจาคโลหิตจากชนเผ่าทุกคน ที่ผ่านมาก็มีการออกหน่วยรับบริจาคโลหิตไปตามสถานที่ต่าง ๆ ยืนยันว่าโลหิตของชนเผ่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนได้มาก ไม่มีปัญหาใด ๆ ด้าน ผศ.นพ.เจษฏา กล่าวว่า ข่าวสารที่สื่อนำเสนอไปจุดประสงค์หลักคือต้องการให้จิตอาสาทุกคนเข้ามาร่วมกันบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นโลหิตของชนเผ่าหรือประชาชนพื้นราบ แต่คงเข้าใจข้อมูลผิดไป อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลขอยืนยันว่าเลือดที่ได้บริจาคจากประชาชนทุกหยดนำไปใช้ประโยชน์ต่อชีวิตผู้ป่วยได้ พร้อมรณรงค์ให้จิตอาสาทุกคนมาร่วมกันบริจาคโลหิตได้ตลอดเวลา เพื่อช่วยเหลือชีวิตมนุษย์ ส่วน น.ส.ประกาย กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยกลุ่มชนเผ่าอาจมีบางคนที่มีภูมิคุ้มกันหรือแอนตี้บอดี้บางตัวที่สร้างขึ้นมาเอง ซึ่งไม่คอยเจอกับประชาชนพื้นราบ ดังนั้น การให้เลือดก็จะต้องขอรับในส่วนของญาติผู้ป่วยเป็นหลัก แต่กรณีนี้พบน้อยมาก เพียงหนึ่งในแสนเท่านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามตัวแทนของกลุ่มชนเผ่าหลังทราบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลว่า เข้าใจดีว่าการนำเสนข่าวของสื่อนั้นมีเจตนาดี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนมาช่วยกันบริจาคเลือด […]

พ่อเฒ่าวัย 91 จะกินข้าวต้มเหยาะซีอิ๊ว แต่ตาไม่ดี หยิบขวดน้ำปลาร้ามาราด บ่นเครียดเพราะแพ้ปลาร้า คันคอมาหลายวัน ผูกคอตายหนีความเครียด