Line Today การเมือง

กรุงเทพฯ 9 ส.ค.-“เรืองไกร” เตรียมยื่น”ชวน”คุมสอบ กมธ.งบฯตบทรัพย์อธิบดีฯแลกผ่านงบเอง  พร้อมจะขอเปิดชื่อ 113 ส.ส.ค้างหนี้”นกแอร์” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (10ส.ค.) ช่วงเช้าจะยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำเนินการเปิดเผยรายชื่อ ส.ส. 113 คนที่ค้างหนี้ บมจ.นกแอร์   และขอให้ตรวจสอบเรื่องที่อธิบดีคนหนึ่งออกมาระบุว่า ถูกอนุกรรมาธิการฯตบทรัพย์ 5 ล้านบาท แลกการปล่อยผ่านงบประมาณ  เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้กรรมาธิการสอบกันเอง และตน ซึ่งเป็นกรรมาธิการอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 1 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ. ศ. 2564 ยังถูกร้องขอไม่ให้เข้าไปยุ่ง ทั้งที่เป็นคนหนึ่งที่บังเอิญไปพบเหตุการณ์นี้ด้วย ทั้งนี้ทราบว่าเรื่องนี้มีการเคลียร์กันแล้ว ดังนั้นการจะสอบกันเองจึงไม่น่าจะได้ความจริง จึงขอให้นายชวน ลงมาดูแลตรวจสอบเรื่องนี้เอง เพราะสถานที่เกิดเหตุ คือ สภาผู้แทนราษฎร. สำนักข่าวไทย

โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ 9 ส.ค.-“วราวุธ” เชื่อ ม็อบเยาวชน หวังดีกับประเทศและรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอ แต่อยากให้ทุกฝ่ายอดทน มองภาพรวมปัญหา ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาภายหลัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มนักศึกษา และเยาวชน ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เห็นความตั้งใจจริงของน้อง ๆ นักศึกษา ที่ต้องการที่เห็นความก้าวหน้าของประเทศ และมีความหวังดีที่อยากจะปรับเปลี่ยน แต่บางครั้งสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำ อาจจะคาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง และทำไม่ได้อย่างที่คิด ดังนั้นต้องมองภาพรวมว่าสิ่งที่เรียกร้องจะก่อให้เกิดปัญหาในภายหลังหรือไม่ และการแก้ปัญหาจะนำกลับไปสู่จุดเดิมหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเปลืองทั้งแรงกาย แรงใจ จึงอยจากให้ทุกคนอดทน และค่อย ๆ แก้ และเห็นว่าสิ่งที่นักศึกษาเสนอทั้ง 3 ข้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่าอะไรที่ปรับแก้ได้ ก็จะพยายามทำให้ และดูแลทุกฝ่ายให้ดีที่สุด “นาทีนี้เราไม่ต้องการความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราต้องการเห็นความก้าวหน้าของสังคมไทย และสภาวะวิกฤตของโควิด-19 ก็ยังไม่ผ่านไป 100 % อีกทั้งผมยังมองว่า เป็นเรื่องยากลำบาก ที่จะรักษาสุขภาพให้คนไทยปลอดภัย พร้อมทั้งผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวไปข้างหน้า ส่วนประเด็นทางการเมือง […]

โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ 9 ส.ค.-“วราวุธ”เผยพรุ่งนี้จะเรียกผู้เกี่ยวข้องถามกรณีข่าวอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลโวยถูกเรียกสินบน 5 ล้านบาท ยืนยันการทำงานทุกฝ่ายต้องเป็นไปตามกฎหมาย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณี ที่มีรายงานข่าวระบุอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เผยมีอนุกรรมาธิการงบฯเรียกเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ ว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการพิจารณางบฯ ในกลุ่มกรรมาธิการ จนกระทั่งเป็นอนุกรรมาธิการ 8 คณะ ถือว่ากระทรวงทรัพย์ฯ ได้รับความเห็นใจอย่างดีจากกรรมาธิการและอนุกรรมการ  ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ เพราะได้รับข้อมูลมาแบบไม่ตรงกัน จึงไม่อยากแสดงความเห็นในขณะที่ข้อมูลยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามในวันพรุ่งนี้  (10 ส.ค.) ทั้งนี้เห็นว่าการทำงานของทุกฝ่ายทั้งข้าราชการและฝ่ายนิติบัญญัติ จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย “ การทำงานเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติกับราชการที่ต้องทำตามกฏหมาย ในขณะที่ฝ่ายบริหารจะทำหน้าที่ตามที่งบประมาณฯ ออกมา เพื่อที่จะพักดันให้การใช้งบฯ เป็นรูปธรรม การเข้าไปพูดคุยสอบถามเรื่องงบประมาณฯ อาจจะต้องมีการปรับลดให้เหมาะสม ซึ่งอาจจะสร้างความกระทบทั้ง หรือเลยเถิดไปบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะในแต่ละปีจะมีเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำ เดี๋ยวผมจะเรียกมาพูดคุยกันอีกทีในวันจันทร์ เพราะวันนี้ติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หลายคนไม่สะดวกที่จะให้ข่าว แต่ส่วนตัวเข้าใจว่า เหตุการณ์นี้จะผ่านไปด้วยดี พูดคุยกันได้ทุกฝ่าย เพราะการใช้งบประมาณ […]

พรรคประชาธิปัตย์ 9 ส.ค.-โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ หนุนสอบข่าวอนุกมธ.งบเรียกสินบนน้ำบาดาล เผย”แนน บุญย์ธิดา”เสนอกมธ.งบฯชุดใหญ่สอบแล้ว นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระบุมีอนุกรรมาธิการงบฯได้เรียกเงินจำนวน 5 ล้านบาทว่า ข้อเท็จจริงที่ออกมาเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมสับสน เพราะคนที่ออกมาพูดไม่มีการบอกรายละเอียด ว่าใครเป็นคนดำเนินการ ดังนั้นในเรื่องนี้พรรคฯ ขอสนับสนุนให้มีการตรวจสอบเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ถูกต้อง ครบถ้วน และขอยืนยันว่าน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ในฐานะที่เป็นประธานคณะอนุ กมธ ดังกล่าว ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ชุดใหญ่ ให้ตั้งกรรมการสอบ เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่างและโปร่งใสต่อไป “หากเราต้องการให้การเมืองสุจริต ไม่มีทางไหนดีกว่าการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา รวมทั้ง ส.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ในฐานะประธานคณะอนุ กมธ ชุดดังกล่าว ก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และที่สำคัญรัฐธรรมนูญมีการกำหนดไว้อย่างชัดเจนในเรื่องการห้ามมิให้ ส.ส. กระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ห้ามมิให้กระทำการไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม มีส่วนร่วมในการใช้งบประมาณหรือจัดทำโครงการ ฝ่าฝืนมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคฯ จะได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป”นายราเมศ กล่าว.สำนักข่าวไทย

โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ 9ส.ค.-หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาต้องแก้ไข ขอรอผลการศึกษาจากกรรมาธิการแก้ไขรธน. ก่อนเดินหน้า ยันพร้อมรับฟังเสียงประชาชน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวเปิดการประชุมสามัญประจำปี 2563 พรรคชาติไทยพัฒนา ว่า พรรคชาติไทยพัฒนาแม้จะไม่มีนายบรรหาร  ศิลปอาชาแล้ว แต่ก็ยังยึดมั่นกับอุดมการณ์ เดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่เป็นศัตรูกับผู้ใด พร้อมเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหนก็มีความสำคัญ ควรรับฟังความคิดที่แตกต่างซึ่งกันและกัน และขอขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสพรรคชาติไทยพัฒนาดูแล 2 กระทรวงที่สำคัญที่นับเป็นความภูมิใจของพรรค และรัฐมนตรีของพรรคก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา และสมควรได้รับการแก้ไข แต่ต้องรอฟังผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษา หลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อน ทราบว่าต้นเดือนกันยายนจะมีผลการศึกษาออกมา จากนั้นพรรคจึงค่อยประชุมพิจารณาหาแนวทางกันอีกครั้ง และพร้อมจะรับฟังความเห็นของประชาชน ที่ขณะนี้ก็ออกมากันหลายกลุ่ม  “ขอยืนยันกับสมาชิกพรรคว่า พรรคไม่ได้ให้ความสำคัญแค่ประเด็นเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ แต่ให้ความสำคัญในกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ ที่มาจะต้องชอบด้วยกฎหมาย หากไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลออกมาก็จะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน สมัยพ่อบรรหาร เป็นนายกรัฐมนตรี  ได้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปการเมืองและนำไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มีตัวแทนภาคประชาชนจากทุกอาชีพอยู่ ซึ่งถือเป็นรัฐธรรมนูญ 2540  […]

พรรคประชาธิปัตยจ์ 9 ส.ค.-“องอาจ” แนะพรรคร่วมฝ่ายค้าน-รัฐบาล หารือส.ว.หาข้อสรุปแก้รธน.ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนเดินหน้าผลักดันแก้รัฐธรรรมนูญ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญนี้มาตั้งแต่ต้น และเห็นว่าควรมีการแก้ไข จึงได้เสนอให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการเข้าร่วมรัฐบาล พร้อมกับมีข้อเสนอชัดเจนตั้งแต่แรกว่า ให้แก้มาตรา 256 ซึ่งอยู่ในหมวด 15 ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ และขณะนี้ กมธ. วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ที่มีกรรมาธิการจากเกือบทุกพรรคก็เห็นด้วย ส่วนการจะแก้ไขตรงไหน อย่างไร แต่ละพรรคก็มีข้อเสนอที่เหมือนกัน และก็มีที่แตกต่างกันบ้าง เพราะฉะนั้นทางพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านรวมไปถึงวิปของสมาชิกวุฒิสภา ควรไปประชุมปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  และนำสรุปเสนอต่อสาธารณชน ทั้งนี้ต้องยอมรับความจริงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้ต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้จริง “ทุกฝ่ายต้องพยายามแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง สร้างความยอมรับที่เห็นพ้องต้องกันในประเด็นสำคัญๆ ที่จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าได้ โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทุกรูปแบบ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จได้ตามความต้องการของทุกฝ่าย”นายองอาจ กล่าว นายองอาจ กล่าวด้วยว่า กรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ให้ ส.ว. มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นับเป็นเรื่องดีที่ ส.ว. มองเห็นจุดอ่อนของเรื่องนี้ที่ควรมีการแก้ไข เพราะในความเป็นจริง […]

กรุงเทพ 9ส.ค.-นายกรัฐมนตรี เชียร์ จัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมช่วยแก้ปัญหาสังคม มั่นใจดูแลผู้พิการไม่น้อยหน้าเวทีสากล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดร้านกาแฟคนพิการ APCD 60+Plus Bakery & Chocolate Cafe ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น นอกจากนายกฯจะเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาอุดหนุนเพื่อเป็นกำลังใจกับผู้พิการแล้ว ยังได้ชื่นชมร้านฯที่เป็นแบบอย่างของการทำธุรกิจเพื่อสังคม ส่งเสริมให้คนพิการได้ใช้ศักยภาพของตนเอง มีงานทำและมีรายได้อย่างยั่งยืน และขอบคุณกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ได้ขับเคลื่อนการจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม และการส่งเสริมอาชีพแก่ผู้พิการ นายกรัฐมนตรี ยังได้กำชับให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯเดินหน้าส่งเสริมให้มีวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise-SE) อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นธุรกิจที่มุ่งส่งเสริมการจ้างงานในท้องถิ่นและกลุ่มคนเปราะบาง เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือมีเป้าหมายในการแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ไม่ใช่มุ่งสร้างกำไรสูงสุดต่อผู้ถือหุ้น แต่ต้องนำกำไรไปทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งธุรกิจจะได้รับการยกเว้นเรื่องภาษีตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ปัจจุบัน มีจดทะเบียนแล้วประมาณ 130 แห่ง ซึ่งพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เพิ่งประกาศใช้ในปี พ.ศ. 2562 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมจะเป็นกลไกสำคัญให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ยิ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 มีกลุ่มคนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบในเรื่องการจ้างงานและรายได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง […]

ประธาน กกต.ตรวจเยี่ยมส่งมอบอุปกรณ์ ยันพร้อมเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) เผยมีเรื่องร้องเรียนเพียง 2 เรื่อง

กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-นายกฯ ชื่นชมบทบาทสื่อ พร้อมนำข้อเสนอแนะมาปรับใช้ ขอให้ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมบทบาทของสื่อมวลชน โดยจากการเดินสายพบปะ รับฟังความคิดเห็นของสื่อมวลชน ทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ พบว่าหลายข้อเสนอแนะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาปรับใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติโดยรวม นอกจากนี้หลายความเห็นยังสอดคล้องกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ โดยเฉพาะการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่กับการดูแลงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่กันให้เกิดความสมดุลมากที่สุด น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า การพบปะสื่อมวลชนยังเป็นโอกาสอันดีที่นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงการดำเนินงานของรัฐบาล พร้อมสร้างความเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะขับเคลื่อนในอนาคต ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าสื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความรับรู้ต่อประชาชน จึงหวังให้ได้มีการนำเสนอประเด็นต่าง ๆ ต่อสังคมอย่างครอบคลุมรอบด้าน เพื่อที่ประชาชนจะได้รับรู้ข่าวสารในหลายแง่มุม อันจะมีผลประกอบการตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ “นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังหวังให้สื่อมวลชนได้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชนและชาวต่างชาติต่อประเทศไทย เพราะการสร้างความเชื่อมั่น ถือเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ซึ่งรัฐบาลเองพร้อมดำเนินการทุกด้าน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และหวังว่าหลังจากนี้การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนกับรัฐบาลจะมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยให้พ้นจากสถานการณ์อันเกี่ยวเนื่องจากโรคระบาดโดยเร็ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.-สำนักข่าวไทย