กทพ. ชวนบอกรักแม่ในกิจกรรม “MOM & ME บอกรักแม่”
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “MOM & ME บอกรักกับ กทพ.” ลุ้นรับรางวัลการเติมเงินในบัตร Easy Pass มูลค่า 300 บาท จำนวน 100 รางวัล ร่วมสนุกได้ตั้งแต่ 2-27 ส.ค.64
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “MOM & ME บอกรักกับ กทพ.” ลุ้นรับรางวัลการเติมเงินในบัตร Easy Pass มูลค่า 300 บาท จำนวน 100 รางวัล ร่วมสนุกได้ตั้งแต่ 2-27 ส.ค.64
28 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Vox Check (ยูเครน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: วัคซีนโควิด 19 ไม่มีไมโครชิปที่ช่วยในการจุดหลอดไฟ ปัจจุบันมีหลอดไฟหลายชนิดที่ให้แสงสว่างโดยไม่ต้องต่อสายไฟ เช่นหลอดไฟที่มีแบตเตอรี่ในตัวหรือมีสวิทช์เปิดปิดที่ขั้วหลอดไฟ ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ในประเทศยูเครน โดยอ้างว่าไมโครชิปที่อยู่ในวัคซีนโควิด 19 ทำให้ต้นแขนจุดหลอดไฟติด โดยมีคลิปวิดีโอสาธิตการจุดหลอดไฟด้วยการแนบที่ต้นแขนของผู้หญิงที่อ้างว่าฉีดวัคซีนโควิด 19 มาแล้ว FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: การตรวจสอบของ Vox Check ไม่อาจยืนยันได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในคลิปวิดีโอเคยฉีดวัคซีนโควิด 19 มาแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่พบว่าส่วนประกอบของวัคซีนโควิด 19 มีไมโครชิปที่ช่วยในการจุดหลอดไฟตามที่กล่าวอ้าง ปัจจุบันมีหลอดไฟหลายชนิดที่สามารถให้แสงสว่างโดยไม่ต้องต่อสายไฟ เช่นหลอดไฟที่มีแบตเตอรี่ในตัว หลอดไฟบางชนิดยังมีสวิทช์เปิดปิดที่ขั้วหลอดไฟ ซึ่งสามารถเปิดไฟได้เพียงแค่มือสัมผัส รวมถึงหลอดไฟที่สั่งการเปิดปิดด้วยรีโมท คอนโทรล นอกจากนี้ ในอินเทอร์เน็ตยังมีคลิปวิดีโอมากมายที่สาธิตการประดิษฐ์หลอดไฟที่ให้แสงสว่างเมื่อสัมผัสโดนผิวหนังอีกด้วย ข้อมูลอ้างอิง: https://voxukraine.org/nepravda-pry-kontakti-z-mistsem-vaktsynatsiyi-mozhe-zagoritys-lampa/ หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”LINE :: @SureAndShare หรือคลิก […]
27 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Politifact (สหรัฐอเมริกา)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: ไมโครชิปมีขนาดความยาว 0.5 นิ้ว ใหญ่เกินกว่าจะผ่านรูเข็มฉีดยาได้ ส่วนประกอบที่ AstraZeneca เปิดเผย ไม่มีไมโครชิปอยู่ในวัคซีนอย่างที่กล่าวอ้าง ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านทาง TikTok โดยผู้ที่อ้างว่าเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท AstraZeneca บอกว่าในวัคซีนมีไมโครชิป เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ทำให้ตัวเขาเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ และมีข้อความแสดงการเชื่อมต่อที่ระบุว่า Connecting to AstraZeneca_ChAdOx1-S FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: ในความเป็นจริงแล้ว ข้อความแสดงการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกสามารถตั้งชื่ออย่างไรก็ได้ ไม่ใช่สิ่งยืนยันว่าในวัคซีน AstraZeneca มีไมโครชิปที่ส่งสัญญาณ Bluetooth ได้ บริษัท AstraZeneca เปิดเผยส่วนประกอบของวัคซีนโควิด 19 ให้สาธารณชนสามารถสืบค้นได้ ซึ่งยืนยันได้ว่าไม่มีไมโครชิปเป็นส่วนประกอบอย่างที่กล่าวอ้าง […]
นายกรัฐมนตรี ติดตามการทำงานศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ณ สถานีกลางบางซื่อ และโรงพยาบาลบุษราคัม
27 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Maldita (สเปน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: หน้ากากอนามัยกรองได้แต่อนุภาคของเชื้อโรค ไม่สามารถกรองมวลที่มีขนาดเล็กเช่นแก๊สได้ ดังนั้นหน้ากากจึงไม่ทำให้ผู้สวมต้องส่งสูดดมคาร์บอนไดออกไซด์ของตนเอง ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสเปน โดยอ้างว่าผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยต้องสูดดมของเสียที่ออกจากปอดกลับเข้าสู่ร่างกาย FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: มาเรีย เอลิซ่า คัลเล ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Complutense University of Madrid อธิบายว่าการสวมหน้ากากอนามัยไม่ทำให้เราสูดดมเอาคาร์บอนไดออกไซด์กลับคืนสู่ร่างกาย เนื่องจากหน้ากากถูกออกแบบมาเพื่อกรองอนุภาคของเชื้อโรค แต่ไม่สามารถกรองมวลที่มีขนาดเล็กเช่นแก๊สได้ ส่วนที่เป็นทิชชูของหน้ากากจะปล่อยให้แก๊สผ่านเข้าออกได้ ซึ่งออกซิเจนที่มนุษย์หายใจเข้าและคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์เราหายใจออกล้วนเป็นแก๊ส หากหน้ากากกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้ในหน้ากาก ศัลยแพทย์ที่ต้องสวมหน้ากากวันละหลายชั่วโมงคงจะต้องเสียชีวิตแน่นอน ส่วนข้ออ้างที่ว่าการสวมหน้ากากเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา, แบคทีเรีย, ปรสิต และไวรัส ที่ทำให้ป่วยเป็นปอดอักเสบก็ไม่เป็นความจริง มิเกล บาร์รูโก แฟร์แรโร ผู้อำนวยการศูนย์โรคปอด โรงพยาบาล Clínico de Salamanca ยืนยันว่าการสวมหน้ากากอย่างถูกวิธีไม่ใช่สาเหตุของการเกิดโรค เพื่อเลี่ยงการติดเชื้อทางอ้อม ผู้สวมหน้ากากควรเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสที่ตัวกรองของหน้ากาก, ไม่ควรสวมหน้ากากนานเกิน […]
กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – โครงการผ้าไทยสวมใส่ได้จริง “พลิ้ว” เป็นโครงการที่ ก.วัฒนธรรม ร่วมกับ บมจ.อสมท เชิญชวนคุณผู้ชมสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย ตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รณรงค์ให้ทุกคนสวมใส่ผ้าไทย สำหรับชุดผ้าไทยวันนี้ (26 ก.ค.) (ชุดผู้หญิง) เป็นชุดเสื้อคลุม & กระโปรง ผ้าไหม 4 เส้น ทอมือ เพ้นท์ลายใบไม้ แรงบันดาลใจ : ออกแบบเพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ เหมาะกับผู้หญิง working woman สวย เฉี่ยว มั่นใจ ทันสมัย กระโปรงออกแบบให้ใส่แล้วส่งเสริมให้รูปร่างดูเพรียว (ชุดผู้ชาย) หยิบผ้าครามมาทำเท่ แจ็กเก็ตผ้าครามโทนสีเทา นำมาจับคู่กับผ้าขิดแบบโบราณ ลายปูซึ้ง ลายนี้มีทออยู่ที่เดียวใน จ.สกลนคร กลุ่มทอผ้าครามแม่คำปอง อ.วานรนิวาส นำมาออกแบบเป็นแจ็กเก็ตทรงเท่ สวมสบายได้ทุกโอกาส. – สำนักข่าวไทย
26 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Maldita (สเปน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: Ethylene Oxide ใช้ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ไม่ได้ใช้ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยทุกชนิดอย่างที่กล่าวอ้าง ไม่พบหลักฐานว่าการใช้สิ่งของที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในสเปน โดยอ้างว่าหน้ากากอนามัยถูกฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide ที่เป็นสารก่อมะเร็งและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: Ethylene Oxide เป็นก๊าซไม่มีสี ใช้ในการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วโลก การตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย Fullfact ยืนยันว่า แม้การสัมผัส Ethylene Oxide ในปริมาณมากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและทำให้เป็นมะเร็งได้ แต่ไม่พบหลักฐานว่าการใช้สิ่งของที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขของประเทศสเปนยืนยันผ่านเว็บไซต์ Maldita ว่า ไม่ใช่หน้ากากอนามัยทุกชนิดจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide อย่างที่กล่าวอ้าง และย้ำว่าหน้ากากอนามัยที่จำหน่ายในประเทศได้รับการตรวจสอบมาตรฐานแล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้สวมใส่ เช่นเดียวกับสำนักงานกำกับดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขของอังกฤษ (MHRA) ที่อธิบายว่ากระบวนการฆ่าเชื้อด้วย […]
คนกรุง ทำบุญเข้าพรรษาแบบนิวนอร์มอล สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ป้องกันโควิด
24 กรกฎาคม 2564ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Vox Check (ยูเครน)แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ ประเภทข่าวปลอม: ข้อมูลเท็จ บทสรุป: วัตถุประสงค์ของการฉีดวัคซีนคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน แต่ละประเทศมีนโยบายเกี่ยวกับวัคซีนแตกต่างกันไป และไม่ใช่ทุกประเทศที่บังคับให้ประชาชนทุกคนต้องฉีดวัคซีน ข้อมูลที่ถูกแชร์: มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านอินโฟกราฟฟิคในประเทศยูเครน โดยเนื้อหาอ้างว่าเหตุผลที่แต่ละประเทศบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน เพื่อสร้างกำไรให้กับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนและผู้ที่เกี่ยวข้อง FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง: แม้ว่าการผลิตวัคซีนจะสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากผู้เข้ารับการวัคซีนหรือผ่านทางเงินภาษีที่จ่ายโดยรัฐบาล แต่วัตถุประสงค์หลักของการรณรงค์ฉีดวัคซีน คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน และไม่ใช่ทุกประเทศที่มีนโยบายบังคับให้ประชาชนต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนทุกคน ในแต่ละประเทศจะมีนโยบายเกี่ยวกับวัคซีนแตกต่างกันไป รายงานของสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ (NIAID) ระบุว่า ทุกรัฐในสหรัฐฯ และบางรัฐในประเทศแคนาดามีข้อกำหนดให้เด็กทุกคนต้องเข้ารับวัคซีนก่อนเข้าเรียน ในหลายรัฐมีการอนุโลมให้สามารถปฎิเสธวัคซีนด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือเหตุผลทางศาสนาและความเชื่ออื่นๆ มีเพียงรัฐมิสซิสซิปปีและเวสต์ เวอร์จิเนียเท่านั้น ที่การปฎิเสธวัคซีนต้องเป็นไปตามเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น แม้เด็กอเมริกันส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีน แต่มีเยาวชนสหรัฐฯ ถึง 10% ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลต่างๆ ประเทศออสเตรเลียไม่มีนโยบายบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน แต่มีนโยบายช่วยเหลือการเงินแก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศ โดยผู้ปกครองจะได้รับเงินช่วยเหลือโดยไม่หักภาษีจำนวน 129 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เมื่อลูกๆ ของพวกเขาเข้ารับวัคซีนในช่วงวัย 18 ถึง 24 เดือน และจะได้รับเงินช่วยเหลืออีกครั้งเมื่อเด็กเข้ารับวัคซีนอีกครั้งในช่วงวัย […]
23 ก.ค.64-ความเคลื่อนไหวการเก็บตัวฝึกซ้อมของ 2 นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ทั้ง “เทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะเบอร์ 1 ของโลก ในรุ่น 49 กก. และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดหนุ่มรุ่น 58 กก. เข้าสู่วันที่หกของการฝึกซ้อม โดยช่วงเช้า “เสี่ยบิ๊ก”ธนฑิตย์ รักตะบุตร ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย โค้ช เช ยอง ซอก ได้นำนักกีฬาไปชั่งน้ำหนักก่อนการแข่งขัน 1 วัน ซึ่ง ผลปรากฏว่า ทั้ง เทนนิส และ จูเนียร์ ชั่งผ่านพิกัดของตัวเองสบาย โดย พาณิภัค หนัก 48.7 กก. และรามณรงค์ 57.5 กก. ซึ่งทั้งคู่ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อย “โค้ชเช” เช ยอง ซอก กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว การชั่งน้ำหนักก็ผ่านไปด้วยดี นักกีฬาสามารถกินอาหารได้เต็มที่ เหลือแค่เพียงการแข่งขัน ซึ่งในช่วงบ่ายเราได้หาที่ฝึกซ้อมเบาๆ เพราะที่เมกุโระ ยิมเนเซี่ยมเซ็นเตอร์ ปิด เนื่องจากฝ่ายจัดต้องการให้นักกีฬาไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ทำให้เรามาฝึกซ้อมที่ฟิตเนสตรงข้ามที่พักนักกีฬา ซึ่งไม่ได้ฝึกหนักอะไรมาก เพียงแค่วอร์มร่างกาย และทบทวนเทคนิคต่างๆก่อนการแข่งขัน จากนั้นหลังจากทานอาหารเย็นจะให้นักกีฬามาคุยกันอีกครั้งเพื่อรวมแรงใจเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมาย โค้ชเช ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับสายการแข่งขัน เรารู้มาก่อนแล้วว่านักกีฬาไทยทั้ง 2 รุ่น จะอยู่สายบนหรือสายล่าง เพราะโอลิมปิก ครั้งนี้ จัดตามแร็งกิ้งโลก แต่ในโอลิมปิกเกมส์ นอกจาก 6 อันดับแรกของโลกแล้ว ที่เหลือทุกคนต้องการตัวมาจากทวีปต่างๆ ซึ่งเป็นคนเก่งทั้งนั้น โดยในรุ่นของ จูเนียร์ รอบแรก เจอ ออสเตรเลีย ซึ่งฝีมือไม่ธรรมดา เขาเคยแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 3 ครั้งรวมครั้งนี้ โดยมีข้อดีคือรูปร่างสูงถึง 191 ซม.เทียบกับ จูเนียร์ ต่างกันมาก แต่ถึงอย่างไร น้ำหนักเราเท่ากัน เราศึกษาเขามาว่าเล่นอย่างไรถึงจะดีที่สุด และสิ่งที่สำคัญ จูเนียร์ ถ้ามั่นก็มีโอกาส เพราะเทคนิค ความคล่องตัวเราดีกว่าเขา ส่วนน้องเทนนิส เรามีแร็งกิ้งเป็นเบอร์ 1 ซึ่งในรุ่นนี้ แร็งกิ้งอันดับ 16 กับ 17 ต้องเตะกันก่อน โดยคู่นี้ใครชนะจะเจอกับเรา ซึ่งเราก็ต้องดูเขาแข่งขันระหว่าง อิสราเอล กับ เปอร์โตริโก้ ซึ่งตนมองว่าน่าจะเป็นอิสราเอล โดยเราได้ศึกษาการเล่นของเขามาน่าจะชนะได้ ส่วนรอบสอง เราเจอน่าจะเป็นเวียดนาม ซึ่งเขาเป็นเจ้าของเหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเราเคยเจอกันมาแล้วก็เอาชนะมาได้ ไม่น่ามีปัญหา ส่วนรอบรอง ชนะเลิศ โอกาสจะได้เจอระหว่าง ไทเป กับเกาหลีใต้ โดยผมมองว่า โอกาสชนะให้ไทเป 60% เกาหลี 40% ซึ่งถ้าเป็นใครเราก็ต้องศึกษาอีกทีหนึ่ง โดยตอนนี้พวกเราเรื่องเทคนิค ความพร้อมเรา 100% จิตใจเราเต็มที่ ต้องดูว่าวันแข่งขันเป็นวันดี ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ซึ่งตนพูดตลอดว่า ครั้งนี้อย่าคิดว่าเป็นโอลิมปิก ให้คิดว่าเป็นการแข่งกรังด์ปรีซ์หรือเทสอีเวนต์ และยิ่งดีไม่มีคนดู เงียบ โดยบอกทั้งสองคนก็เข้าใจและดีขึ้น ผมเชื่อในทั้ง 2 คน เต็มที่ ต่อข้อถามที่ว่า สื่อต่างชาติยกให้เกาหลีใต้ เป็นเต็งเหรียญทอง โค้ช เช กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราเคยเตะกันมา 4-5 ครั้ง เราชนะมาได้หมด แต่กีฬาต่อสู้ มีแพ้ มีชนะ ซึ่งสไตล์การต่อสู้เราดีกว่าเยอะจริงๆ ส่วนตัวแล้วเป็นห่วงคือเจอไทเปเพราะเขาเป็นนักกีฬารุ่น 53 กก. เคยได้เหรียญทองแดง เอเชี่ยนเกมส์ เขาลดน้ำหนักลงมาแข่ง เราไม่เคยเจอ แต่ก็ยังมั่นใจ เรารอนานมาก รอ 1 ปีกว่า ขอให้คนไทยเชียร์กันดังๆ เราสู้ จะทำผลงานให้ดีที่สุด-สำนักข่าวไทย.
ปลัดกระทรวงการคลังร่วมแก้ปัญหาเตียงขาด มอบพื้นที่หน่วยงานในสังกัด โดยเฉพาะกรมสรรพากรและกรมสรรพสามิต นำร่องทำสถานที่ดูแลผู้ป่วย Covid-19 ด่วน
สภากาชาดไทยยืนยันวัคซีนโมเดอร์นาที่จัดสรรให้อบจ. ต้องฉีดให้กลุ่มเป้าหมาย
กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – เลขาธิการสภากาชาดไทยมั่นใจว่า แนวทางบริหารจัดการวัคซีนที่กำหนด จะป้องกันให้อบจ. ทุกแห่งที่ขอรับมา นำไปฉีดแก่กลุ่มเปราะบางตามที่กำหนด ไม่สามารถฉีดให้ผู้บริหารท้องถิ่นและครอบครัวได้ เผยข่าวดี ปีหน้าขอซื้อวัคซีนรุ่น 2 ป้องกันเชื้อไวรัสกลายพันธุ์
นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทยกล่าวว่า ได้ปิดรับการขอจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาตั้งแต่เที่ยงวานนี้ (22 ก.ค.) โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หลายจังหวัดยื่นขอรับการจัดสรร จนเกินกว่า 1 ล้านโดสที่สภากาชาดไทยสั่งซื้อ ทั้งนี้ยืนยันว่า ทุกอบจ. ต้องทำแผนการฉีดวัคซีนฟรีที่รับรองโดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเสนอมาด้วย โดยกลุ่มเป้าหมายต้องเป็นกลุ่มเปราะบาง 5 กลุ่ม จึงมั่นใจว่า จะป้องกันการนำไปฉีดให้ผู้บริหารอบจ. และครอบครัวตามข่าวได้แน่นอน
ทั้งนี้ วัคซีนที่จะจัดสรรไปยังอบจ. ต่างๆ จะต้องนำไปเก็บที่โรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดนั้นๆ เนื่องจากต้องควบคุมอุณหภูมิ โดยบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าแจ้งว่า ต้องเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิระหว่าง 36-46 องศาฟาเรนไฮต์ (2.22-7.77 องศาเซลเซียส) ซึ่งมีอายุเก็บเพียง 30 วัน และหากเก็บในช่องแช่แข็งที่อุณหภูมิ -4 องศาฟาเรนไฮต์ (-20 องศาเซลเซียส) จะสามารถเก็บได้ 7 เดือน
นายเตชกล่าวต่อว่า วัคซีนที่จะมาถึงไตรมาส 4 ของปีนี้ 1 ล้านโดส ทางสภากาชาดไทยสำรองไว้ให้บุคลาการทางการแพทย์ 150,000 โดสและจัดสรรให้อบจ. 850,000 โดส รวมแล้วฉีดให้ได้ 500,000 คนเท่านั้น ขณะที่คนด้อยโอกาสในประเทศไทยมีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งขณะนี้สภากาชาดไทยมีกำลังที่จะช่วยรัฐเพียงเท่านี้ แต่ข่าวดีคือ ในปีหน้าทางโมเดอร์นาจะผลิตวัคซีนรุ่น 2 ที่ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ออกมาซึ่งสภากาชาดไทยได้ประสานกับบริษัทผู้นำเข้าเพื่อจัดซื้อแล้ว โดยในปีหน้าบริษัทที่นำเข้าสามารถทำสัญญากับสภาพกาชาดไทยได้โดยตรงซึ่งจะทำให้การจัดหาวัคซีนมาช่วยเหลือประชาชนทำได้คล่องตัวขึ้น
ทางด้านนายชูพงศ์ คำจวง นายกอบจ. สกลนครแถลงยืนยันว่า อบจ. ได้ขอรับการจัดสรรวัคซีนจากสภากาชาดไทยเพื่อนำมาฉีดให้แก่กลุ่มเปราะบางตามที่กำหนด ไม่ได้จะนำมาฉีดให้หัวหน้าส่วนราชการและครอบครัวตามที่เป็นข่าว ส่วนหนังสือที่ปรากฏออกมานั้น เป็นการสำรวจรายชื่อบุคลากรอบจ. ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เท่านั้น นอกจากนี้การทำอนุมัติแผนฉีดวัคซีนว่า จะฉีดให้ใครเป็นจำนวนเท่าไรเป็นอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ไม่ใช่อำนาจของอบจ. – สำนักข่าวไทย