ตํารวจไซเบอร์จับหนุ่มอันตราย ขายยาลักหลับ

นครปฐม 9 มิ.ย.-ตํารวจไซเบอร์จับหนุ่มอันตราย ขายยาลักหลับและผลิตยานอนหลับโพสต์คอนเทนต์ขายออนไลน์ ค้นบ้านเจอคลิปหลักฐานและยานอนหลับเพียบ ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ตราจสอบพบโฆษณาขายสื่อลามกอนาจารประเภทลักหลับ ในแอปพลิเคชันออนไลน์ มีการโพสต์ข้อความระบุ “ขายน้ำหลับ และคลิปลักหลับ” รวมทั้งเนื้อหาเชิญชวนผู้มีรสนิยมชายรักชายดูคลิปแนวหลอกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วแอบใส่ยานอนหลับแล้วกระทำอนาจาร รวมทั้งการโฆษณายายานอนหลับ โดยให้ผู้ที่สนใจเพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันสีเขียว ตำรวจไซเบอร์เร่งสืบสวนพบว่าภายในกลุ่มดังกล่าว มีการโพสต์ขายยานอนหลับและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารแนวลักหลับจำนวนมาก จนทราบตัวผู้ใช้งานบัญชีดังกล่าว จึงรวบรวมพยานหลักฐาน และยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐมและเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อไปถึง พบนายกิตติพัทธ์ อายุ 39 ปี จึงแสดงหมายค้นและเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบของกลางจำนวน 4 รายการ โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง และอุปกรณ์ในการผลิตยานอนหลับ จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ พบหลักฐานที่ผู้ต้องหาได้โพสต์โฆษณาขายยานอนหลับผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมหลักฐานการเชิญชวนให้เข้าร่วมกลุ่มลับ ที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานอนหลับอย่างผิดกฎหมาย และเร่งขยายผลถึงบุคคลอื่นที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ที่อาจตกเป็นผู้เสียหาย รวมถึงแหล่งที่มาของยานอนหลับต่อไป.-416.-สำนักข่าวไทย

ผบช.ภ.2 สั่งเข้ม! คุม 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย.-ผบช.ภ.2 สั่งเข้ม! คุม 3 จังหวัดชายแดน “สระแก้ว-จันทบุรี-ตราด” ตรึงกำลัง คัดกรองทุกจุด ป้องกันเหตุ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2568 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) สั่งการด่วน! ถึงทุกสถานีตำรวจในพื้นที่ โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี และตราด หลังเกิดสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยเน้นย้ำให้ “ตรึงกำลัง-คัดกรองเข้ม-บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด” เพื่อปกป้องอธิปไตย คุ้มครองประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ชายแดน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 ทุกพื้นที่ เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นเหตุร้าย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา กำหนดให้พื้นที่เหล่านี้เป็น “พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ” พร้อมสั่งระดมกำลังจากหน่วยต่าง ๆ ทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมตั้งจุดตรวจ […]

ทลายคลังสินค้าปลอม ยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง กรมทรัพย์สินทางปัญญา และตัวแทนแบรนด์สินค้า บุกทลายคลังเก็บรองเท้าปลอม ซุกลานจอดรถศูนย์การค้าย่านปทุมวัน จับผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง กรมทรัพย์สินทางปัญญา และตัวแทนแบรนด์สินค้า บุกทลายคลังเก็บรองเท้าปลอมซุกลานจอดรถศูนย์การค้าดังย่านปทุมวัน จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท พบมีการแบ่งเป็นห้องๆ ติดชื่อห้องว่า “ฝ่ายวิศวกรรม” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย เตือนการซื้อและใช้รองเท้าปลอม นอกจากจะละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้สวมใส่ อีกทั้งยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย

บุกทลายห้องเย็น ลอบนำเข้าขาไก่เถื่อนกว่า 346 ตัน

8 มิ.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง บุกทลายห้องเย็นกลางเมืองสมุทรสาคร ลักลอบนำเข้าขาไก่เถื่อนกว่า 346 ตัน เสี่ยงโรคอันตราย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. นำกำลังเข้าตรวจค้น ห้องเย็นแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมยึดของกลาง เป็นซากขาไก่ จำนวน 346,390 กิโลกรัม หรือ 346.39 ตัน มูลค่า 24,247,300 บาท คดีนี้สืบเนื่องจากตำรวจ ปคบ.ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบห้องเย็น บริษัทเอกชน ในพื้นที่ตำบลนาดี หลังมีเบาะแสลักลอบนำเข้าซากสัตว์ปีกจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบพบซากขาไก่แช่แข็ง น้ำหนักกว่า 346,390 กก. (ประมาณ 346.39 ตัน)โดยแหล่งผลิตระบุชัดเจนว่านำเข้าจากหลายประเทศ ได้แก่ ชิลี บราซิล ตุรกี เยอรมนี ซึ่งสินค้าดังกล่าวถูกจัดเก็บในสภาพแช่แข็ง ไม่มีเอกสารอนุญาตนำเข้า และไม่มีการตรวจสอบปลอดโรคตามกฎหมาย จึงอายัดซากขาไก่ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง และเพื่อสอบสวน ต้นตอการนำเข้า หากพบความผิดเพิ่มเติม […]

แผ่นปูน-ดินสไลด์ทับคนงาน ขณะวางท่อ ถ.พระราม 2

กทม. 8 มิ.ย.- คนงานชาวเมียนมาถูกแผ่นปูน-ดินสไลด์ทับ เสียชีวิต ขณะวางท่อระบายน้ำในหลุมลึกกว่า 3 เมตร เขตก่อสร้างถนนพระราม 2 เวลา 01.54 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2568 พนักงานสอบสวน สน.บางมด ได้รับแจ้งเหตุประชาชนพลัดตกหลุมลึก พื้นที่เขตก่อสร้าง ถนนพระรามที่ 2 ใกล้เคียงซอย 29 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงจอมทอง และอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเหตุเบื้องต้น พบนายอูเร อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นคนงานก่อสร้าง อยู่ในหลุมลึกประมาณ 3 เมตร นอนหมดสติอยู่ในดินโคลนและน้ำท่วมขังกว่าครึ่งตัว สภาพนอนคว่ำหน้าในน้ำ กู้ภัยและเพื่อนคนงานจึงนำเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออก และอุปกรณ์ลงไปช่วยเหลือ เมื่อตรวจสอบชีพจรพบว่าสัญญาณชีพอ่อน เจ้าหน้าที่จึงพยายามปั๊มหัวใจ และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน ขณะที่ล่าสุด 07.30 น. รับแจ้งผู้บาดเจ็บเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 นายมิว อายุ […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ไฟไหม้บ้านไม้ 9 หลัง ซอยสุคันธาราม 21

กทม. 7 มิ.ย.-เพลิงไหม้บ้านไม้ 9 หลังกลางกรุง ซอยสุคันธาราม 21 เขตดุสิต เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงอย่างเต็มที่จนควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาอันสั้น ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ขณะที่หน่วยงานรัฐเร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เวลา 10.57 น. ศูนย์วิทยุพระราม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในซอยสุคันธาราม 21 แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต ลักษณะพื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลัง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายรวม 9 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงดุสิตเร่งเข้าระงับเหตุทันที พร้อมด้วยอุปกรณ์ดับเพลิงครบครัน โดยสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดได้ในเวลา 11.42 น. เบื้องต้นไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย จากการพยายามช่วยดับเพลิง โดยทั้งสองรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขนเนื่องจากถูกไฟลวก และได้รับการปฐมพยาบาลแล้วเบื้องต้น ทางด้าน นายเทียนชัย วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการเขตดุสิต เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหายในเบื้องต้นพบบ้านเรือน 9 หลังได้รับความเสียหายทั้งหมด ขณะนี้สำนักงานเขตดุสิต ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณหน้าวัดสุคันธาราม เพื่ออำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น การลงทะเบียนผู้ประสบภัย […]

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

หมอตุลย์ โต้เลขาฯ รมว.สธ. ลั่นแชตดังกล่าว เป็นไลน์กลุ่มบุคคล

กทม. 7 มิ.ย.-หมอตุลย์ โต้ หลังเลขาฯ รมว.สาธารณสุข ส่งบันทึกถึง ผอ.ศูนย์ปอท. ให้ตรวจสอบจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ปมแชตไลน์ ชี้ รมว.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจตรวจสอบ และแชตดังกล่าว เป็นไลน์กลุ่มบุคคลไม่ใช่กลุ่มกรรมการแพทยสภา ย้ำการพิจารณาของแพทยสภาเป็นไปตามหลักฐาน ปราศจากอคติ ตามที่นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ได้ส่งบันทึกถึงผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ตรวจสอบจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และกรรมการแพทยสภา กรณีส่งข้อความในกลุ่มไลน์แพทยสภาเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และมีอคติในการวินิจฉัยการรักษาอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร โดยอ้างถึงหนังสือร้องเรียนของนายชวภณ กมลคณาวุฒิ ถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ขอให้พิจารณาตรวจสอบจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และกรรมการแพทยสภา นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จึงขอเรียนชี้แจงว่า1.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ไม่มีอำนาจหน้าที่ใดๆ ในการพิจารณาจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และกรรมการแพทยสภา 2.แพทยสภามีอำนาจหน้าที่พิจารณาจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรมเท่านั้น หากเป็นการกระทำผิดจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในเรื่องอื่นใด ที่ไม่ใช่การประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทยสภาไม่มีอำนาจพิจารณาในเรื่องนี้ เช่นการฉ้อโกง หนีภาษี ขโมยของ หรือทำร้ายร่างกาย อันเป็นการกระทำผิดกฎหมายแพ่งและอาญาที่เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของวิชาชีพแพทย์ เมื่อหน่วยงานอื่นได้สอบสวนลงโทษแล้ว และมีผู้กล่าวโทษต่อแพทยสภา แพทยสภาจึงจะพิจารณาว่าผู้ประกอบวิชาชีพนั้นจะต้องถูกลงโทษหรือไม่ในสถานใด 3.เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า มีการอ้างถึง […]

DSI รับต่อ สอบ JKN ปมตกแต่งงบการเงินบริษัท หลัง ก.ล.ต.กล่าวโทษ

ดีเอสไอ 6 มิ.ย. – จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (JKN) 2.นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และ 3. น.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีร่วมกันกระทำ หรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ และ/หรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2567 ของ JKN เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และนำส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report) ที่มีงบการเงินเท็จ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคล และนิติบุคคลมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ […]

“ณฐพร-ลูกชาย” อยู่แดนกักโรคเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พบมีโรคประจำตัวตามวัย

กรมราชทัณฑ์ 6 มิ.ย. – จากกรณีอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน อายุ 72 ปี และนายรัฐสิทธิ์ โตประยูร บุตรชาย อายุ 50 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ภายหลังศาลอาญารัชดาภิเษก ประทับรับฟ้องจำเลยทั้งสองและยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างพิจารณาคดี ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองกับพวกแบ่งหน้าที่กันทำ กระทบต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะหลบหนีจึงไม่อนุญาต เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมตัวจำเลยทั้งสองไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วานนี้ (5 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายณฐพร โตประยูร พร้อมลูกชาย ฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยทำประวัติผู้ต้องขังตามระเบียบและตรวจสุขภาพ พบว่า นายณฐพร ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว 3-4 โรคตามวัย แต่ไม่ได้พกยาติดตัวมาด้วย เพราะไม่คาดคิดว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว […]

“บูม สุภาพร” ร้อง ตร.ไซเบอร์ ถูกแอบอ้างปล่อยคลิป Fake new

บช.สอท. 6 มิ.ย. – “บูม สุภาพร” นักแสดงสาว เข้าพบตำรวจไซเบอร์ ถูกแอบอ้างปล่อยคลิป Fake new ลวงเงินลงทุนนางเเบบดัง 10 ล้านบาท บูม- สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง ดารานักเเสดงและพิธีกร เดินทางเข้าแจ้งความที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี กรณีที่มี Fake new ในโลกโซเชียลกล่าวหาว่าฉ้อโกง โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ นางเเบบชื่อดัง ด้วยการหลอกให้ลงทุนสูญเงินเกือบ 10 ล้าน บูม สุภาพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ไปเห็นคลิปดังกล่าวจากในแอพพลิเคชั่น TikTok ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา บัญชีรายชื่อหนึ่งชื่อว่า “เกาะกระเเส“ ได้มีการเผยแพร่คลิปที่มีการตัดต่อที่มีเนื้อหาว่า โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ได้ไปแจ้งความที่ตนในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากตนได้ไปโกงเงินหลอกมาลงทุนไปจำนวนเกือบ 10,000,000 บาท ตอนแรกตนเห็นแล้วก็อยากที่จะปล่อยผ่านไปเพราะไม่ใช่เรื่องจริงแต่พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็มีคนติดต่อเข้ามาสอบถามตนเรื่อยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เลยเกรงว่าจะส่งผลต่อการทำงานที่ทำ เนื่องจากไม่อยากให้ลูกค้ามีที่เข้ามาจ้างงานตน มองว่าตนเป็นคนแบบในข่าว จึงอยากจะมาแสดงความบริสุทธิ์ใจในวันนี้ เบื้องต้นตนได้ส่งคลิปให้ผู้จัดการดู […]

1 40 41 42 43 44 2,049
...