“บูม สุภาพร” ร้อง ตร.ไซเบอร์ ถูกแอบอ้างปล่อยคลิป Fake new

บช.สอท. 6 มิ.ย. – “บูม สุภาพร” นักแสดงสาว เข้าพบตำรวจไซเบอร์ ถูกแอบอ้างปล่อยคลิป Fake new ลวงเงินลงทุนนางเเบบดัง 10 ล้านบาท บูม- สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง ดารานักเเสดงและพิธีกร เดินทางเข้าแจ้งความที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี กรณีที่มี Fake new ในโลกโซเชียลกล่าวหาว่าฉ้อโกง โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ นางเเบบชื่อดัง ด้วยการหลอกให้ลงทุนสูญเงินเกือบ 10 ล้าน บูม สุภาพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ไปเห็นคลิปดังกล่าวจากในแอพพลิเคชั่น TikTok ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา บัญชีรายชื่อหนึ่งชื่อว่า “เกาะกระเเส“ ได้มีการเผยแพร่คลิปที่มีการตัดต่อที่มีเนื้อหาว่า โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ ได้ไปแจ้งความที่ตนในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากตนได้ไปโกงเงินหลอกมาลงทุนไปจำนวนเกือบ 10,000,000 บาท ตอนแรกตนเห็นแล้วก็อยากที่จะปล่อยผ่านไปเพราะไม่ใช่เรื่องจริงแต่พอเวลาผ่านไป 2-3 วัน ก็มีคนติดต่อเข้ามาสอบถามตนเรื่อยว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เลยเกรงว่าจะส่งผลต่อการทำงานที่ทำ เนื่องจากไม่อยากให้ลูกค้ามีที่เข้ามาจ้างงานตน มองว่าตนเป็นคนแบบในข่าว จึงอยากจะมาแสดงความบริสุทธิ์ใจในวันนี้ เบื้องต้นตนได้ส่งคลิปให้ผู้จัดการดู […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย

ผบ.ตร.ย้ำจุดยืนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ จากกรณีช่องบก

5 มิ.ย. – ผบ.ตร. ย้ำจุดยืนในการปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ จากกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ในการอ้างสิทธิเกี่ยวกับพื้นที่ และเกิดการปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา อันอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญสูงสุดในการพิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ และคุ้มครองอธิปไตยของดินแดนไทย โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ ตำรวจตระเวนชายแดนเตรียมความพร้อมกำลัง และนำเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมในการปฏิบัติและสนับสนุนอย่างเต็มที่ กรณีการปฏิบัติการ หากกำลังพลและเครื่องมืออาวุธยุทโธปกรณ์ของหน่วยปฏิบัติการไม่เพียงพอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำอธิปไตยของชาติไทยอย่างเด็ดขาด พร้อมได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ จัดเตรียมความพร้อมแผนปฏิบัติการ แผนเผชิญเหตุ สนับสนุนการปฏิบัติเมื่อได้รับการสั่งการ และให้กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีติดตามเฝ้าระวัง การโจมตีทางไซเบอร์ การปล่อยข่าวปลอมทางสื่อโซเชียล ให้บังคับใช้กฎหมาย ปิดกั้นกรณีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้มีการแพร่กระจายข่าวหรือปล่อยข่าวปลอมที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย อีกทั้งได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มในการคัดกรองคนต่างด้าวเข้าประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวด โดยได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมทั้งด้านแผนการปฏิบัติ แผนเผชิญเหตุ กำลังพล เครื่องมือ อาวุธยุทโธปกรณ์ ให้พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งขยายผลคดีวัดไร่ขิง คาด “เงินมืด” กระจ่างสัปดาห์หน้า

บช.ก. 5 มิ.ย. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เร่งตรวจสอบขยายผลคดี “วัดไร่ขิง” จ่อตรวจสอบกว่า 10 วัด หลังพบเส้นเงินพัวพันถึง เตรียมเข้าเรือนจำสอบเพิ่ม “ทิดแย้ม” คาด “เงินมืด” กระจ่างภายในสัปดาห์หน้า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นั่งหัวโต๊ะประชุมความคืบหน้าคดีวัดไร่ขิง ภายหลังจับกุมตัวใบเตย และสามีได้ โดยได้เข้าร่วมประชุมเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่า วันนี้ประชุมการขยายผลเรื่องเส้นเงิน ที่เรียกว่า “เงินมืด” ที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีที่ทางตำรวจได้ตรวจสอบไปแล้ว โดยเงินดังกล่าวมีหลายส่วน ส่วนแรกคือเงินที่ได้จากการตั้งร้านขายของในงานประจำปี, เงินทำบุญวัด 100 ปี, เงินกฐิน และเงินร้านค้าสวัสดิการ โดยยอดเงินรวมกันทั้งหมดประมาณกว่า 250 ล้านบาท อีกส่วนส่วนคือเงินยืมจากวัดอื่น ๆ อีก 300 ล้านบาท ส่วนเงินที่มีการโอนออกจากบัญชีวัด และเงินที่ได้จากการทำบุญทั้งหลาย เวลาเอาไปตรวจนับเราเชื่อว่า การตรวจนับไม่ตรงตามที่ได้ โดยเป็นเงินจำนวนมากหลายปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเงินที่ยังตรวจสอบไม่ได้ คือเงินจากเจ้าอาวาสองค์เก่า มีจำนวนหลายร้อยล้านบาทเช่นกัน ส่วนกรณีรถทั้งหมด 20 […]

จับพ่อค้าส้มตำรับจ็อบเปิดบัญชีม้ารับโอน-ถอนให้เว็บพนัน

5 มิ.ย. – DSI จับกุมพ่อค้าขายส้มตำ รับจ็อบเปิดบัญชีม้ารับโอน-ถอนเงินกว่า 5 ล้านบาท ให้เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ วันนี้ (5 มิ.ย.) ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมนายประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1048/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งกระทำความผิดร่วมกันฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ซอยงามวงศ์วาน 43 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมถึงแจ้งว่า ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 เรียบร้อยแล้ว จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำตัวมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบคดีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 128/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยนายประสิทธิ์ มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายส้มตำได้เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อรับโอนและถอนเงินจากบัญชีให้กับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 20 ครั้ง จำนวน 5,286,000 บาท ทั้งนี้ […]

“อดีตพระพรหมเมธี” ได้ประกันตัว ขอทำคำให้การส่งภายหลัง

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – “อดีตพระพรหมเมธี” ได้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน วงเงิน 400,000 บาท พร้อมขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะยื่นในภายหลัง หนีนักข่าวขึ้นรถตู้ออกด้านหลัง เมื่อช่วงบ่ายมีรายงานข่าวว่า คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวพระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงินจากกรณีเงินทอนวัด หลังจากเดินทางกลับถึงประเทศไทยเพื่อกลับมาต่อสู้คดี หลังจากลี้ภัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนานกว่าถึง 7 ปี และในเวลาต่อมาได้มีรถตู้ประมาณ 4-5 คัน จอดบริเวณด้านหน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนที่จะมีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเดินลงมาจากอาคารแล้วเดินไปขึ้นรถทันที โดยพระสงฆ์เหล่านั้นไม่ได้พูดคุยในตอบคำถามอะไรกับสื่อมวลชน คาดว่าเป็นพระลูกศิษย์ของอดีตพระพรหมเมธีที่เดินทางกลับมาพร้อมกันจากประเทศเยอรมนี ต่อมามีรายงานข่าวว่า อดีตพระพรหมเมธีเตรียมจะเดินทางออกจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บริเวณชั้นใต้ดิน สื่อมวลชนจึงได้ปักหลักเฝ้าสังเกตการณ์ใกล้ชิด ปรากฏว่าอดีตพระพรหมเมธีพร้อมผู้ติดตามแต่งกายชุดสูท ได้ลงมาฝั่งลิฟท์ Low Zone เดินมาขึ้นรถตู้คันสีเทา โดยคณะผู้ติดตามได้พยายามนิมนต์เชิญอดีตพระพรหมเมธีขึ้นรถตู้คันดังกล่าวและรีบปิดประตูก่อนขับออกไปจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทันที เบื้องต้นมีรายงานข่าวระบุว่า อดีตพระพรหมเมธีใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ทั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธีขอทำคำให้การเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษรส่งมายังพนักงานสอบสวนในภายหลัง พร้อมรับปากกับพนักงานสอบสวนว่า จะรีบยื่นคำให้การให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย แต่ยังไม่กำหนดวันยื่นคำให้การอย่างแน่ชัด.-414-สำนักข่าวไทย

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

“นพ.ตุลย์” มอบกว่า 5 หมื่นรายชื่อหนุนแพทยสภา ปมชั้น 14

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – “นพ.ตุลย์” นำรายชื่อกว่า 52,000 คน สนับสนุนแพทยสภาลงโทษ 3 แพทย์ ตามมติเดิม เรียกร้องกรรมการแพทยสภาทุกคนเข้าร่วมประชุม 12 มิ.ย. เชื่อมั่นกรรมการแพทยสภาจะฝ่าฟันแรงกดดันได้ นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ได้นำรายชื่อของแพทย์และประชาชนจำนวนกว่า 52,000 คน มอบให้ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา ประกอบด้วยรายชื่อคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ รุ่น 16,17, 22, 23, 26, 27, 28, 29, 32, 34, 35 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชรุ่น 83,87,89,68,71 คณะแพทยศาสตร์รามาฯ รุ่น 14,21,24,30,39 อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 72 คน ศิษย์เก่าจุฬารุ่นที่ 14 และรายชื่อภาคประชาชน รวมกว่า 50,000 รายชื่อ ที่สนับสนุนและให้กำลังใจคณะกรรมการแพทยสภา ก่อนที่จะมีการประชุมเพื่อลงมติ ในวันที่ […]

สธ.เตรียมหามาตรการ หลังเหตุไรเดอร์ประกบยิงซ้ำหนุ่มปทุมฯ ขณะส่ง รพ.

สธ. 5 มิ.ย. – สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เตรียมหารือมาตรการความปลอดภัยกับทางฝ่ายปกครอง เหตุไรเดอร์ยิงหนุ่มปทุมฯ เสียชีวิต 2 ราย นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ บุกยิงหนุ่มปทุมฯ เจ็บ 2 ราย และขณะนำส่งโรงพยาบาลคนร้ายไล่ยิงซ้ำจนเสียชีวิต โดยระบุว่า จากที่ได้รับรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ น่าจะเป็นแฟนกับผู้หญิงในที่เกิดเหตุ และเข้าใจว่าผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นผู้บาดเจ็บก็มีสัมพันธ์กับผู้หญิงเช่นกัน คาดว่าก่อเหตุจากความหึงหวง โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีปัญหากันจนเกิดเหตุยิงกันเกิดขึ้น จากนั้นญาติเห็นท่าทีไม่ดีจึงนำคนเจ็บส่ง รพ. ขณะที่มีการนำส่ง รพ. ไรเดอร์ก็มีการไล่ยิงรถของญาติมาตลอดทาง ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายรถกระบะเสียชีวิต 2 ศพ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วนมาตรการเข้มงวดใน รพ. ต้องบอกก่อนว่า โรงพยาบาลเป็นสถานที่เปิด ไม่สามารถปิดประตูได้ เพราะเหตุจะเกิดตอนไหนไม่มีใครทราบ ส่วนมาตรการระวัง และป้องกันได้มีการพูดคุยกับทางสาธารณสุขจังหวัด ว่าจะทำแบบร้านทอง มีปุ่มกดและส่งสัญญาณไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ ให้มาระงับเหตุได้ทันท่วงที และเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจ ไม่สามารถยอมรับได้ การก่อเหตุในลักษณะแบบนี้เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ต้องให้ทางสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการแจ้งความ ในความผิดฐานยิงปืนในสถานที่ราชการ, […]

อดีตพระพรหมเมธี กลับไทยสู้คดีเงินทอนวัด หลังลี้ภัยนาน 7 ปี

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – อดีตพระพรหมเมธี กลับถึงไทยเช้านี้ เพื่อสู้คดีเงินทอนวัด หลังตกเป็นผู้ต้องหามาตั้งแต่ปี 2561 ทำให้ต้องลี้ภัยไปอยู่เยอรมนี นานถึง 7 ปี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า พระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี อายุ 84 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ต้องหาในคดีความผิดร่วมกันฟอกเงินจากคดีเงินทอนวัด เมื่อปี 2561 เดินทางจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กลับประเทศไทย โดยมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่เวลา 06.30 น.ที่ผ่านมา หลังจากลี้ภัยไปอยู่ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี 2561 หรือเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา การเดินทางกลับมายังประเทศไทยครั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธีต้องการจะเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย ต่อมาอดีตพระพรหมเมธีได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ บริเวณชั้น 27 ขณะที่บรรยากาศที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเช้าวันนี้ พบว่าเมื่อเวลา 10.40 น.ที่ผ่านมา มีพระสงฆ์ 2 รูป เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้สื่อข่าวจึงพยายามเข้าไปกราบสอบถามพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป […]

ฝากขังหัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง เจ้าตัวเสียใจ ยันก่อเหตุครั้งเดียว

สน.ท่าเรือ 5 มิ.ย. – ฝากขังหัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง เจ้าตัวยืนยันก่อเหตุเพียงครั้งเดียว ไม่มีคนชี้เป้า เสียใจและอยากขอขมาครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้าจากตู้คอนเทนเนอร์ของกรมศุลกากร ที่ถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย จนทำให้ รปภ. เสียชีวิต ว่าทางกรมศุลากรจะต้องตรวจสอบของกลางว่าหายไปจำนวนเท่าใด กี่รายการ เท่าที่ทราบมีเป็นพันรายการที่จะต้องทำการตรวจสอบให้ครบถ้วน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะ หลังจากนั้นทางกรมศุลากรจะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อไป มีรายงานจากทางทีมชุดคลี่คลายคดี ระบุถึงประเด็นที่นายแบงค์ อ้างถึงอดีต รปภ. ว่าเป็นคนชี้เป้านั้นพบเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริง โดยตำรวจได้ข้อมูลมาแล้วทราบเพียงชื่อเล่น อยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคลและเรียกเข้ามาสอบปากคำ ทั้งนี้ จากการซักถามผู้ต้องหาพบช่องโหว่ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรมีกำลังไม่เพียงพอ จึงไปว่าจ้างคนในพื้นที่มาช่วยยกของ ทำให้บุคคลภายนอกนอกทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เก็บของกลาง นอกจากนี้การซักถามนายนายกุศล หรือสน อายุ 50 ปี ที่ถูกพาดพิงถึงนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาข้อหาเกี่ยวกับการร่วมลักทรัพย์ แต่จากการตรวจสอบพบว่านายสนมีการเสพยาเสพติด จึงดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนนายแบงค์ที่มีประวัติอาชญากรรมหลายคดีนั้น พบว่าเมื่อวานนี้ ทางตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้มาแจ้งความเพื่อจะอายัดตัวดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์อีกด้วย ส่วนบรรยากาศที่ สน.ท่าเรือ เมื่อเวลา 08.30 […]

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

1 31 32 33 34 35 2,039
...