กลุ่ม คปท.หารือข้อกฎหมายก่อนนัดแสดงพลัง 28 มิ.ย.นี้

23 มิ.ย. – คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช., นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. เข้าร่วมประชุมกับตำรวจนครบาล เพื่อหารือข้อกฎหมายในการชุมนุม และร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจร รวมถึงการใช้ชีวิตของประชาชน


นายนิติธร หนึ่งในแกนนำ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการบริหารพื้นที่ การบริหารความปลอดภัยและด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงด้านการจราจร โดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจ เจ้าหน้าที่ กทม. สํานักงานเขตทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม เบื้องต้นทางคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยได้มีการประชุมเกี่ยวกับการกําหนดจุดต่าง ๆ ซึ่งจะมีการตั้งเวทีหันหน้าไปทางถนนดินแดง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมาคุยกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกครั้ง
โดยวันนี้ภารกิจของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมเรื่องการเปิดบัญชีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ และจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบกิจกรรม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์

จากนั้นแกนนำของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย ได้เข้าหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 นายสบโชค ณ ศรีโต ผู้อำนวยการเขตราชเทวี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือ


ทางแกนนำได้ชี้แจงเหตุผลและความต้องการ โดยต้องการให้ทางตำรวจดูแลเรื่องของความปลอดภัยตลอดการชุมนุมและกลับบ้านอย่างปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องไฟฟ้า รถสุขาต่างๆ รวมถึงขอใช้พื้นผิวการจราจรบางส่วนไม่ได้ปิดการจราจร และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุม ไม่ค้างคืน

นายจตุพร กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการหารือว่า อยากให้ตำรวจช่วยจัดตั้งจุดคัดกรองในการดูแลป้องกันมือที่ 3 ด้วย พร้อมทั้งขอให้ตำรวจไม่สร้างบรรยากาศ โดยการนำตำรวจควบคุมฝูงชนฯ มาในพื้นที่

ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร ได้ให้แกนนำ ได้ชี้แจงแผนผังการจัดตั้งเวที และการใช้พื้นที่ทำกิจกรรม พร้อมบอกว่า การจัดกิจกรรมต้องให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดโดยเฉพาะเรื่องของการจราจร และมีความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนโดยรอบ และเท่าที่ดูแล้วการทำกิจกรรมไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ และได้ให้มีการตั้งชุดประสานงานกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อหารือถึงการจัดเวที และใช้พื้นที่จัดกิจกรรม ให้เข้าใจตรงกัน


ส่วนการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม ตำรวจจะมีการตั้งจุดคัดกรอง 4 มุม และชั้นนอกจะมีการตั้งจุดตรวจด้วยเพื่อเป็นการป้องปราม และยืนยันว่ามาตรการทั้งหมดไม่ได้เป็นการปิดกั้นประชาชนเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม แต่เพื่อให้เข้าและออกอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยเรื่องนี้ จึงขอให้ไม่ต้องกังวลใจ

ภายหลังการหารือนาน 1 ชั่วโมง นายนิติธร กล่าวว่า เบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีการเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เพื่อเข้าติดตั้งอุปกรณ์ และให้ใช้ช่องจราจรติดขอบฟุตบาธอนุสาวรีย์ได้ 1 ช่องจราจร และเปิดการจราจรตามปกติ เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรได้จนกว่าจะถึงเวลาการชุมนุมก็พิจารณาตามสถานการณ์ และมีช่องทางสำหรับรถฉุกเฉิน เบื้องต้นคาดการณ์ว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 28 มิถุนายน ยืนยันจะไม่มีการค้างคืนและจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. ทั้งนี้การหารือยังเห็นร่วมกันว่าการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ที่มาแสดงพลังจะสื่อสารกันอย่างสร้างสรรค์ไม่มีการข่มขู่ เพื่อเป็นการมาแสดงออกในการปกป้องอธิปไตย

ส่วนกรณีทางการข่าวคนที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายทั้งในและต่างประเทศนั้น นายนิติธร บอกว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีกระแสข่าวว่าคนกัมพูชาจะส่งคนมาทำร้ายคนไทย และมีเอกสารของรัฐว่าจะจัดการคนที่การมาปกป้องอธิปไตย ดังนั้นมองว่า หากมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น รัฐและรัฐบาลจะเป็นคนเริ่ม ไม่ใช่ประชาชน และหากมีข้ามมาจากกัมพูชา เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลเรื่องนี้ ซึ่งส่วนของกลุ่มในฐานะภาคประชาชนไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของการข่าวที่เข้ามา เพราะมีเจตนาที่ชัดเจนในการทำกิจกรรม

ด้านนายจตุพร ยืนยันว่า จะไม่ขนคนแม้แต่เพียงคนเดียว และขณะนี้ทราบว่า จะมีประชาชนทั้งประเทศจะเดินทางมาร่วมกิจกรรมปกป้องอธิปไตย โดยเชื่อว่าประชาชนจะมามืดฟ้ามัวดิน พร้อมบอกด้วยว่า หากฝ่ายรัฐถ้าไม่ร่วมมือก็อย่ามาขัดขวาง อย่ามาแสดงตนเป็นอุปสรรคให้ขายหน้ากัมพูชา ส่วนกำลังนอกราชอาณาจักร หากจะมาป่วนนั้นมองว่า ถ้ารัฐไม่รู้เห็นก็คงไม่มีทางเข้ามาได้ ดังนั้นขอเตือนว่า อย่าทำอะไรให้เกิดความเลวร้าย เพราะหากหาเรื่อง/ครั้งหน้าจะไปทำเนียบฯ และการแสดงออกโดยปราศจากอาวุธ ศาลรัฐธรรมนูญ เคยตีตกคำร้อง เพราะไม่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพ. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]