23 มิ.ย. – คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช., นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. เข้าร่วมประชุมกับตำรวจนครบาล เพื่อหารือข้อกฎหมายในการชุมนุม และร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจร รวมถึงการใช้ชีวิตของประชาชน
นายนิติธร หนึ่งในแกนนำ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการบริหารพื้นที่ การบริหารความปลอดภัยและด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงด้านการจราจร โดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจ เจ้าหน้าที่ กทม. สํานักงานเขตทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม เบื้องต้นทางคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยได้มีการประชุมเกี่ยวกับการกําหนดจุดต่าง ๆ ซึ่งจะมีการตั้งเวทีหันหน้าไปทางถนนดินแดง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมาคุยกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกครั้ง
โดยวันนี้ภารกิจของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมเรื่องการเปิดบัญชีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ และจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบกิจกรรม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์
จากนั้นแกนนำของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย ได้เข้าหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 นายสบโชค ณ ศรีโต ผู้อำนวยการเขตราชเทวี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือ
ทางแกนนำได้ชี้แจงเหตุผลและความต้องการ โดยต้องการให้ทางตำรวจดูแลเรื่องของความปลอดภัยตลอดการชุมนุมและกลับบ้านอย่างปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องไฟฟ้า รถสุขาต่างๆ รวมถึงขอใช้พื้นผิวการจราจรบางส่วนไม่ได้ปิดการจราจร และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุม ไม่ค้างคืน
นายจตุพร กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการหารือว่า อยากให้ตำรวจช่วยจัดตั้งจุดคัดกรองในการดูแลป้องกันมือที่ 3 ด้วย พร้อมทั้งขอให้ตำรวจไม่สร้างบรรยากาศ โดยการนำตำรวจควบคุมฝูงชนฯ มาในพื้นที่
ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร ได้ให้แกนนำ ได้ชี้แจงแผนผังการจัดตั้งเวที และการใช้พื้นที่ทำกิจกรรม พร้อมบอกว่า การจัดกิจกรรมต้องให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดโดยเฉพาะเรื่องของการจราจร และมีความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนโดยรอบ และเท่าที่ดูแล้วการทำกิจกรรมไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ และได้ให้มีการตั้งชุดประสานงานกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อหารือถึงการจัดเวที และใช้พื้นที่จัดกิจกรรม ให้เข้าใจตรงกัน
ส่วนการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม ตำรวจจะมีการตั้งจุดคัดกรอง 4 มุม และชั้นนอกจะมีการตั้งจุดตรวจด้วยเพื่อเป็นการป้องปราม และยืนยันว่ามาตรการทั้งหมดไม่ได้เป็นการปิดกั้นประชาชนเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม แต่เพื่อให้เข้าและออกอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยเรื่องนี้ จึงขอให้ไม่ต้องกังวลใจ
ภายหลังการหารือนาน 1 ชั่วโมง นายนิติธร กล่าวว่า เบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีการเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เพื่อเข้าติดตั้งอุปกรณ์ และให้ใช้ช่องจราจรติดขอบฟุตบาธอนุสาวรีย์ได้ 1 ช่องจราจร และเปิดการจราจรตามปกติ เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรได้จนกว่าจะถึงเวลาการชุมนุมก็พิจารณาตามสถานการณ์ และมีช่องทางสำหรับรถฉุกเฉิน เบื้องต้นคาดการณ์ว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 28 มิถุนายน ยืนยันจะไม่มีการค้างคืนและจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. ทั้งนี้การหารือยังเห็นร่วมกันว่าการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ที่มาแสดงพลังจะสื่อสารกันอย่างสร้างสรรค์ไม่มีการข่มขู่ เพื่อเป็นการมาแสดงออกในการปกป้องอธิปไตย
ส่วนกรณีทางการข่าวคนที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายทั้งในและต่างประเทศนั้น นายนิติธร บอกว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีกระแสข่าวว่าคนกัมพูชาจะส่งคนมาทำร้ายคนไทย และมีเอกสารของรัฐว่าจะจัดการคนที่การมาปกป้องอธิปไตย ดังนั้นมองว่า หากมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น รัฐและรัฐบาลจะเป็นคนเริ่ม ไม่ใช่ประชาชน และหากมีข้ามมาจากกัมพูชา เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลเรื่องนี้ ซึ่งส่วนของกลุ่มในฐานะภาคประชาชนไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของการข่าวที่เข้ามา เพราะมีเจตนาที่ชัดเจนในการทำกิจกรรม
ด้านนายจตุพร ยืนยันว่า จะไม่ขนคนแม้แต่เพียงคนเดียว และขณะนี้ทราบว่า จะมีประชาชนทั้งประเทศจะเดินทางมาร่วมกิจกรรมปกป้องอธิปไตย โดยเชื่อว่าประชาชนจะมามืดฟ้ามัวดิน พร้อมบอกด้วยว่า หากฝ่ายรัฐถ้าไม่ร่วมมือก็อย่ามาขัดขวาง อย่ามาแสดงตนเป็นอุปสรรคให้ขายหน้ากัมพูชา ส่วนกำลังนอกราชอาณาจักร หากจะมาป่วนนั้นมองว่า ถ้ารัฐไม่รู้เห็นก็คงไม่มีทางเข้ามาได้ ดังนั้นขอเตือนว่า อย่าทำอะไรให้เกิดความเลวร้าย เพราะหากหาเรื่อง/ครั้งหน้าจะไปทำเนียบฯ และการแสดงออกโดยปราศจากอาวุธ ศาลรัฐธรรมนูญ เคยตีตกคำร้อง เพราะไม่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพ. -419-สำนักข่าวไทย