กลุ่ม คปท.หารือข้อกฎหมายก่อนนัดแสดงพลัง 28 มิ.ย.นี้

23 มิ.ย. – คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช., นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. เข้าร่วมประชุมกับตำรวจนครบาล เพื่อหารือข้อกฎหมายในการชุมนุม และร่วมกันออกแบบไม่ให้กระทบกับการจราจร รวมถึงการใช้ชีวิตของประชาชน


นายนิติธร หนึ่งในแกนนำ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการบริหารพื้นที่ การบริหารความปลอดภัยและด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงด้านการจราจร โดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจ เจ้าหน้าที่ กทม. สํานักงานเขตทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม เบื้องต้นทางคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยได้มีการประชุมเกี่ยวกับการกําหนดจุดต่าง ๆ ซึ่งจะมีการตั้งเวทีหันหน้าไปทางถนนดินแดง แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมาคุยกับเจ้าหน้าที่ตํารวจอีกครั้ง
โดยวันนี้ภารกิจของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการประชุมเรื่องการเปิดบัญชีแต่ยังไม่แล้วเสร็จ และจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบกิจกรรม ซึ่งจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์

จากนั้นแกนนำของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย ได้เข้าหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 นายสบโชค ณ ศรีโต ผู้อำนวยการเขตราชเทวี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมหารือ


ทางแกนนำได้ชี้แจงเหตุผลและความต้องการ โดยต้องการให้ทางตำรวจดูแลเรื่องของความปลอดภัยตลอดการชุมนุมและกลับบ้านอย่างปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องไฟฟ้า รถสุขาต่างๆ รวมถึงขอใช้พื้นผิวการจราจรบางส่วนไม่ได้ปิดการจราจร และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ และไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุม ไม่ค้างคืน

นายจตุพร กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการหารือว่า อยากให้ตำรวจช่วยจัดตั้งจุดคัดกรองในการดูแลป้องกันมือที่ 3 ด้วย พร้อมทั้งขอให้ตำรวจไม่สร้างบรรยากาศ โดยการนำตำรวจควบคุมฝูงชนฯ มาในพื้นที่

ขณะที่ พล.ต.ต.อัฏธพร ได้ให้แกนนำ ได้ชี้แจงแผนผังการจัดตั้งเวที และการใช้พื้นที่ทำกิจกรรม พร้อมบอกว่า การจัดกิจกรรมต้องให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุดโดยเฉพาะเรื่องของการจราจร และมีความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนโดยรอบ และเท่าที่ดูแล้วการทำกิจกรรมไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ และได้ให้มีการตั้งชุดประสานงานกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อหารือถึงการจัดเวที และใช้พื้นที่จัดกิจกรรม ให้เข้าใจตรงกัน


ส่วนการดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม ตำรวจจะมีการตั้งจุดคัดกรอง 4 มุม และชั้นนอกจะมีการตั้งจุดตรวจด้วยเพื่อเป็นการป้องปราม และยืนยันว่ามาตรการทั้งหมดไม่ได้เป็นการปิดกั้นประชาชนเข้าสู่พื้นที่ชุมนุม แต่เพื่อให้เข้าและออกอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยเรื่องนี้ จึงขอให้ไม่ต้องกังวลใจ

ภายหลังการหารือนาน 1 ชั่วโมง นายนิติธร กล่าวว่า เบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีการเข้าใช้พื้นที่ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เพื่อเข้าติดตั้งอุปกรณ์ และให้ใช้ช่องจราจรติดขอบฟุตบาธอนุสาวรีย์ได้ 1 ช่องจราจร และเปิดการจราจรตามปกติ เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรได้จนกว่าจะถึงเวลาการชุมนุมก็พิจารณาตามสถานการณ์ และมีช่องทางสำหรับรถฉุกเฉิน เบื้องต้นคาดการณ์ว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 28 มิถุนายน ยืนยันจะไม่มีการค้างคืนและจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. ทั้งนี้การหารือยังเห็นร่วมกันว่าการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ที่มาแสดงพลังจะสื่อสารกันอย่างสร้างสรรค์ไม่มีการข่มขู่ เพื่อเป็นการมาแสดงออกในการปกป้องอธิปไตย

ส่วนกรณีทางการข่าวคนที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายทั้งในและต่างประเทศนั้น นายนิติธร บอกว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีกระแสข่าวว่าคนกัมพูชาจะส่งคนมาทำร้ายคนไทย และมีเอกสารของรัฐว่าจะจัดการคนที่การมาปกป้องอธิปไตย ดังนั้นมองว่า หากมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น รัฐและรัฐบาลจะเป็นคนเริ่ม ไม่ใช่ประชาชน และหากมีข้ามมาจากกัมพูชา เจ้าหน้าที่ก็ต้องดูแลเรื่องนี้ ซึ่งส่วนของกลุ่มในฐานะภาคประชาชนไม่ได้เป็นห่วงเรื่องของการข่าวที่เข้ามา เพราะมีเจตนาที่ชัดเจนในการทำกิจกรรม

ด้านนายจตุพร ยืนยันว่า จะไม่ขนคนแม้แต่เพียงคนเดียว และขณะนี้ทราบว่า จะมีประชาชนทั้งประเทศจะเดินทางมาร่วมกิจกรรมปกป้องอธิปไตย โดยเชื่อว่าประชาชนจะมามืดฟ้ามัวดิน พร้อมบอกด้วยว่า หากฝ่ายรัฐถ้าไม่ร่วมมือก็อย่ามาขัดขวาง อย่ามาแสดงตนเป็นอุปสรรคให้ขายหน้ากัมพูชา ส่วนกำลังนอกราชอาณาจักร หากจะมาป่วนนั้นมองว่า ถ้ารัฐไม่รู้เห็นก็คงไม่มีทางเข้ามาได้ ดังนั้นขอเตือนว่า อย่าทำอะไรให้เกิดความเลวร้าย เพราะหากหาเรื่อง/ครั้งหน้าจะไปทำเนียบฯ และการแสดงออกโดยปราศจากอาวุธ ศาลรัฐธรรมนูญ เคยตีตกคำร้อง เพราะไม่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพ. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย