ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย

เปิดแชต “อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” บอกคิดถึง “สีกากอล์ฟ”

15 ก.ค. – เปิดแชตสนทนา “อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” ส่งข้อความบอกคิดถึง “สีกากอล์ฟ” และกำชับห้ามภาพหลุด ถือเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ มาตรวจสอบข้อมูลรูปภาพและคลิปวิดีโอต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ จนพบหลักฐานการกระทำผิดวินัยสงฆ์จนถึงขั้นปาราชิกของพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป ซึ่งมีทั้งที่ยอมลาสิกขาขาดจากความเป็นพระไปแล้ว และที่ยังไม่ยอมสึก เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปปป. ได้ตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญที่เชื่อว่าน่าจะเป็นหลักฐานที่ทำให้ พระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง หนึ่งในพระที่มีข่าวว่าพัวพันกับสีกากอล์ฟ ยอมสึกอีกราย หลักฐานดังกล่าวเป็นภาพข้อมูลแชตสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ที่ทั้งสองส่งข้อความถึงกันในลักษณะบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของทั้งคู่ อีกทั้งภายในแชตสนทนาดังกล่าวยังมีการส่งข้อความบอกคิดถึง และข้อความกำชับกันภาพหลุด รวมถึงรูปภาพที่เผยให้เห็นพระเทพวัชรสิทธิเมธี แต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคล้ายคนทั่วไป ไม่ใช่จีวรพระตามที่ควรจะเป็น รวมถึงคลิปภาพที่ถูกบันทึกไว้ขณะวิดีโอคอลคุยกัน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

จเรตำรวจเตือนคนไทยเปิดบัญชีม้า โทษหนักคุก 41 ปี

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เตือนเข้มอย่าเป็นคนไทยขายชาติ โทษหนักจำคุก 41 ปี บัญชีม้า ล่าสุดสั่งรวบ 6 คนไทยถูกส่งตัวกลับ ตรวจสอบเกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ วันนี้ (14 กรกฎาคม 2568) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบุคคลที่ทางการกัมพูชาส่งกลับประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยาน เป็นคนไทยจำนวน 6 คน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้แก่ นายภูวนัย, นางสาวสุวิมล ส่งตัวมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วน นางสาวปรียา, นางสาววัลลภา, นายจักรกฤษณ์ และนายพรชัย ส่งตัวมายังท่าอากาศยานดอนเมือง ได้มอบหมายให้สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี, สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง, สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2, กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1, กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัวทั้ง 6 คน สอบปากคำและตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีการกระทำความผิดจะเข้าสู่การดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย […]

เร่งสอบเส้นเงินสีกากอล์ฟเอี่ยวเว็บพนัน ยังไม่พบพระเชื่อมโยง

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์เร่งสอบเส้นทางเงินสีกากอล์ฟเอี่ยวเว็บพนัน เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับพระที่มีความสัมพันธ์ด้วย พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวนเส้นทางการเงินที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ของสีกากอล์ฟ ว่า หลังจากสีกากอล์ฟให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ สอท.1 เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ เบื้องต้นพบว่า สีกากอล์ฟมีการเล่นพนันมากสุดถึง 500,000 บาท และเคยเสียพนันสูงสุดถึง 10 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟ อยู่ในระหว่างการขอ Statement จากธนาคาร เพื่อมาวิเคราะห์ตรวจสอบว่า มีการโอนเงินให้เว็บพนันจริงหรือไม่ หากพบว่ามีเส้นทางการเงินโอนไปเว็บพนันจริง จะเรียกสีกากอล์ฟมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีเรื่องเล่นการพนันต่อไป ซึ่งจะดำเนินคดีแบบต่างกรรมต่างวาระ ส่วนประเด็นเรื่องเส้นทางการเงิน การทำธุรกรรม ระหว่างสีกากอล์ฟกับพระเถระที่มีความสัมพันธ์ด้วยนั้น ทาง บก.ปปป. เป็นผู้ตรวจสอบหลัก แต่ทางตำรวจไซเบอร์จะร่วมตรวจสอบด้วยว่า มีเส้นทางการเงินไหนที่เชื่อมโยงถึงเว็บพนันหรือไม่ หากพบจะดำเนินคดีข้อหาเล่นการพนันเช่นเดียวกัน แต่เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่พบว่า มีพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องรูปใดเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ -สำนักข่าวไทย

ตร.เล็งออกหมายจับเพิ่มเครือข่าย “ก๊กอาน”

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์จ่อออกหมายจับเพิ่มเครือข่ายก๊กอาน ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เร่งตรวจสอบ “เชอรี่” ลูกสาวก๊กอาน มีบทบาทบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติว่า ขณะนี้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนพบว่ามีผู้กระทำความผิดมากกว่าที่ศาลอนุมัติหมายจับไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการจัดการระบบบัญชีม้าและขบวนการฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ รวมถึงเร่งตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หากพบมีบุคคลใดเกี่ยวข้อง ทั้งชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะมีการดำเนินคดีออกหมายจับตามกฎหมายทันที รวมถึงหากพบพฤติการณ์ฟอกเงินหรือมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด และยึดอายัดทรัพย์สินตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง รวมถึง “เชอรี่” ลูกสาวของก๊กอาน ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยงว่า มีบทบาทในการบริหารหรืออำพรางเส้นทางการเงินในไทยหรือไม่ ส่วนตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของก๊กอานนั้น ขณะนี้มีข้อมูลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการดำเนินการออกหมายแดงหรือหมายจับผ่านตำรวจสากลหรือ Interpol ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศในเครือข่ายอินเตอร์โพล 196 ประเทศสามารถจับกุมได้ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นจะเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีทั้งชาวไทยและกัมพูชาที่ร่วมกันกระทำผิด ซึ่งอาจต้องประสานหน่วยงานในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมเพื่อร่วมดำเนินคดีและยึดทรัพย์ร่วมกัน- -สำนักข่าวไทย

เร่งล่าแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้า

14 ก.ค.- ผบช.ไซเบอร์ สั่งเร่งหาผู้เกี่ยวข้องแก๊งคอลฯ หลอก “อั้ม” ช่างแต่งหน้าเวทีประกวด จนต้องจบชีวิตจากความเครียด จากกรณีที่นายพิชญ์ศุธางศุ์ หรืออั้ม อายุ 38 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี ช่างแต่งหน้าชื่อดังให้กับเวทีประกวดมิสแกรนด์และเวทีประกวดอื่นๆอีกหลายเวที ต้องจบชีวิตลงจากความเครียด หลังมีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “บจก.ทรัพย์โพศาล” ติดต่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับร่วมอุดหนุนสินค้า จึงโอนเงินเข้าร่วมลงทุนหลายครั้งสูญเงินไปราว 50,000 บาท ก่อนรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย เมื่อวันที่ 6 ก.ค.68 กระทั่งมาก่อเหตุสลดจากความเครียดที่ถูกหลอก เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากพฤติการณ์ของคนร้ายน่าจะเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เข้ามาหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน เชื่อว่ามีเหยื่อที่ถูกมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกอีกหลายราย เร่งติดตามจับกุมผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการนี้ นอกจากนี้ สั่งการให้ พลตำรวจตรีศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี ซึ่งได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่าดำเนินการเรื่องนี้ไปอย่างไรบ้าง และได้นำเรื่องลงในระบบไทยโปลิศออนไลน์แล้วหรือไม่ เนื่องจากในคดีนี้เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะนำข้อมูลมาช่วยกันเพื่อเร่งสืบสวนหาพยานหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิด -สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]

ช่วยชาวต่างชาติตกหลุม ย่านกัลปพฤกษ์

14 ก.ค.- กู้ภัยช่วยชาวต่างชาติตกหลุมใกล้คูน้ำข้างคอนโดฯ ย่านกัลปพฤกษ์ ขณะนำตัวขึ้นมาเกิดคลุ้มคลั่ง จนท.ระงับเหตุชุลมุน เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีคนตกหลุมใกล้คูน้ำข้างคอนโดฯ แห่งหนึ่ง บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบพบชายต่างชาติตัวติดอยู่ในหลุม ส่วนขายื่นลงไปในคูน้ำ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้อุปกรณ์ในการเจาะแผ่นปูน และใช้เวลาช่วยอยู่นานร่วมชั่วโมง จึงนำตัวขึ้นมาได้ แต่ในระหว่างนำตัวขึ้นมาได้ก็เกิดเหตุไม่คาดคิด ชายต่างชาติคนนี้ได้คลุ้มคลั่งกัดสายนาฬิกาเจ้าหน้าที่ขาด จึงต้องช่วยกันอย่างชุลมุน แต่สุดท้ายก็สามารถระงับเหตุได้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ์เพื่อนำตัวไปส่งโรงพยาบาล -สำนักข่าวไทย

ร้องลูกชาย วัย 16 ปีถูกแก๊งสะพานพุทธทำร้าย-จับถอดเสื้อถ่ายคลิปประจาน

กทม. 13 ก.ค. – แม่พาลูกชายวัย 16 ปี ร้องขอความเป็นธรรม สายไหมต้องรอด ถูกแก๊ง B19 วัยรุ่นสะพานพุทธ ใช้มีดจี้บังคับไปทำร้ายใต้สะพาน จับถอดเสื้อผ้า ถ่ายคลิปประจาน เพียงเพราะติดเงินค่าเสื้อ 100 บาท ครอบครัวเยาวชน อายุ 16 ปี นำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอถูกทำร้ายร่างกายเข้าร้องขอความช่วยเหลือ กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังลูกชายวัย 16 ปี ถูกนายแม็กซ์ ซึ่งเป็น 1 ในสมาชิกของแก๊งวัยรุ่นสะพานพุทธ หรือ แก๊ง B19 ใช้มีดจี้บังคับไปทำร้ายร่างกายใต้สะพาน และจับถอดเสื้อผ้าถ่ายคลิปประจาน เพราะติดเงินค่าเสื้อเพียง 100 บาท เท่านั้น ทั้งนี้ เยาวชนผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อแม็กซ์ ซึ่งแม็กซ์ เป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งดังกล่าว โดยแม็กซ์มีการปล่อยขายเสื้อเชิ้ตราคา 500 บาท จึงติดต่อขอซื้อเสื้อ และตกลงผ่อนจ่าย […]

ร้องพี่สาวถูกจัดฉากฆาตกรรม

กทม. 13 ก.ค. – น้องชายของสาววัย 26 ปี เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังพี่สาวถูกพบเป็นศพในบ้านย่านเคหะร่มเกล้า แฟนผู้ตายอ้างผูกคอตาย แต่ญาติสงสัยอาจถูกฆาตกรรม กลุ่มเพื่อนและน้องชายของ “น้องหนุน” สาววัย 26 ปี เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังพี่สาวถูกพบเป็นศพในบ้านย่านเคหะร่มเกล้า โดยแฟนของผู้ตายอ้างว่าเสียชีวิตจากการผูกคอตาย เมื่อญาติไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าถูกนำร่างลงมาอยู่บนพื้นแล้ว ขาเกร็งบิดรูป ลิ้นไม่ได้จุกปากเหมือนคนผูกคอตายทั่วไป และมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย แต่ผลชันสูตรศพเบื้องต้น แพทย์ระบุว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการแขวนคอ ทำให้ตอนแรกครอบครัวยังไม่ติดใจการตาย แต่ในงานศพ อยู่ๆ ทั้งแฟนเก่าของผู้ตาย และเพื่อนอีก 2 คน กลับมีอาการกรีดร้องผิดปกติและพูดร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่กู้ข้อมูลโทรศัพท์ของผู้ตายยังพบมีคลิปเสียงถูกลบ เป็นเสียงหนุนร้องโหยหวนเหมือนขอชีวิต กลุ่มเพื่อนและญาติจึงเริ่มสงสัยแฟนผู้ตาย ประกอบกับทั้งสองคนมักจะมีปัญหาทำร้ายร่างกายกันบ่อยครั้ง ซึ่งทีมงานสายไหมต้องรอดจะประสานตำรวจ สน.ร่มเกล้า ท้องที่เกิดเหตุ สอบสวนหาความจริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]

ตม.สนามบิน จัดช่องรับปิดเทอมจีน หวังกระตุ้นท่องเที่ยวไทย

13 ก.ค. – จากกระแสผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไทย หรือทัวร์ภายในประเทศ เรียกร้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวของชาวจีนในไทย ที่มีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปเกือบ 50% ของปี 2562 ก่อนโควิด เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย วันนี้ ( 13 ก.ค.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม.ได้มีข้อห่วงใย และมีดำริให้ ตม.สนามบิน ซึ่งเป็นประตูด่านหน้าของประเทศ จัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวในไทยสำหรับชาวจีน ซึ่งพบว่าช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูกาลปิดเทอมของประเทศจีน เดือน ก.ค.-ก.ย. โดยชาวจีนถือเป็นโอกาสที่จะนำลูกหลานออกท่องเที่ยวในช่วงเปิดเทอม เนื่องจากในช่วงเปิดเทอมปกติ ชาวจีนจะไม่นิยมให้ลูกหลานลาเรียนเพื่อไปเที่ยว ไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศจีน หรือต่างประเทศ เนื่องจาก ในจีนมีการแข่งขันในการเรียนสูง จึงใช้ช่วงปิดเทอม พาลูกหลานเที่ยวอย่างจริงจัง พล.ต.ต.เชิงรณฯ กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งเดินทางไปร่วมประชุมกับรองอธิบดีกรมการกงสุล สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับข้อมูลว่าแม้ว่าชาวจีนจะนิยมเที่ยวในประเทศจีนมากขึ้น เนื่องจากรายได้ทางเศรษฐกิจลดลงหลังโควิด แต่ประเทศไทย ก็ยังเป็นประเทศอันดับหนึ่ง รองจากมาเก๊า ฮ่องกง […]

1 16 17 18 19 20 2,048
...