อาชญากรรม

กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – หนุ่มคลั่งอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ แย่งปืนตำรวจลั่นโดนเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย ก่อนจะควบคุมสถานการณ์และนำตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.สุทธิสาร เกิดเหตุชายคลั่งแย่งปืนตำรวจ ก่อนลั่นใส่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย บริเวณสวนหย่อมคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ซอยรัชดาฯ 16 เขตดินแดง กทม. นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุตำรวจสายตรวจ สน.สุทธิสาร รับแจ้งพบชายกำลังอาละวาดในสวนคอนโดฯ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบชายคนดังกล่าวอ้างเป็นหน่วยรบพิเศษ จึงพยายามพูดคุยและเชิญตัวไปโรงพัก เนื่องจากมีอาการคล้ายมึนเมา แต่ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวเข้ามาแย่งปืนสายตรวจ ระหว่างนั้นปืนเกิดลั่น 2 นัด ถูกเสื้อเกราะบริเวณหน้าอกซ้ายและต้นแขนด้านซ้าย ก่อนจะควบคุมสถานการณ์และนำตัวชายคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.สุทธิสาร .-สำนักข่าวไทย

กรุงเทพฯ 10 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดใหม่ (ยายแป้น) แถลง “พระมหา” อ้างหลังไปรับกิจนิมนต์บ้านโยมคนหนึ่งและฉันน้ำปานะจนหมดสติ ลาสิกขาแล้ว ยืนยันตนไม่ใช่เจ้าอาวาสที่มีสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” ตามที่ถูกเข้าใจผิดจากข่าวที่เผยแพร่ ศาสตราจารย์ ดร.พระเมธีวัชรบัณฑิต (หรรษา ธมฺมหาโส) เจ้าอาวาสวัดใหม่ (ยายแป้น) ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อเผยแพร่ข่าวพระสงฆ์มีความสัมพันธ์กับสีกา และมีการพาดพิงชื่อวัดใหม่ (ยายแป้น) เนื่องจากพระที่ปรากฏในข่าวมีตำแหน่งทางวิชาการ “ศาสตราจารย์ ดร.” เช่นเดียวกัน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าอาวาส สำหรับ​พระที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นพระลูกวัดรูปหนึ่ง เป็น​พระมหา ซึ่งได้โทรศัพท์มาแจ้งด้วยตนเองเมื่อเวลาประมาณ 22.15 น. คืนวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า​ท่านได้กระทำผิดพลาดทางพระธรรมวินัย โดยระบุว่า “ไปรับกิจนิมนต์ที่บ้านโยมคนหนึ่ง ฉันน้ำปานะแล้วหมดสติไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็เกิดเหตุ ​ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว” จากนั้นพระรูปดังกล่าวแจ้งเพิ่มเติม​ว่า​ได้ลาสิกขาแล้ว โดยไม่ทราบว่า​ไปลาสิกขาที่ไหน​ เป็น​การพ้นจากสมณเพศ เพราะ​ผิดธรรมวินัย​ถึง​ขั้นอาบัติ​ปาราชิก ​ซึ่ง​กลับมา​บวช​ใหม่​ไม่ได้ ทั้งนี้ ​ไม่ทราบ​ว่า​หลังจาก​เกิดเหตุ​ที่​พระมหาอ้าง​ว่า​ ฉันน้ำปานะแล้ว​หมดสติ​ มีการ​สานสัมพันธ์​กับ​ “สีกา​ ก.” ต่อหรือไม่ ​เพราะ​ไม่ได้​สอบถาม​อะไร​ต่อ​ […]

ฉะเชิงเทรา 9 ก.ค. – สว.คนดังที่มีข่าวฉาวล่วงละเมิดสาวที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา เคยลักทรัพย์ผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำเมื่อปี 64 มูลค่า 1.5 ล้านบาท กรณีสาวที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา เข้าแจ้งความและยื่นหนังสือร้องเรียนด้านจริยธรรมกับ สว. ชายรายหนึ่ง โดยกล่าวหาว่ามีการบังคับขึ้นคอนโดฯ และล่วงละเมิดทางเพศ ล่าสุดมีการขุดคุ้ยวีรกรรมในอดีตของ สว.ชายรายนี้เคยลักทรัพย์ผู้ประสบอุบัติเหตุ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 พ.ค. 64 รถยนต์หรูพลิกคว่ำบนทางด่วนบูรพาวิถี กม.43 ขาเข้า กทม. ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณกลางถนนพบ น.ส.พรอุมา อายุ 42 ปี กระเด็นอยู่นอกรถนอนได้รับบาดเจ็บสาหัส และห่างไปเกือบ 70 เมตร พบร่าง น.ส.ปิยะดา อายุ 59 ปี คนขับ เสียชีวิตอยู่บนถนนเลนซ้าย สภาพศพกระดูกหักหลายแห่ง คาดว่าน่าจะถูกรถที่ขับตามหลังมาชนซ้ำทำให้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุทางญาติแจ้งกับตำรวจว่ามีทรัพย์สินสูญหายหลายรายการ มูลค่านับล้านบาท และคิดว่ากู้ภัยเป็นผู้นำทรัพย์สินไป […]

บช.สอท. 9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ หารือร่วมกับ ปปง. เตรียมลุยยึดทรัพย์เครือ “ก๊กอาน” กว่าพันล้านบาท เอี่ยวขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พร้อมเร่งทำสำนวนส่งอัยการ และเตรียมประสานขอออกหมายแดงให้เร็วที่สุด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประชุมร่วมกับนายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงเปิดเส้นทางการเงินของ “ก๊กอาน” เจ้าของตึกกาสิโนในปอยเปต และเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าวันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผอ.กองกฎหมาย ปปง. เนื่องจากพบว่าก๊กอาน มีความเชื่อมโยงกับคดีของนางสาวชาลอต นางแบบชื่อดัง และยังพบคดีอื่นๆ อีก 3 คดี ที่มีความเชื่อมโยงกัน จึงเป็นหลักฐานให้นำมาสู่การออกหมายจับในประเทศไทย ในข้อหาเป็นผู้มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานประกอบในสำนวน หากเสร็จสิ้นแล้วจะส่งให้พนักงานอัยการพิจารณา เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแล้วจึงจะสามารถประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นเรื่องให้องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพลออกหมายแดง ส่วนการประชุมร่วมกับ ปปง. ในวันนี้ ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของก๊กอานในอดีต ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลในประเทศไทยหรือกัมพูชาหรือไม่ ประเด็นนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยเชื่อว่าก๊กอานได้ถือครองทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศอีกจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นประเทศที่อยู่ในความร่วมมือของอินเตอร์โพลก็มีแนวโน้มที่จะขอความร่วมมือในการตรวจสอบและอายัดทรัพย์สิน ส่วนจะมีคนไทยหรือใครที่รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังก็ต้องขยายผลเพิ่มเติม ด้านนายสุทธิศักดิ์ สุมน […]

9 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งไทยเทาร่วมผิวสีฉ้อโกงข้ามชาติ ยึดเงินทันคืนเหยื่อบริษัทญี่ปุ่น กว่า 215 ล้านบาท ใหญ่สุดในประวัติการณ์ จากกรณีคดีบริษัทชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นถูกแฮ็กอีเมล และสวมรอยโดเมนอีเมลปลอมตั้งแต่ปี 2567 เพื่อหลอกให้บริษัทเชื่อว่าบัญชีรับเงินได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 บริษัทญี่ปุ่น หลงเชื่อและโอนเงินกว่า 228 ล้านบาท ผ่านระบบ SWIFT มายังบัญชีบริษัทในประเทศไทย หลังการโอนเงิน นายวีรกานต์ หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ได้รีบถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนรวม 13 ล้านบาท ก่อนที่ทางธนาคารไทยจะตรวจพบความผิดปกติ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เข้าทำการอายัดบัญชีทันที ซึ่งนำไปสู่การสืบสวนขยายผลพบว่าบริษัทคู่ค้าปลอมจดทะเบียนอยู่ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยมีกรรมการ 3 คน คือ นายวีรกานต์ นางสาววิลัยพร และนายอนุชา ซึ่งถูกออกหมายจับและจับกุมได้ในวันที่ 29 เมษายน จากการสืบสวนพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือ Mr.Annest Onyebuchi ชาวไนจีเรีย ซึ่งเป็นสามีของนางสาวพิญญานันท์ โดยส่งใบแจ้งหนี้ปลอมผ่านแอปพลิเคชัน WhatsApp เพื่อหลอกบริษัทญี่ปุ่น จากนั้นจึงนำเงินไปฟอกผ่านบริษัทอื่นในไทย ต่อมาในวันที่ 8 […]

บก.สอท. 9 ก.ค. – ผบช.สอท. สั่งค้นเพิ่มอีก 1 จุด ต้องสงสัยพัวพัน “ก๊กอาน” พบล็อกประตูบ้านปิดเงียบ ยันเคยประสานกัมพูชาเข้าตรวจค้นอาณาจักรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปอยเปต แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สั่งชุดพนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่ตรวจสอบพิกัดบ้านอีกหนึ่งหลัง ซึ่งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับ “ก๊กอาน” หลังเมื่อวานนี้เปิดศูนย์ปฏิบัติการ ยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่าย “ก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino” คนสนิทฮุน เซน ตรวจค้นเป้าหมาย 19 จุด ยึดรถหรูและอายัดเงินนางจุรี ลูกสาวก๊กอาน ไว้ 27 ล้านบาท โดยได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นเพิ่มอีก 1 จุด เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในพื้นกรุงเทพฯ ใกล้เคียงจุดเมื่อวาน ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ “ก๊กอาน” จึงสั่งชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบเช้านี้ แต่เมื่อเข้าค้นกับพบล็อกประตูปิดเงียบ คาดข่าวรั่ว ไหวตัวทัน จึงเตรียมประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนผลการตรวจค้นเป้าหมาย 19 จุด เมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจสามารถควบคุมผู้ต้องหาความผิดตาม […]

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” สั่ง ปปป.ลุยวัดดังย่านภาษีเจริญ และวัดดังอีกแห่งที่ฉะเชิงเทรา หลังพบคลิปลับ ระดับผู้ช่วยเจ้าอาวาส มั่วสีกา ก.วอนให้สึก อย่าให้ศาสนาเสียหายไปกว่านี้ ตำรวจ ปปป.จัดกำลังลงพื้นที่เข้าพูดคุยกับพระผู้ใหญ่วัดดัง 2 รูป ได้แก่วัดดังย่านภาษีเจริญ และวัดดังอีกแห่งที่ฉะเชิงเทรา หลังคลิปลับร่วมหลับนอน ปรากฏอยู่ในโทรศัพท์มือถือสีกา ก. โดยเจ้าหน้าที่ได้เจรจาพูดคุยกับพระทั้ง 2 รูป ให้ยอมสึกจากความเป็นพระ เพื่อป้องกันไม่ให้ศาสนาเกิดความเสียหาย เนื่องจากพฤติกรรมการกระทำของพระทั้ง 2 รูปดังกล่าวถือเป็นความผิดทางวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง เป้าหมายจุดหมายแรกที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปคือวัดย่านภาษีเจริญ เพื่อขอเข้าเจรจาพูดคุยกับผู้ช่วยเจ้าอาวาส อายุ 60 ปี แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงปรากฏว่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสคนดังกล่าวไม่อยู่วัด โดยได้เดินทางออกจากวัดไปตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าขณะนี้พระรูปดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานติดตามตัว ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับพระในวัดรูปหนึ่ง โดยให้ข้อมูลว่า ไม่ทราบว่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ที่ไหนหรือไม่ แต่ทราบว่าไม่อยู่ในกุฎิ พร้อมกับรู้สึกตกใจกับพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนเป้าหมายจุดที่ 2 วัดดังใน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่เข้าค้นกุฏิผู้ช่วยเจ้าอาวาส แต่ปรากฏว่าพระรูปดังกล่าวออกไปทำกิจนิมนต์นอกวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าทำการพูดคุย.-415-สำนักข่าวไทย