
ผลปฎิบัติช่วงเคอร์ฟิว 23-24 เม.ย.-ปรับลดด่าน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปผลการปฏิบัติในช่วงเคอร์ฟิวระหว่างวันที่ 23 -24 เมษายน รวมทั้งการปรับลดจำนวนจุดตรวจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปผลการปฏิบัติในช่วงเคอร์ฟิวระหว่างวันที่ 23 -24 เมษายน รวมทั้งการปรับลดจำนวนจุดตรวจ
คุม 2 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ ชายเร่ร่อนวัย 71 ปี ย่านนางเลิ้ง ก้มกราบขอขมา อ้างทำครั้งแรก อยากได้เงินไปซ่อมรถซาเล้ง ด้านลุงเคราะห์ร้า ยเผยเป็นกรรมเก่า อโหสิกรรมให้
ตำรวจ สน.นางเลิ้ง รวบ 2 หนุ่ม ก่อเหตุทำร้ายร่างกายลุงวัย 71 ปี ชิงกระเป๋าเงินหลบหนี รับสารภาพต้องการหาเงินไปซ่อมรถ
โรงพยาบาลตำรวจใช้ “รถกองหนุน” เข้ามาช่วยดูผู้ป่วยโควิด-19 ลดความเสี่ยงไม่ต้องให้บุคลากรทางแพทย์เผชิญหน้ากับคนไข้
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเผยสถิติคดี 20 วันหลังเคอร์ฟิวพบผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ลดลง ขอประชาชนช่วยอดทน ร่วมฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน
รอง ผบ.ตร.ชี้แจงกรณีจับคนงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ย่านบางนา เพราะไม่เข้าข่ายได้รับการยกเว้น ส่วนการฉีกเอกสารรับรองการทำงานเพราะ จนท.รับเวรต่อ
รองโฆษก ตร.แจงกรณีจับคนงานก่อสร้าง 15 คน ฝ่าฝืนช่วงเวลาประกาศเคอร์ฟิว พร้อมตั้งกรรมการสอบตำรวจ สภ.บางแก้ว ชุดจับฉีกเอกสารขอผ่านช่วงเคอร์ฟิว
ผบช.สตม.เผยมีเจ้าหน้าที่ ตม.ด่านสะเดา ติดโควิด-19 จำนวน 5 นาย อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง 42 นาย ยอมรับกำลังพลลดลงแต่สามารถบริหารจัดการได้
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งตำรวจในสังกัด เร่งประสาน กทม.จัดระเบียบแจกอาหาร
สตม. จับผู้ต้องหาอ้างเป็นตำรวจหลอกขายหน้ากากอนามัยเสียหาย 1.46 ล้าน พร้อมล่อซื้อขายน้ากากอนามัยเกินราคา
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับมูลนิธิต้นบุญวิสาขา และร้านนวดแผนไทย”จารวี”แจกอาหารบรรเทาความเดือดร้อนช่วงวิกฤตโควิด-19
กทม.23 เม.ย.- ตำรวจกอง กองปราบจับหญิงอายุ 43 ใช้ชื่อบริษัทเก่าหลอกเหยื่อว่ารู้ช่องทางซื้อขายหุ้นอย่างดี มีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้หลายราย ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม จับกุม น.ส.สวิตตา(สงวนนามสกุล)อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้อหา “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และฉ้อโกงผู้อื่น” หน้าหมู่บ้านย่าน รังสิต-คลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 10 สืบเนื่องจากเดือนสิงหาคม 2562 ผู้ต้องหาได้โพสต์ข้อความและภาพลงในเฟซบุ๊ค ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะหลอกลวงผู้เสียหายและประชาชน ให้เข้าใจว่าเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอ้างว่ามีความรู้และรู้ช่องทางเรื่องการซื้อขายหุ้นเป็นอย่างดีและผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายนำเงินมาร่วมลงทุนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินให้โดยโอนเงินทางโทรศัพท์มือถือและมอบเงินสดให้หลายครั้ง รวมมูลค่าเสียหายกว่า 5 แสนบาท หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้โอนเงินให้กับผู้เสียหายบางส่วนโดยอ้างว่าเป็นเงินปันผล ต่อมาประมาณเดือนพฤศจิกายน 2562 ผู้ต้องหาอ้างว่า จะมีการเทขายหุ้นแล้วจะเริ่มทยอยคืนเงินต้นให้ ปรากฏว่าไม่มีการคืนเงินต้นและผู้ต้องหาได้หลบหนีไปและติดต่อไม่ได้ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามที่บริษัทเอกชนดังกล่าว จึงทราบว่าผู้ต้องหาได้ลาออก พ้นสภาพพนักงาน ก่อนที่จะมีการโพสต์เฟซบุ๊คแล้วจึงได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จนกระทั่ง ตำรวจ กก.1 บก.ป.สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาทำงานที่ […]