
ขึ้นทะเบียน GI ตัวใหม่ “ทุเรียนบางนรา”
ขึ้นทะเบียน GI ตัวใหม่ “ทุเรียนบางนรา”
ขึ้นทะเบียน GI ตัวใหม่ “ทุเรียนบางนรา”
“สุริยะ” ยืนยันแก้สัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ไม่มีเอื้อประโยชน์ แจงเหตุโควิด ทำรัฐ - เอกชน ผิดสัญญา เล็ง ผู้รับเหมาต้องวางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร หวั่นทิ้งงาน พร้อมจ้างรายอื่นสร้างต่อทันที เชื่อทำความเข้าใจพรรคร่วมได้
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 41 ในเดือนตุลาคม 2567 ภายใต้หัวข้อ “แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายสินค้าราคาถูกบุกไทย อุตสาหกรรมจะรับมืออย่างไร” พบว่าผู้บริหาร ส.อ.ท. ที่ตอบแบบสำรวจถึง 35.1% มียอดขายลดลงจากการเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขายสินค้าถูกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่ขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซบางรายการอาจเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ตรงปก ทำให้ผู้บริโภคสูญเสียเงิน ตลอดจนมีความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยในการบริโภคสินค้าด้วย ดังนั้นผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลและมีสำนักงานในไทยเพื่อให้สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเคร่งครัด รวมทั้งกำหนดให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรับผิดชอบในการคืนสินค้า กรณีสินค้าไม่ได้คุณภาพหรือไม่ตรงปก อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ยังมองว่า สินค้าไทยยังสามารถแข่งขันกับสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้ แต่ผู้ประกอบการไทยจะต้องเร่งปรับตัวเพื่อพัฒนาและสร้างจุดแข็งให้กับสินค้า โดยเฉพาะการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ การนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมายกระดับกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจในการส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศและการเปิดตลาดไปยังต่างประเทศ จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 175 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก […]
ธ.ก.ส. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดร้อยละ 0.25 พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่งเสริมวินัยการออม
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทสูงสุด 0.25% ต่อปี มีผลตั้งแต่ 1 พ.ย. 2567 เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับประชาชน พร้อมขยายอายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ถึง 31 ธ.ค.2567 จากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและภาระหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น
MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง จะปิดทำการทุกแห่งเนื่องในวันปิยมหาราช วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 โดยจะยังคงเปิดให้บริการชำระค่าไฟฟ้าเฉพาะเคาน์เตอร์ที่ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (Government Center)
ราคาทองคำไทยในประเทศสร้างสถิติสูงสุดรอบใหม่ (All-Time High) ตามราคาทองคำตลาดโลกและบาทอ่อนค่า ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 43,750 บาท
“ไทยพาณิชย์-กสิกรไทย” ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.50% มาอยู่ที่ 2.25% ต่อปี มีผล 1 พฤศจิกายน 2567
ธนาคารกรุงไทย โตตามแผน ไตรมาส 3 ปี 2567 กำไรสุทธิ 11,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 ส่งผล 9 เดือนแรกปีนี้ 33,381 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 เน้นบริหารพอร์ตอย่างสมดุล รักษาระดับเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) รองรับสภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่ำและมีความไม่แน่นอนสูง
“สุริยะ” ช่วยประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มอบการทางพิเศษฯ ยกเว้นค่าผ่านทางด่วน 3 สายทาง วันที่ 23 ตุลาคม 2567
SET ปิดวันนี้ 1,488.74 จุด ลดลง 1.08 จุด (-0.07%) มูลค่าซื้อขาย 41,634.31 ล้านบาท
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เตือนคนไทยหยุดพฤติกรรมเป็นนอมินี เอื้อต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ผิดกฎหมาย มีโทษถูกปรับและจำคุก ย้ำเอาจริง ร่วมมือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เช่น คดี “ภูเก็ต” ล่าสุดศาลฯ พิพากษาให้บุคคล-นิติบุคคล 23 ราย ต้องรับโทษปรับรายละ 200,000 บาท รอการลงโทษจำคุก 2 ปี คุมความประพฤติ 1 ปี และสั่งให้จดทะเบียนเลิกบริษัท