เกษตรฯ

กรุงเทพฯ 27 ก.ย.- รองเลขาธิการสทนช. เผย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกหน่วยงานพร้อมรับมือพายุ “โนรู” โดยเตรียมแนวทางลดผลกระทบและเตรียมการช่วยเหลือประชาชชน ล่าสุดมีอ่างเก็บน้ำเกินเกณฑ์ปฏิบัติการ 14 แห่ง ย้ำให้เฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำอย่างเหมาะสม

ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำระบุ พายุไต้ฝุ่น “โนรู” ซึ่งอยู่ในทะเลจีนใต้เป็นไต้ฝุ่นกำลังระดับ 2-3 คาดว่า ก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามจะทวีกำลังแรงขึ้นอีกเนื่องจากได้พลังงานจากทะเลซึ่งมีสภาพอุ่น โดยเมื่อเข้าสู่เวียดนามคืนวันที่ 28 ก.ย. จะส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นทันที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย คาดเข้าไทยเช้า 29 ก.ย. แล้วมีทิศทางการเคลื่อนที่ตามร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยในขณะนี้ ส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มในลุ่มน้ำชี-มูล เขาใหญ่ และภาคตะวันออก

กรมชลประทานพร่องน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำจากฝนที่จะตกเพิ่มจากอิทธิพลของพายุ “โนรู” ด้วยการแบ่งน้ำเข้าฝั่งตะวันตกและตะวันออกเหนือเขื่อนเพิ่ม แต่ยังคงปริมาณการระบายท้ายเขื่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้านท้าย โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ

ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำติดตามการพัฒนาตัวและทิศทางของพายุโซนร้อน “โนรู” จากหลายแบบจำลอง คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม 27-28 ก.ย. แล้วมีแนวโน้มเคลื่อนเข้ามาสู่ประเทศไทยที่จ. มุกดาหารหรือรอยต่ออุบลราชธานี หากเข้ามา จะเคลื่อนที่ผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในลุ่มน้ำชี-มูล เจ้าพระยา และป่าสัก