เกษตรฯ

รมว.เกษตรฯ ระบุสั่งตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ช่วงเวลาที่เกิดโรค ASF ในประเทศเกิดขึ้นช่วงไหน แต่ยืนยันเฝ้าระวังป้องกันเต็มที่ เพราะไม่มีใครอยากให้เกษตรกรเดือดร้อนจากหมูเป็นโรคระบาด และประชาชนต้องบริโภคเนื้อหมูแพง

“เฉลิมชัย” ระบุ ราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้น จะเข้าสู่ภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยเป็นไป แต่สั่งกรมปศุสัตว์เร่งเดินหน้าทุกมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์เรียกประชุมด่วนเพื่อดำเนินมาตรการหลังประกาศพบโรค ASF ทั้งการช่วยเหลือเกษตรกรและการขยายกำลังการผลิตหมูขุนเพื่อแก้ปัญหาราคาเนื้อหมู

กรุงเทพฯ 13 ม.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ระบุ สัปดาห์หน้าทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนจะร่วมกันหารือเพื่อแก้ไขปัญหาราคาเนื้อสุกรปรับสูงขึ้น คาดว่า จะมีมาตรการชัดเจน ระหว่างที่การเพิ่มการผลิตสุกรรอบใหม่ใช้เวลา 8-12 เดือน ส่วนผู้เลี้ยงไม่ต้องกังวล ไม่ได้งดการเคลื่อนย้ายสุกรอย่างสิ้นเชิงในพื้นที่พบโรค   นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า เดินหน้าเพิ่มปริมาณการผลิตสุกรขุนในประเทศเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค แต่เกษตรกรรายย่อยและรายเล็กที่พักคอกไป หากจะกลับมาเลี้ยงใหม่ ต้องปรับปรุงฟาร์มให้มีระบบป้องกันโรค แต่ยืนยันว่า จำนวนสุกรในประเทศ ไม่ได้ลดลงถึง 50% อย่างที่มีบางฝ่ายออกมาให้ข้อมูล เมื่อดูจากรายงานการเคลื่อนย้ายสุกรของฟาร์มเข้าโรงฆ่าใน E-Movement ปี 2564 ลดลงจากปี 2563 ประมาณ 13% ดังนั้นสาเหตุที่เนื้อสุกรปรับขึ้น ไม่ได้เกิดจากโรคระบาดอย่างเดียว แต่มีปัจจัยต้นทุนอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้นและอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้า จะร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนหารือเกี่ยวกับการแก้ไขราคาเนื้อสุกรแพง ระหว่างที่รอบการผลิตสุกร 8-12 เดือน คาดว่า จะมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย