นราธิวาสขยายผลยึดอีกเพียบไอซ์-ยาบ้า

นราธิวาส 6 ก.ย.- รอง ผบช.ภาค 9 ลงนราธิวาสเกาะติดยาเสพติดรายสำคัญสุไหงโก-ลก หลังรวบ 3 ผู้ต้องหา ล่าสุดยึดของกลางเพิ่มอีกเพียบ ไอซ์ 21 กก. ยาบ้ากว่า 600,000 เม็ด เมื่อเวลา 13.00 น. (6 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฎิบัติการ สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 และนายพิชิต รุ่งประเสริฐ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง แถลงผลปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นในพื้นที่สุไหงโก-ลก และมีการขยายผลจากการจับกุม 3 ผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ พร้อมเฮโรอีนน้ำหนัก 3.8 กรัม บริเวณหน้าสนามยิงปืนแห่งหนึ่ง ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา […]

คึกคัก! นครศรีฯ ประมูลป้ายรถเลขสวย พุทธาภิเษกวัดเจดีย์

นครศรีธรรมราช 5 ก.ย.- ขนส่งจังหวัดนครศรีฯ เปิดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวยครั้งนี้ได้รับความสนใจพิเศษ หมวด “กว” จำนวน 301 หมายเลข ผ่านพิธีพุทธาภิเษกวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) วันนี้ (5 ก.ย.) นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการเปิดประมูลป้ายทะเบียนรถเลขสวย ประจำปี 2563 ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดขึ้นที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้รูปแบบวิถีใหม่ หรือ New Normal รวมทั้งมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในการนั่งตามมาตรการคุมเข้มโควิด-19 โดยป้ายทะเบียนที่เปิดประมูลเป็นหมวด กว (หมายถึงกิจการก้าวหน้า วาสนานำพาโชค) จำนวน 301 หมายเลข ผ่านพิธีพุทธาภิเษกจากวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ทำให้บรรยากาศการประมูลครั้งนี้คึกคักอย่างมาก สำหรับแผ่นป้ายทะเบียนประมูล ภาพพื้นหลังแสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัด มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ภาพนกกินปลีหางเขียว มโนราห์ และหนังตะลุง โดยป้ายทะเบียนที่ได้รับความสนใจจากผู้ประมูล คือ กว […]

จับ 8 แรงงานเถื่อนลอบผ่านชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 4 ก.ย.- รถกระบะอาศัยความมืดทำผิดคิดว่ารอด เจอชุดสนธิกำลังทหาร ฉก.ตาพระยา -ปคม. เรียกตรวจ รีบเผ่นหนีเข้าป่า ทิ้ง 8 แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง พ.อ.ถิรเดช ลิ้มคุณากูล รอง ผบ.ฉก.ตาพระยา จ.สระแก้ว พร้อมชุดปฏิบัติการของหน่วยร่วมกับตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เฝ้าระวังพื้นที่อย่างต่อเนื่องตามนโยบายของ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผบ.กองกำลังบูรพา ให้เข้มงวดกวดขันชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องการลักลอบเข้าประเทศช่วงโควิด-19 ปรากฏว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ก.ย.) พบรถกระบะต้องสงสัย ทะเบียน บบ-4938 สระแก้ว แล่นมาตามถนนหมู่บ้านหนองไผ่ ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จึงเรียขอตรวจสอบ แต่คนขับกลับเร่งเครื่องหลบหนีและไปเสียหลักอยู่ข้างทางในพื้นที่โคคลาน ต.โคคลาน อ.ตาพระยา ส่วนคนขับอาศัยความมืดวิ่งหนีเข้าป่า ทิ้งคนที่นั่งมากับรถทั้งหมด 8 คน เป็นแรงงานชาวกัมพูชา มีชาย 5 คน หญิง 3 คน ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าแรงงานเหล่านี้จ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าคนละเกือบ 3,000 บาท […]

คาดไฟลัดวงจรไหม้วอดโกดังร้างย่านแปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา 4 ก.ย.- เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัดไฟไหม้เช้านี้โกดังร้างย่านบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา วอดทั้งหลัง โครงหลังคาพังถล่ม คาดไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อเวลา 08.00 น. (4 ก.ย.) ร.ต.ท.สมพงษ์ ศิลาวงษ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา ประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลดอนฉิมพลีและพื้นที่ใกล้เคียงระดมรถน้ำ 6 คัน เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โกดังในพื้นที่หมู่ 11 ต.ดอนฉิมพลี โดยเพลิงลุกลามเกือบทั่วอาคารและทำให้โครงเหล็กหลังคาพังลงมา เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดนานกว่า 30 นาที จึงควบคุมไว้ได้ทั้งหมด ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะโกดังแห่งนี้ร้างมานานกว่า 5 ปี และก่อนเกิดเหตุชาวบ้านเห็นกลุ่มควันไฟลอยออกมาหนาทึบเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ได้ประสานชุดพิสูจน์หลักฐานแล้ว เพื่อเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

กระบี่สวดบังสุกุล-ฝังกลบ “พลายแสงจันทร์” ช้างงางาม

กระบี่ 3 ก.ย.- ฝังแล้ว! ช้างงาสวยงาม “พลายแสงจันทร์” หลังพระสงฆ์สวดบังสุกุลอุทิศกุศล ด้านเจ้าของสุดอาลัยเผยเป็นช้างลักษณะดีที่พ่อคล้องได้จากป่านำมาเลี้ยงไว้ประจำตระกูลตั้งแต่ปี 2518 และเป็นช้างรุ่นเหลนพระเศวตฯ เมื่อเวลา 16.00 น. (3 ก.ย.) ที่สวนปาล์มน้ำมันของนายวิชัย เพชรรักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ นิมนต์พระสงฆ์จากวัดทับปริก 8 รูป ประกอบพิธีสวดบังสุกุลให้กับ “พลายแสงจันทร์” อายุ 46 ปี น้ำหนักประมาณ 4 ตัน ก่อนฝังกลบซากพลายแสงจันทร์ ท่ามกลางชาวบ้านมาร่วมในพิธีจำนวนมาก เนื่องจากช้างถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ “พลายแสงจันทร์” ได้ล้มลงอยู่ในป่าบ้านห้วยโต้ เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ห่างจากสวนปาล์มจุดทำพิธีกว่า 3 กิโลเมตร นายประภาส ชูศรี อายุ 54 ปี เจ้าของช้าง และชาวบ้านช่วยกันเคลื่อนย้ายซากพลายแสงจันทร์โดยรถแบ็กโฮ นายประภาส เล่าว่า พ่อของตนได้นำพลายแสงจันทร์ […]

โกเจ็กเปิดให้ดาวน์โหลดแอพหลังรวมบริการกับเก็ท

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.โกเจ็กกลุ่มธุรกิจด้านเทคโนโลยี เปิดให้ผู้บริโภคไทยดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Gojek Thailand ได้แล้วก่อนให้บริการเต็มรูปแบบ 16ก.ย.  หลังจากเก็ท (Get) ได้ประกาศรีแบรนด์และรวมแอพพลิเคชั่นเข้าภายใต้ Gojek ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะยาวของบริษัท โดยเป็นการต่อยอดความสำเร็จของแพลตฟอร์ม GET สำหรับแอพพลิเคชั่น Gojek จะให้บริการด้วยอินเทอร์เฟซฝั่งผู้ใช้ที่ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับบริการหลักทั้ง 4 ประเภทได้แก่ บริการส่งอาหาร (GoFood)บริการเรียกรถจักรยานยนต์ (GoRide) บริการขนส่งพัสดุ (GoSend) และ อีวอลเล็ตหรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (GoPay) ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถใช้บริการผ่านแอพ GET ได้ต่อเนื่องไปจนถึงวันเปิดตัวแอพ Gojek อย่างเป็นทางการ -สำนักข่าวไทย.

IRPC ระยองแจงเหตุไฟไหม้หน่วยปรับคุณภาพน้ำมัน

ระยอง 3 ก.ย.- นายอำเภอเมืองระยองห่วงชุมชนใกล้เขตประกอบการไออาร์พีซีรับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้เมื่อคืน 2 ก.ย. ด้านบริษัทชี้แจงก๊าซรั่วหน่วยปรับคุณภาพน้ำมัน และคุมสถานการณ์ได้เร็ว จนท.เจ็บ 2 พร้อมปิดระบบชั่วคราว เร่งตรวจสอบดูแลชุมชน เมื่อเวลา 13.30 น. (3 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้ชุมชน บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง นายสุพจน์ ต่ออาจหาญ นายอำเภอเมืองระยอง นายสุปนันท์ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมร่วมกับบริษัทไออาร์พีซี เพื่อติดตามกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนัก (Unit 52) ของโรงงานแปรรูปน้ำมันหนักให้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (UHV) อยู่ในเขตประกอบการไออาร์พีซี ต.เชิงเนิน เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดจากก๊าซไฮโดรคาร์บอนรั่วไหลบริเวณหน้าแปลนวาว์ลนิรภัยและเพลิงลุกไปในพื้นที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันหนัก Unit 52 ทำให้ชาวบ้านละแวกดังกล่าวตื่นตระหนก ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางโรงงานฯ สามารถตัดแยกระบบการผลิตและเข้าควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ให้อยู่ในวงจำกัดได้ในเวลา […]

เตือนใช้เพาเวอร์แบงก์ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หลัง 1 ธ.ค.มี ความผิด

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- พีเทค สวทช. ย้ำเพาเวอร์แบงก์ต้องได้มาตรฐาน ขีดเส้นตาย 1 ธ.ค. ไม่มีมาตรฐานโดนแน่ นางเกศวรงค์ หงส์ลดารมภ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยนายไกรสร อัญชลีวรพันธุ์ ผู้อานวยการศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สวทช. นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมศูนย์ทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยสามารถทำการทดสอบแบตเตอรี่ทั้งระดับเซลล์ ระดับโมดูลและ ระดับแพ็ค และได้รับมาตรฐาน มอก. 2217 หรือ IEC62133 และมาตรฐาน มอก. 2879 จาก สมอ.พร้อมที่จะดำเนินการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่สนใจจะทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่ เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการใช้งาน และปัจจุบัน PTEC ยังสามารถทำการทดสอบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่ใช้สาหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแหล่งเก็บกักพลังงาน (Energy Storage) ขนาดใหญ่ ทั้งในด้านประสิทธิภาพในการชาร์จ-ดิสชาร์จ และด้านความปลอดภัยการใช้งานด้วย นายไกรสร กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนใช้งานแบตเตอรี่ ทั้งในส่วนเพาเวอร์แบงก์ โทรศัพท์มือถือ โน๊ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือกล้องติดรถยนต์ เป็นจำนวนมากภายใต้ความเสี่ยงระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ หลังวางไว้อยู่ในรถซึ่งตากแดดเป็นเวลานาน หรือชาร์จทิ้งไว้ในบ้านแล้วเกิดระเบิดจนไฟลุกไหม้สร้างความเสียหาย เพราะส่วนประกอบของแบตเตอรี่ เป็นแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็นสารที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนง่าย และอาจเกิดการติดไฟขึ้นได้ ในเวลาที่เจอกับสภาวะร้อนจัด ซึ่งหากใช้แบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นเพื่อดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้า  สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จึงประกาศให้มาตรฐานเพาเวอร์แบงก์เป็นมาตรฐานบังคับ คือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแบบพกพา คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย มอก. 2879-2560 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถยื่นขอ มอก.เพื่อรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ โดยจะมีผลบังคับใช้ 1 ธันวาคม 2563 โดยจะส่งผลให้เพาเวอร์แบงก์ในท้องตลาดทุกยี่ห้อ ต้องมีเครื่องหมาย มอก. รับรองตามที่มาตรฐานกำหนด หากละเมิดผู้นำเข้าจะมีความผิดทางอาญา นายไกรสร กล่าวว่า ผู้บริโภคสามารถสังเกตความผิดปกติของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ โดยดูลักษณะทางกายภาพ หากบวมแตกหรือบิ่น แสดงว่าไม่ปลอดภัย ต้องเช็กและตรวจสอบ ก่อนนำไปใช้งานต่อ เพราะหากชำรุดจะเกิดปัญหา ขณะที่ผู้บริโภคควรเลือกใช้แบตเตอรี่ หรือตัวชาร์จ ที่ผลิตโดยผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มีตราสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เช่น มอก. และควรเลี่ยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีราคาถูกเกินจริง เพราะมีโอกาสจะเป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ นางเกศวรงค์  กล่าวว่า นักธุรกิจไทยหรือผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าเพาเวอร์แบงก์เข้ามาจำหน่าย สามารถนำสินค้าเข้ามาใช้บริการศูนย์ทดสอบได้ในราคาพิเศษ โดยใช้เวลาในการทดสอบคุณภาพเพียง 3 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PTEC สวทช.หมายเลขโทรศัพท์ 0-2117-8625 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย.

กสทช.แจ้งผู้ครอบครองโดรนหลัง 23 ก.ย.รีบขึ้น ทะเบียนภายใน 30วัน

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. กสทช. ปรับปรุงประกาศโดรนฉบับใหม่ กำหนดให้ผู้ที่ครอบครองโดรนใหม่ หลัง 23 ก.ย. 2563 จะต้องมาขึ้นทะเบียน ภายใน 30 วันหลังจากครอบครอง นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า หลังวันที่ 23 กันยายน 2563 ประกาศกสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินสำหรับใช้งานเป็นการทั่วไป หรือที่เรียกกันว่า ประกาศโดรน จะมีผลบังคับใช้ ทำให้ผู้ที่มีโดรนไว้ในครอบครองมีหน้าที่ต้องมาขึ้นทะเบียนโดรนภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้ครอบครองเครื่อง สำหรับผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนโดรนกับสำนักงาน กสทช. ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับใบอนุญาตให้มี ใช้ และนำออกซึ่งวิทยุคมนาคม และใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ผู้ที่มีหน้าที่ต้องมาขึ้นทะเบียนโดรน ได้แก่ 1.เจ้าของโดรนและผู้ใช้งานทั่วไป 2.นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นำโดรนเข้ามาใช้ในประเทศไทย 3.ผู้ที่นำโดรนเข้ามาใช้ในภารกิจชั่วคราว เช่น นำมาใช้ถ่ายภาพยนตร์ ใช้ในงานโชว์ 4.หน่วยงานของรัฐทั้งหมด ยกเว้นหน่วยงานความมั่นคง นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ประชาชนที่มีโดรนไว้ในครอบครองสามารถยื่นขอขึ้นทะเบียนโดรนได้ที่สำนักงาน กสทช. ส่วนกลางพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) กรุงเทพ หรือ สำนักงาน กสทช. ภาค หรือสำนักงาน กสทช. เขต ตามที่ท่านสะดวก โดยมีค่าธรรมเนียมคำขอ 200 บาทต่อเครื่อง ทั้งนี้ ให้ยื่นขึ้นทะเบียนภายใน 30 วันนับตั้งแต่มีโดรนไว้ในครอบครอง ฝ่าฝืนจะต้องเสียค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สำนักงานอนุญาตวิทยุคมนาคม 1 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2670 8888 ต่อ 7850 หรือ 7852 หรือ กสทช. Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1200-สำนักข่าวไทย.

ลำปางย้าย 2 นายตำรวจเขลางค์นคร กรณีบ่อนโกดัง

ลำปาง 3 ก.ย.- ผู้การลำปางมีคำสั่งให้ ผกก.-รอง ผกก.สส.สภ.เขลางค์นคร ย้ายเข้า ศปก.ภ.จว. กรณีฝ่ายปกครองนำกำลังเข้าจับกุมโกดังลักลอบเปิดบ่อนพนัน กรณีชุดฝ่ายปกครองจังหวัดลำปางประสานตำรวจ สภ.เขลางค์นคร เข้าตรวจสอบโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ปงแสนทอง อ.เมือง เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) ซึ่งลักลอบเปิดเป็นบ่อนพนัน และจับกุมนักพนันชาย-หญิง จำนวน 19 คน พร้อมยึดของกลางหลายรายการ ล่าสุด พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ลงนามคำสั่งให้ 2 นายตำรวจ สภ.เขลางค์นคร คือ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ สิงห์ทองลา ผู้กำกับการ และ พ.ต.ท.วีระชาติ บ่อคำ รองผู้กำกับการสืบสวน ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าคำสั่งจะมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานทางคดีเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ และยุติธรรม ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และการปฎิบัติราชการของตำรวจภูธรจังหวัดลำปางในภาพรวม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ […]

สมาคมโฆษณาเผยการลงทุนในสื่อดิจิทัลโตแค่ร้อยละ 0.3

กรุงเทพฯ 3 ก.ย. สมาคมโฆษณาดิจิทัลชี้โควิด-19 ทำพิษ ทำเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลปี 63 โตเท่าปี 62 แค่ร้อยละ 0.3 สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ The Digital Advertising Association of Thailand (DMT) ร่วมกับคันทาร์(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท วิจัยสำรวจมูลค่าเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง โดยมีรายงานการวิจัยล่าสุดได้เก็บข้อมูลเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของครึ่งปีแรกของปี 2563 และการคาดการณ์เม็ดเงินในครึ่งปีหลังของปี 2563 จาก42 เอเจนซี่โดยแบ่งเป็น 57 ประเภทอุตสาหกรรมและ 14 ประเภทสื่อดิจิทัลพบว่า การระบาดของโรคโควิด -19 ส่งผลต่อการเติบโตของเม็ดเงินการลงทุนในสื่อดิจิทัลจากการเดิมมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลัก เป็นอัตราการเติบโตเพียงร้อยละ0.3 โดย 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงเงินในการโฆษณาดิจิทัลมากที่สุดในปี 2563 คือ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ มูลค่า 2,577 ล้านบาท กลุ่มเครื่องประทินผิว มีมูลค่า 1,880 ล้านบาท กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮส์ มีมูลค่า 1,643 ล้านบาท และกลุ่มการสื่อสาร มูลค่า 1,642 ล้านบาท ส่วนลำดับที่ 5 กลุ่มธนาคารถูกแทนที่ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ที่ 1,420 ล้านบาทเมื่อเทียบเม็ดเงินการลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลจากปี 2562 มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดถึงร้อยละ 39 ส่วนของกลุ่มเครื่องประทินผิวมีแนวโน้มจะเติบโตในอัตราที่ต่ำสุดที่ร้อยละ 5 กลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มที่มีการลดการลงทุนมากที่สุดหรือลดลงร้อยละ 30  แพลตฟอร์มระดับโลกอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) และยูทูบ (YouTube) ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่แบรนด์เลือกใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคสมาคมโฆษณาดิจิทัลและคันทารคาดการณ์ว่าโซเชียล (Social) และเสริม (Search) จะมีการเย็บโดสูงถึงมากกว่าร้อยละ 32 และ มากกว่าร้อยละ 26 ตามลำดับส่วนการลงทุนในเฟซบุ๊กยูทูบและครีเอทีฟมีอัตราส่วนรวมกันถึงร้อยละ60 ของอัตราส่วนการลงทุนของทั้ง 14 ประเภทสื่อดิจิทัลคุณศิวัตรเปาวรียวงษ์นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ได้ให้ความเห็นว่า สถานการณ์โควิต -19 ส่งผลกระทบทั้งในทางบวกและทางลบต่อการใช้จ่ายเงินโฆษณาดิจิทัลในปีนี้ในขณะที่งบโฆษณาโดยรวมลดลงนักการตลาดได้ปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณโฆษณาหันมามุ่งเน้นโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการสร้างยอดขายผ่านทางช่องทางอีคอมเมิร์ซทั้งนี้ธุรกิจในหลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มากทำให้ต้องปรับลดงบโฆษณาให้สอดคล้องกับการชะลอตัวของยอดขายและความต้องการสินค้าที่ลดต่ำลงโดยภาคธุรกิจท่องเที่ยวการบริการรถยนต์อสังหาริมทรัพย์รวมถึงผลิตภัณฑ์ปารุงผิวและเครื่องสำอางที่ต้องปรับตัวมากเป็นพิเศษและหันมาใช้สื่อโฆษณาที่สร้างความคุ้มค่าได้มากในขณะที่ภาคธุรกิจอาหารยาและเวชภัณฑ์รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคได้รับผลกระทบน้อยกว่าและยังคงใช้งบโฆษณาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในสื่อดิจิทัล นางสาวอาภาภัทร บุญรอด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคันทาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความเห็นว่า เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลยังคงมีเสถียรภาพอยู่หลังการระบาดของโรคโควิด -19 ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่สูงเหมือนหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ลดลงอย่างชัดเจนการที่นักการตลาดย้ายเม็ดเงินมาลงทุนในสื่อดิจิทัลมากขึ้นมีความสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้สื่อของผู้บริโภคโควิด -19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลของผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับชมเนื้อหาบนโลกออนไลน์และการซื้อของผ่านอคอมเมิร์ซผู้บริโภคใช้เวลาในโลกออนไลน์นานขึ้นและมีการใช้สื่อที่หลากหลายขึ้น แต่ยังคงมุ่งเน้นที่แพลตฟอร์มหลักอย่างเฟซบุ๊กและยูทูบส่วนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น TikTok ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่แบรนด์จะลงทุนในสื่อดิจิทัลเพราะเป็นสื่อที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและใช้เวลากับสื่อนี้สูงจนกลายเป็นอีกสื่อหลักนอกเหนือจากทีวี นายคาร์ลอสโตมินเกส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อคันทาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วงการสื่อและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทำให้ความคิดและความเชื่อที่เรามีต่อสื่อนั้นไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้อีกต่อไปเราต้องศึกษาและค้นคว้าเพื่อเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันให้มากขึ้นการปฏิรูปสื่อสู่โลกดิจิทัลเป็นสิ่งที่ต้องทำทันทีไม่สามารถรอได้อีกต่อไป-สำนักข่าวไทย.

ประจวบฯ ยันไม่กระทบท่องเที่ยวข่าวปิดเรียนหวั่นโควิด

ประจวบคีรีขันธ์ 3 ก.ย.- รองผู้ว่าฯ ประจวบฯ เผยตลอด 153 วัน เฝ้าระวังเข้มโควิด-19 ไม่พบผู้ป่วย ส่วนหัวหิน ผลตรวจ 5 คนกลับจากเมียนมาไม่ติดเชื้อ โรงเรียนที่ปิดสอนชั่วคราวพร้อมเปิด 8 ก.ย.นี้ เชื่อท่องเที่ยววันหยุดยาวยังคึกคัก นายคมสัน เจริญอาจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สรุปสถานการณ์ของโรคในพื้นที่บริเวณชายแดนว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รายงานยืนยันข้อมูลตลอดเวลา 153 วัน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วน อ.หัวหิน ที่มีโรงเรียน 2 แห่ง ที่ ต.บึงนคร และ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ แจ้งปิดสอนเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.เป็นต้นมา เพื่อลดความเสี่ยง หลังทราบว่ามีผู้ปกครองของนักเรียนกลับจากฝั่งเมียนมา 5 รายนั้น เตรียมเปิดสอนตามปกติในวันที่ 8 ก.ย.นี้ และโรงเรียนได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั่วอาคารทั้งหมดแล้ว […]

1 41 42 43 44 45 16,774
...