ภาพเล่าเรื่อง

18 ก.ค.2566 การประชุมคณะกรรมการประสานงาน ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล วุฒิสภา และตัวแทน ส.ส.จากพรรคการเมือง เข้าร่วมหารือทิศทางในการโหวตนายกฯ ในวันที่ 19 ก.ค นี้.ขณะที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม ได้กล่าวว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การอภิปรายและนับคะแนนเสร็จก่อนเวลา ถึง 2 ชั่วโมง.ในการประชุม วิป 3 ฝ่ายในวันนี้ เป็นการหารือถึงทางออกว่าจะดำเนินการอย่างไร กรณีญัตติที่เสนอต่อที่ประชุมและถูกโหวตไม่เห็นชอบแล้ว จะนำกลับมาเสนอซ้ำอีกได้หรือไม่.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

17 ก.ค.2566 เวลา 11.00 น. ที่อาคารรัฐสภา ฝั่งวุฒิสภา นายเสรี สุวรรณภานท์และคณะวุฒิสภา (ส.ว.) ได้แถลงถึงกรณีที่ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคล หลังจากที่ตนและสมาชิก ส.ว. คนอื่นๆ “ถูกคุกคามและได้รับความเสียหายจากสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์” ส่งผลต่อธุรกิจส่วนตัวและมีการล่วงไปถึงคนในครอบครัว โดยขณะนี้ได้มีการฟ้องไปแล้วเป็นจำนวน 2 รายและยังคงดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีกับรายอื่นๆ ซึ่งยังอยู่ในการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม นายเสรี กล่าวว่า ในปัจจุบันมักมีการแสดงออกต่อฝ่ายที่เห็นต่างด้วยการใช้วาจาและพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายดูถูกดูหมิ่น โดยเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือคนบางกลุ่มได้มีการใช้คำที่มีการล่วงละเมิดไปถึงครอบครัวหรือแม้แต่การให้ร้ายต่อธุรกิจของ ส.ว. บางท่าน อันเป็นผลให้ธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับความเสียหาย ดังนั้นวันนี้ตนและพรรคพวกที่ได้รับผลกระทบ จึงต้องการที่จะฟ้องร้องและดำเนินคดีกับบุคคลซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายดังกล่าว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเสรี ได้มีการให้ตัวแทนเดินทางไปยังศาลอาญาตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้องกับ 2 บุคคลที่ได้มีการโพสต์ข้อความทางสื่อโซเชียลมีเดียส่งผลให้ตนได้รับความเสียหาย ซึ่งนายเสรี ก็ได้บอกว่า ทั้ง 2 รายที่ตนได้ฟ้องไปนั้นประกอบด้วย ซึ่งขณะนี้สมาชิก ส.ว. ท่านอื่นๆ ก็กำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มของบุคคลที่ได้ใช้สื่อโซเชียล ทำให้พวกตนได้รับความเสียหาย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการสืบหาตัว และจะดำเนินคดีต่อไป ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

14 ก.ค.66 ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางเข้ายื่นหนังสือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.เลือกนายกฯ.โดยนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อม ส.ส.อีกเกือบ 50 คน รวมตัวยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เสนอให้ยกเลิกมาตรา 272 ที่ให้ ส.ว.โหวตนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการคืนอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีให้กับประชาชน.โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องจากการประชุม 13 ก.ค. 2566 ปรากฏว่า ส.ว. งดออกเสียง 159 คน ไม่มาประชุม 43 คน หลายคนแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ประสงค์ใช้สิทธิ์ ใช้อำนาจในการเลือกนายกฯ ดังนั้นเมื่อ ส.ว. ประสงค์เช่นนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอทางออกให้ ส.ว. เนื่องจาก ส.ว.ไม่ประสงค์ใช้อำนาจนี้ด้วยความกระอักกระอ่วนหรือเหตุผลอื่นใด เชื่อว่านี่เป็นทางออกที่ตอบโจทย์ ส.ว.และระบบรัฐสภาของไทย เพื่อให้การเมืองไทยเดินหน้าต่อไปได้และมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุด.ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในฐานะประธานรัฐสภาได้รับหนังสือจากพรรคก้าวไกล ที่มายื่นเพื่อขอยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ดังที่เลขาธิการพรรคก้าวไกลชี้แจง […]

13 ก.ค.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยยอมรับว่า เสียงของ ส.ว. ไม่ตรงตามเป้าที่ตั้งไว้ และมีการกดดันวุฒิสภาจำนวนมาก รวมถึงมีผู้ไม่มาประชุมด้วย ซึ่งก็ไม่เป็นไปตามเป้า แต่ทั้งนี้ยืนยันยังไม่ยอมแพ้ แต่จะหายุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงครั้งต่อไป ส่วนการโหวตครั้งต่อไปจะเป็นเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับทางรัฐสภา และยังมั่นใจผลโหวตของพรรคเพื่อไทย เชื่อใจซึ่งกันและกันในการจัดตั้งรัฐบาล.ส่วนจะถอยมาตรา 112 หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าตามที่เคยบอกไว้กับประชาชน และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ได้อธิบายกับที่ประชุม จากนี้จะมียุทธศาสตร์ในการรวบรวมเสียงครั้งต่อไปแล้วจะวิเคราะห์รายละเอียดว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง ย้ำว่าไม่ยอมแพ้และจะพยายามรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด มุ่งเดินหน้าสู่การลงมติครั้งที่สอง และยืนยันจะทำตามที่เคยสัญญากับประชาชนไว้.มองว่า ส.ว. เป็นอุปสรรคหรือไม่ นายพิธากล่าวว่าเรายังชื่นชมและให้กำลังใจการทำหน้าที่ของ ส.ว. ทั้งนี้ ยังไม่ได้เตรียมใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน แต่เตรียมใจในการโหวตครั้งที่สองมากกว่า มองว่าเป้าหมายของแต่ละคนตรงกัน แต่อาจจะมีการประเมินและวิเคราะห์ต่างกันเท่านั้นเอง.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

กลุ่มมวลชนบางส่วนเดินทางมารวมตัวกันตั้งเเต่เมื่อคืน เพื่อปักหลักให้กำลังใจอยู่ภายในศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร (เกียกกาย) ฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภา และบางส่วนก็เริ่มทยอยเดินทางกันมาชูป้าย นอกจากนี้มีร้านค้ามาตั้งเปิดขายของสีส้มหลากหลาย เช่น เสื้อ, หมวก, พัด ซึ่งบรรยากาศรอบสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มวลชนที่มาให้กำลังใจยังให้ความร่วมมืออยู่ในจุดที่ กทม.เตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.พปชร. เดินทางมาด้วย โดยบอกว่าออกจากราชบุรี ตั้งแต่ตี 4 ที่เดินทางมาก็เพื่อให้กำลังใจ นายพิธา ในวันโหวตนายกฯ และรู้สึกเป็นห่วงนายพิธา กลัวว่าจะไม่ได้เป็นนายกฯ แม้จะถูกประชาชนเลือกมาเป็นอันดับ 1 ส่วนลูกสาว “เอ๋ ปารีณา” ไม่ได้มาด้วย ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญที่สำคัญคือการพิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เริ่มขึ้นในเวลา 09.30น. โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งเปิดประชุม พร้อมกล่าวต่อสมาชิก ว่า วันนี้ (13 ก.ค.) ตนทำหน้าที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งแรก ยืนยันว่าตนจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติ เกียรติและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ของตนอาจขาดตกบกพร่องไปบ้าง ตนพร้อมรับความคิดเห็นติชมของสมาชิกตลอดเวลา ซึ่งการประชุมจะมีประสิทธิภาพตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายของรัฐสภา ประธานรัฐสภา ยังระบุย้ำถึงกรอบเวลาอภิปรายจากที่ได้มีการหารือกับตัวแทนวุฒิสภา และตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 18 พรรคการเมืองว่า หลังมีการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯแล้ว จะมีการเปิดให้อภิปรายคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ คือ ส.ว.ได้เวลา 2 ชั่วโมง ส.ส.ได้เวลา 4 ชั่วโมง โดยจะให้อภิปรายเป็นรายพรรคการเมือง ทั้ง 18 พรรคการเมือง แบ่งเป็น 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะได้เวลาอภิปรายไม่เกิน 2 ชั่วโมง และการอภิปรายคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนเวลา17.00น. จากนั้นจะมีการโหวตนายกฯต่อไป ต่อมาในเวลา 10.00 น. ได้เริ่มเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ […]

“พิธา” มั่นใจโหวตนายกฯ ราบรื่น สัญญาทำให้เต็มที่สมกับประชาชนหวังไว้ ไม่ฝากถึง ส.ว. ขอรอดูพร้อมกันในห้องประชุม รับไม่มีแผนสองหากเลื่อนโหวต ย้ำคดีล้มล้างการปกครองเป็นการเข้าใจผิด “ก้าวไกล” คิดเสนอแก้ไข ทีมกฎหมายแจงแล้วภายใน 15 วัน 9.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาในวันนี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกล่าวถึงความมั่นใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่ามั่นใจในตัวเองจะทำให้เต็มที่ให้สมกับความหวังที่ประชาชนให้มีให้ พร้อมขอบคุณทุกคนที่มาร่วมลุ้นหน้ารัฐสภาไปด้วยกันในวันนี้ รวมถึงกำลังใจที่ส่งเข้ามาผ่านช่องทางต่างๆ ตนจะพยายามอธิบายถึงวิสัยทัศน์ที่เคยประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม และจะอธิบายถึงความ คลางแคลงใจ ที่วุฒิสภาบางท่านอาจจะมีอยู่ จะใช้โอกาสนี้ใช้เวลาในการหาฉันทามติร่วมกัน เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึง ส.ว. หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่าเดี๋ยวสภาจะมีโอกาสให้ได้อธิบาย ส่วนการเตรียมแผนสำรองหากมีการเลื่อนการประชุมในวันนี้ นายพิธา กล่าวว่าจากที่ฟังจากวิปทั้ง 3 ฝ่าย โอกาสเรื่องแผนสำรองคงไม่มี และระหว่างการเดินทาง ก็ได้ฟังการสัมภาษณ์ของนายสุทินครั้งแสงจากพรรคเพื่อไทยแล้ว ไม่น่าจะเป็นประโยชน์กับใคร เมื่อถามว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องตอนนี้กังวลหรือไม่ นายพิธา ร้องเอ๊ะ แล้วกล่าวต่อว่าถ้าพูดให้ชัด ศาลรับไว้ในขั้นธุรการ ส่วนการวินิจฉัยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คิดว่าเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการของรัฐสภาในวันนี้ ประชาชนรอมาสองเดือนเต็ม ต้องรีบจัดการให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี […]

“พิธา” ยันกำลังใจดีและไม่กังวลหลัง กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญปมถือหุ้นสื่อ มองไม่เป็นธรรม ไม่เปิดให้แจงข้อกล่าวหา.12 ก.ค.66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อ บมจ.ไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ว่า ขณะนี้ต้องรอกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ ตนยังคิดว่า กระบวนการวันพรุ่งนี้ในการโหวตนายกรัฐมนตรีก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนตัวต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ส่งกำลังใจมาให้เสมอ ตนยังกำลังใจดีอยู่.ส่วนการยื่นศาลจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการโหวตพรุ่งนี้หรือไม่ นายพิธา ยืนยันว่า ไม่กังวล เป็นเรื่องปกติ และคิดว่าสมาชิกวุฒิสภาจะแยกแยะได้ว่า แต่ละเรื่องมีหน้าที่อะไรบ้าง และเรื่องที่มีการร้องก็เป็นสื่อมวลชนที่ปิดไปนานแล้วและตนอยู่ในฐานะผู้จัดการมรดก ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร คุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็ยังมีอยู่.ทั้งนี้ นายพิธา ยอมรับ การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ไม่ได้เชิญไปชี้แจงข้อกล่าวหานั้น ถือว่า ไม่เป็นธรรมกับตน และคดีของตนไม่สามารถนำเทียบเคียงกับคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ได้ ซึ่งระเบียบ กกต.ควรเปิดโอกาสให้ไปชี้แจง และระยะเวลาการพิจารณาคดีของตนใช้เวลาสั้นเพียง […]

พรรคก้าวไกลแถลงยืนยันมติ กกต.ทั้งหมดดำเนินการไม่ถูกต้อง กรณีมติที่ประชุม กกต. เช้าวันนี้ (12 ก.ค.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ “พิธา” พ้น ส.ส.ปมถือหุ้นไอทีวี พร้อมขอสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

11 ก.ค.2566 เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธากรุงเทพมหานคร และบริษัทรับเหมาก่อสร้างเดินหน้ารื้อถอนซากสะพาน และโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการก่อสร้างสะพาน คาดว่าจะใช้เวลาถึง 7 วัน จึงจะสามารถเปิดพื้นที่ได้ ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธากรุงเทพฯ และบริษัทรับเหมาก่อสร้างสะพานได้นำเครนขนาดใหญ่น้ำหนัก 200 ตันและ 50 ตันเข้าพื้นที่ เพื่อทำการรื้อถอนโครงเหล็กที่พังลงมา ส่วนวิธีการรื้อถอนเจ้าหน้าที่จะตัดแบ่งชิ้นส่วนซากสะพานออกเป็นท่อน ๆ เหมือนการตัดแบ่งชิ้นเค้ก โดยใช้เครน 200 ตัน ช่วยพยุงชิ้นส่วนที่ยังไม่ถูกตัด หรือระหว่างกำลังตัดเอาไว้ไม่ให้ถล่มซ้ำ จากนั้นใช้เครนน้ำหนัก 50 ตัน เป็นตัวยกชิ้นส่วนขึ้นรถขนออกจากที่เกิดเหตุไปเก็บไว้ เนื่องจาก บางส่วนเป็นหลักฐานทางคดี ยืนยันจะขนย้ายให้เสร็จและเปิดพื้นที่คืนผิวจราจร ภายใน 7 วัน ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

นายกรัฐมนตรี ร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู.10 ก.ค.2566 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมทดสอบการเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง (Trial Run) “โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู” จากสถานีมีนบุรี – สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ จากนั้นได้ขึ้นไปบนชานชาลา เพื่อชมจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่จะรองรับการเดินทางของประชาชนในอนาคต.หลังเยี่ยมชมจุดเชื่อมต่อแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นขบวนรถ ร่วมทดสอบการเดินรถโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เส้นทางสถานีมีนบุรี ไปยังสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ และย้อนเส้นทางกลับมาสิ้นสุดที่สถานีลาดปลาเค้า ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที.สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู นับเป็นโมโนเรลสายที่ 2 ของไทย ที่จะช่วยเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพ ฝั่งตะวันออก ฝั่งเหนือ และจังหวัดนนทบุรี เข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองได้สะดวก ระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสาย มีสถานีทั้งสิ้น 30 สถานี โดยพิจารณาดำเนินการตามความพร้อมของแต่ละสถานีจนครบ ซึ่งตามแผนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนมิถุนายนปีหน้า.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช