ฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

ประมาณ 13.55 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาถึง พร้อมโบกมือ ทักทายสื่อมวลชน ที่มารอทำข่าว ที่ชั้น 6 เพื่อเข้าห้อง 607 รัฐสภาเกียกกาย โดย นายพิธา ยืนยันไม่เครียด และได้เตรียมแนว ทางรับผลคำวินิจฉัยเอาไว้แล้ว ขอรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่จะมีการแถลง ทั้งนี้ เวลา 14.50 น. ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “พิธา-ก้าวไกล” หาเสียงแก้ ม.112 ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง สั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าว ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ธนาธร เชื่อไม่ถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกล

31 ม.ค.67 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พูดถึงความคาดหวังการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่าไม่ได้คาดหวังกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เพราะเชื่อว่าไปไม่ถึงขั้นยุบพรรค ซึ่งวันนี้ก็จะต้องรอฟังคำตัดสินก่อน ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

อธิบดีกรมการข้าว แค้นถูกตบทรัพย์

อธิบดีกรมการข้าวเปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งความรวบ “ศรีสุวรรณ” กับพวก ชี้แค้นถูกตบทรัพย์ ถาม “ศรี” เป็นใครถึงไม่หยุด“ธรรมนัส” โผล่ให้กำลังใจ ระบุ ผลสอบข้อเท็จจริงตามที่ถูกร้องก่อนหน้านี้ ไม่พบความผิด โดยงบ 1.5 หมื่นล้าน โอนให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเงินช่วยเหลือชาวนา “โครงการไร่ละพัน” นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวแถลงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งตำรวจ ปปป. ซ้อนแผนบุกจับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและพวกรวม 3 คนที่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการกรมการข้าวโดยอ้างว่า ส่อพิรุธทุจริต นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า ตนกับนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยารวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความต่อ ตำรวจ ปปป. โดยเมื่อได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนเหล่านี้ ถูกข่มขู่รีดทรัพย์ จนกระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ตัดสินใจ ไปที่บ้านนายศรีสุวรรณด้วยความคับแค้นใจว่า จะร้องเรียนอะไร ในเมื่อผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่มีบัตรสนเทห์ ไม่พบความผิด คราวนั้นได้ชักชวน “พี่หมู” ที่ปรึกษาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปด้วยเพื่อเป็นพยานเนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ ทั้งนี้ “พี่หมู” […]

ศาลยกฟ้อง ไอซ์ รักชนก หมิ่นประมาท กนก-ปอง ชี้ ติชมโดยสุจริต

29 มกราคม 2567 ศาลแขวงพระนครเหนือ นัดฟังคำพิพากษา คดีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก และ กนก รัตน์วงศ์สกุล 2 พิธีกร จากการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชนในการชุมนุม เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2564 ของกลุ่มรีเด็ม บริเวณหน้าศาลอาญา “ไอซ์ รักชนก” เปิดเผยหลังจากฟังคำพิพากษา ว่า ศาลได้ยกฟ้องคดีหมิ่นประมาท น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และนายกนก รัตน์วงศ์สกุล 2 พิธีกร ด้วยโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ และเป็นการติชมโดยสุจริต ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

แถลงแผนการทำงานพรรคก้าวไกลปี 2567

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงแผนการทำงานพรรคก้าวไกลปี 2567 โดยมี 6 วาระสำคัญวาระ 1 คือการทำให้ประชาธิปไตยเต็มใบ ที่ประกอบไปด้วยเรื่องของการปฏิรูปกองทัพ การยกเลิกเกณฑ์ทหารการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และรัฐธรรมนูญใหม่ วาระที่ 2 คือการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ประกอบไปด้วย ขนส่งสาธารณะ สวัสดิการ สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และแรงงาน วาระที่ 3 หยุดแช่แข็งชนบทไทย คือการลดต้นทุนภาคเกษตร การผลิต การเพิ่มแหล่งน้ำ การแปลง สปก.เป็นโฉนด และแก้ปัญหาหนี้สิน วาระที่ 4 ปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ คือการปฏิรูประบบงบประมาณ กระจายอำนาจ ปราบโกง โปร่งใส และกิโยตีนกฎหมาย วาระที่ 5 เรียนรู้ทันโลก ด้วยการ มีหลักสูตรใหม่ ลดภาระครู ตัดอำนาจนิยม วาระที่ 6 เติบโตแบบมีคุณภาพ ด้วยเรื่องการท่องเที่ยวคุณภาพ อุตสาหกรรมใหม่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างงานดี-ลงทุนท้องถิ่น สนับสนุนเอสเอ็มอี นายพิธา […]

‘พิธา’ ก้าวเข้ารัฐสภาครั้งแรก หลังรอดคดีหุ้นไอทีวี

25 ม.ค.2567 ‘พิธา’ ก้าวเข้ารัฐสภาครั้งแรก หลังรอดคดีหุ้นไอทีวี ไม่พ้นสถานะ สส..นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ เดินทางเข้ารัฐสภาครั้งแรก ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) วินิจฉัย บริษัทไอทีวี ไม่ได้ประกอบกิจการหรือมีรายได้จากกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ดังนั้น นายพิธาจึงมิใช่ผู้มีลักษณะต้องห้าม สมาชิกภาพ สส. จึงไม่สิ้นสุดลง.นายพิธา กล่าวถึงก้าวแรกในสภารู้สึก ถึงไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาถึง 6 เดือน ที่ไม่ได้มีโอกาสแถลงข่าวต่อสื่อและประชาชนที่สภา ยังรู้สึกว่าสภาเป็นพื้นที่รวมตัวของประชาชน คิดถึงบรรยากาศอย่างนี้ ส่วนเนคไท ที่ใส่เส้นเดิมมา นายพิธา จำได้ว่าตอนที่เราชูกำปั้นเราใส่เนคไทเส้นนี้ เลยนึกสนุกขึ้นมา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ออกไปด้วยแบบไหนก็กลับมาแบบนั้น.ส่วนภารกิจแรกในการกลับมาเป็น สส.นายพิธา กล่าวว่า คุยกับเพื่อน สส. ทักทายกันให้หายคิดถึง อาจแวะไปพูดคุยกับนักศึกษาที่มาสภาในวันนี้ รอจังหวะที่ไม่รบกวน สส.ที่อภิปรายอยู่ เดินเข้าห้องใหญ่ และเตรียมตัวอภิปราย แถลงแผนงานของพรรคก้าวไกล ในวันพรุ่งนี้ ว่าเป้าหมายและการทำงานในเชิงปฏิบัติของพรรคเราในปีนี้คืออะไร ประชาชน และสมาชิกจะได้มีส่วนร่วมในการทำงาน.ทั้งนี้ […]

มติศาล รธน. 8:1 “พิธา” ยังมีสถานะเป็น สส.

24 ม.ค.67 มติศาล รธน. 8:1 “พิธา” ยังมีสถานะเป็น สส. – ชี้ ITV หมดสิทธิประกอบกิจการสื่อฯ ไร้พนักงาน ไม่มีรายได้จากสื่อ และคืนสัญญาณให้ สปน.แล้ว.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 เสียง วินิจฉัยว่า นายพิธา ไม่มีลักษณะต้องห้าม และสามารถลงสมัครเลือกตั้ง สส.ได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด.โดยศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยแล้วว่า บริษัท ไอทีวีฯ ได้ยุติกิจการ และอยู่ระหว่างข้อพิพาทคดีกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น หลังเคยมีสัญญาร่วมกัน ตั้งแต่ปี 2538 เป็นระยะเวลา 30 ปี แต่ 8 มีนาคม 2550 หลังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี บอกเลิกสัญญา ซึ่งบริษัทไอทีวีฯ ได้แจ้งไปยังสำนักงานประกันสังคมแล้วว่า ไม่มีพนักงาน เนื่องจาก ยุติการดำเนินกิจการชั่วคราว ตั้งแต่ 8 มีนาคม 2550 จนถึงปัจจุบัน.ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ขอประชาชนไม่ต้องกังวล ขณะ FC แห่ให้กำลังใจ

ศาลรัฐธรรมนูญกำลังออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำวินิจฉัยเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ สภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ( 6) ประกอบมาตรา 98 (4)หรือไม่ ในขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมาเข้ารับฟังคำนิจวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง ในกรณีการถือครองหุ้นไอทีวี ในฐานะผู้จัดการมรดก ซึ่งถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ โดยยืนยันไม่รู้สึกกังวล ทั้งนี้ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยออกมาในทางเป็นโทษ หรือเป็นคุณ พรรคก้าวไกล และตนเอง ก็ได้มีการวางกำหนดการการทำงานไว้ตลอดทั้งปีแล้ว เพื่อแสดงความพร้อมในการทำงานต่อไป ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ทำหมันลิงแสม เขตบางขุนเทียน

23 ม.ค.2567 สัตวแพทย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงพื้นที่ทำหมันลิงแสม ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านเอื้ออาทร แสมดำ เขตบางขุนเทียน เพื่อควบคุมจำนวนประชากรของลิงแสม ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จนสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ที่อาศัยในบริเวณนั้น ที่ผ่านมา กทม. ได้แก้ไขปัญหาลิงแล้ว แบ่งเป็นระยะที่ 1 จัดทำประชาคมสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนแสดงความคิดเห็นและแนวทางแก้ไข จัดทำคู่มือเกร็ดความรู้เรื่องลิง เพื่อสร้างความเข้าใจพฤติกรรมของลิงในเบื้องต้น และรับการสนับสนุนอาหาร (ผักและผลไม้) จากผู้ประกอบการและตลาดในพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่เขตเป็นผู้ส่งอาหารบริเวณที่มีลิง เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลิง ให้มารับอาหารจุดเดียว เพื่อลดการรบกวนบ้านเรือนในชุมชน อีกทั้งยังจัดโซนนิ่งให้อาหาร ป้องกันอันตรายทางท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นกับลิง การจัดทำป้ายเตือนต่าง ๆ และจัดจุดทิ้งขยะในชุมชน พร้อมให้คำแนะนำการเปลี่ยนรูปแบบถังขยะ และวิธีการทิ้งขยะเพื่อป้องกันการรื้อค้นเศษอาหาร สำหรับระยะที่ 2 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับสำนักงานเขตบางขุนเทียน ทำหมัน ตรวจสุขภาพ สุ่มตรวจโรคฝีดาษวานร และทำประวัติลิงแสมในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณของกรมอุทยานฯ ทั้งนี้ลิงที่ถูกทำหมันเรียบร้อย จะมีรอยสักสีดำ และมีหมายเลขกำกับไว้ที่ตัวของลิง ทำประวัติขึ้นทะเบียน ก่อนนำไปปล่อยตามถิ่นอาศัยตามธรรมชาติ ของลิงเหมือนเดิม ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

ชูเอกลักษณ์ดันเป็น “ซอฟต์ พาวเวอร์”

จากนโยบายผลักดัน “ซอฟต์พาวเวอร์” ทำให้กางเกงลายช้าง กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย ที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ ที่มาท่องเที่ยวเมืองไทย สำหรับ “กางเกงลายช้าง” ที่ได้รับความนิยม เกิดจากการเข้าเยี่ยมชม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ “วัดพระแก้ว” ซึ่งจะต้องแต่งกายสุภาพ ตามข้อกำหนด “กางเกงลายช้าง” จึงเป็นตัวช่วย สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนใส่ขาสั้นมา ก็สามารถหาซื้อตามร้านค้าบริเวณนั้น แล้วสวมทับได้เลย อีกทั้งยังสวมใส่สบาย เนื้อผ้าบาง ระบายความร้อนได้ดี และราคาไม่แพง ทำให้เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ “กางเกงลายช้าง” ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ ททท.จัดโครงการ “THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS™ CHALLENGE” ในหัวข้อ Fashion (การออกแบบแฟชั่นไทย) โดย การใส่กางเกงช้างเยอะที่สุดใน 1 นาที ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21-27 กุมภาพันธ์ 2567 ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

แฉขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าให้ข้อมูลคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ กรณีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน-ไก่เถื่อน นายอัจฉริยะ ระบุว่า เรื่องนี้ตนเองได้นำข้อมูลให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 จนขยายออกไปมากกว่า 30 คดี คดีหมูเถื่อนจะไม่เกิดขึ้นเลย หากกรมศุลกากรไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน ถ้ากรมศุลกากรไม่ยอมปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ กรมปศุสัตว์และกรมประมงจะไม่สามารถดำเนินการต่อได้ รวมถึงบริษัทและนักธุรกิจต่างๆ ก็ไม่สามารถฉ้อฉลได้ โดยเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่เข้ามาจะต้องมีการแจ้งรายละเอียดของสินค้าว่าคืออะไร เพื่อให้เข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะไม่มีการแจ้งเท็จ ดังนั้น ที่กรมศุลกากรบอกว่าไม่รู้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งกระบวนการที่เกิดการทุจริต เกิดจากบุคคลในหน่วยงานเข้าไปแก้ไขข้อมูล เปลี่ยนแปลงสินค้า ต่อมา นายอัจฉริยะ ได้นำแผนผังเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับหลายบุคคลขึ้นมาแสดงในที่ประชุม พร้อมเปิดเผยถึงกลโกง การเปลี่ยนแปลงประเภทสินค้าก่อนเข้าสู่การจำหน่าย โดยมีการเปลี่ยนจากเนื้อหมู เป็นหัวปลาแซลมอน ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับอนุญาตจากกรมประมง ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี ด้านนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ระบุขอให้สบายใจว่า เราไม่ใช่ประชุมเสร็จแล้วก็จบ แต่จะมีการติดตามลงรายละเอียด เพื่อค้นหาความจริง หากข้อมูลมีเพียงพอ ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช

กลุ่มพันธมิตรฯ คดีกบฏบุกยึดสนามบินดอนเมือง ปี 2551

ศาลยกฟ้อง กลุ่มพันธมิตรฯ คดีกบฏบุกยึดสนามบินดอนเมือง เมื่อปี 2551 แต่ลงโทษปรับ 13 แกนนำ 20,000 บาท ฐานบุกรุก-ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับพวกรวม 32 คน ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิด ฐานเป็นกบฏ ก่อการร้ายฯ จากกรณีปิดสนามบินดอนเมือง ตามฟ้อง โจทก์บรรยายสรุปว่าเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2551 พวกจำเลยได้ร่วมกันโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาร่วมกันชุมนุมใหญ่ โดยกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ และปิดล้อมอาคารวีไอพี ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งอยู่ในความครอบครองของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายที่ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้เสียหายที่ 2 และทำลายทรัพย์สินเสียหายเป็นเงิน 627,080 บาท แล้วนำจานรับสัญญาณของพวกจำเลยไปติดตั้งใกล้เครื่องรับสัญญาณเรดาร์ของบริษัท วิทยุการบินฯ […]

1 13 14 15 16 17 95
...