กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – เอ็กโก กรุ๊ป ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าพรุภูเขาที่สูงที่สุดของไทย
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป โดยมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ส่งมอบ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ที่ปรับปรุงใหม่ พร้อมป้ายสื่อความหมายธรรมชาติในเส้นทาง และแอปพลิเคชันอ่างกา Virtual 360 องศา ให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าต้นน้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นป่าพรุภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ และร่วมตระหนักถึงบทบาทของทุกคนในการร่วมดูแลรักษาป่า
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป และประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ได้ดำเนินภารกิจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและดูแลป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศให้เกิดความยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า มาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เป็น “ห้องเรียนธรรมชาติ” เพื่อให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติ ตระหนักในคุณค่าของป่าต้นน้ำ การอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นอย่างมีความหมาย และร่วมรักษาไว้เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป
“เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เดิมได้สำรวจและออกแบบไว้เมื่อปี 2534 ก็ปรับปรุงเป็นเส้นทางเดินไม้ยกระดับที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย มีมาตรฐาน เป็นมิตรและกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติในปัจจุบัน และรองรับการใช้งานของคนทุกกลุ่ม ตามหลักอารยสถาปัตย์ (Universal design) ควบคู่ไปกับการพัฒนาป้ายสื่อความหมายในเส้นทาง 11 จุด เพื่อเป็นสื่อกลางถ่ายทอดความรู้และคุณค่าทางธรรมชาติแก่ผู้มาเยือนตลอดเส้นทาง” นายเทพรัตน์ กล่าว
นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า อ่างกา เป็นพื้นที่ที่มีความพิเศษในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นป่าพรุภูเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย มีความหลากหลายของพืชพันธุ์และสิ่งมีชีวิตที่พบได้ยาก เนื่องจากสภาพพื้นที่หนาวตลอดทั้งปี และมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของป่าดึกดำบรรพ์ จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการถ่ายทอดเรื่องราวความสำคัญและเสน่ห์ของผืนป่าให้กับนักท่องเที่ยวและผู้คนในวงกว้าง การปรับปรุงเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกาให้มีความสมบูรณ์พร้อม โดยเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา มีลักษณะเป็นวงกลม ระยะทางรวม 320 เมตร แม้เป็นเส้นทางที่มีระยะสั้น แต่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตบริเวณนี้ที่มีการปรับตัวให้เข้ากับระบบนิเวศเฉพาะถิ่น เป็นแหล่งพันธุ์พืชและสัตว์ป่าหายากหลายชนิด บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า จึงเหมาะสำหรับการเดินศึกษาธรรมชาติในระยะสั้น แต่ได้เรียนรู้และดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ อีกทั้งเส้นทางนี้อยู่ห่างจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยเพียง 50 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั้ง 2 แห่งได้ภายในวันเดียวกัน. – สำนักข่าวไทย