ทนายเจ้าหนี้ ซักยับ!! ไต่สวนแผนฟื้นฟูการบินไทยนัดแรก

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ไต่สวนฟื้นฟูการบินไทยเดือด! ทนายเจ้าหนี้ซักค้านคุณสมบัติบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ ที่การบินไทยตั้งเป็นผู้ร่วมทำแผน ประเด็นอีวายฯ มีทุนจดทะเบียน 5 ล้าน และประสบการณ์เพียงพอฟื้นฟูกิจการแสนล้านได้หรือไม่ ขณะที่ “ชาญศิลป์” ยืนยันจัดจ้างบริษัทฯ ตามระเบียบการบินไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลล้มละลายกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ได้มีการไต่สวนวันแรก เรื่องขอฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการการบินไทย และตัวแทนบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นพยานขออนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการฯ และผู้จัดทำแผน ซึ่งมีผู้คัดค้าน คือ เจ้าหนี้ 16 ราย

นายชาญศิลป์ เปิดเผยภายหลังการไต่สวนว่า ยังมั่นใจว่าศาลจะพิจารณาให้การบินไทยได้รับการฟื้นฟูกิจการฯ และแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอ เนื่องจากมีเจ้าหนี้มากว่า 100 ราย ซึ่งมีมูลหนี้มากกว่าแสนล้านทำหนังสือให้การสนับสนุนการบินไทย และบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นผู้ร่วมจัดทำแผน


ส่วนบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ ถูกซักค้านเรื่องของคุณสมบัติและการว่าจ้าง นายชาญศิลป์ ยืนยันว่าการจัดจ้างบริษัทฯ เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของการบินไทย และมีการขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการฯ ตามข้อกำหนดของศาลล้มละลายกลางอย่างถูกต้อง และพร้อมยืนยันว่าอีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีเครือข่ายและมีพาร์ทเนอร์ประกอบธุรกิจในไทย

ส่วนประเด็นที่ระบุว่าบริษัทไม่มีความชำนาญด้านการบริหารธุรกิจการบินในการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ เนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีธุรกิจสายการบินต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการฯ แต่ยืนยันว่ามีผู้เชี่ยวชาญทุกด้าน รวมถึงด้านการบินเข้ามาอยู่ในขณะจัดทำแผนฟื้นฟูนี้อยู่แล้ว

ขั้นตอนหลังจากนี้ เนื่องจากการบินไทยมีเจ้าหนี้ทั้งรายใหญ่และรายย่อยจำนวนมากศาลได้นัดหมายให้มีการไต่สวนเพิ่มเติมวันที่ 20 และ 25 สิงหาคมนี้  หลังจากนั้นหากศาลมีคำสั่งตัดสินใจการบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผน และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะมีเวลา 1 เดือนให้เจ้าหนี้แจ้งมูลหนี้ผ่านระบบออนไลน์ของกรมบังคับคดี และจากนั้น 14 วันจะให้เจ้าหนี้แต่ละกลุ่มร่วมประเมินแผนฟื้นฟูกิจการฯ ระยะแรกด้วยให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้บริหารการบินไทยไม่ว่าในอนาคตคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาเป็นอย่างไร การบินไทยก็น้อมรับคำตัดสินของศาล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการไต่สวนตลอดวันนี้ทนายความเจ้าหนี้ได้มีการสอบถามพยานในประเด็นคุณสมบัติของบริษัท อีวายคอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษาหรือไม่ เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ธุรกิจการบินและไม่เคยบริหารงานธุรกิจระดับแสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยดูแลแผนฟื้นฟูกิจการฯ ให้กับบริษัท สหฟาร์ม จำกัด แต่ก็ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นคนละบริษัทกับบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส ที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี รวมถึงสอบถามถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นจำนวนเงินเท่าใด และมีการสอบถามในประเด็นที่หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนฟื้นฟูฯ จะมีการขอขยายระยะเวลาอีกหรือไม่

นายชาญศิลป์ ในฐานะพยานปากแรก กล่าวว่า ในส่วนของการให้บริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ มีคณะทำงาน และการตรวจสอบบริษัทฯ ก่อนที่จะให้เข้ามาร่วมดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ซึ่งมีความโปร่งใส และเห็นว่าบริษัทฯมีประสบการณ์การดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการฯ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจการบิน และยอมรับ เพราะเป็นเรื่องที่จัดจ้างบริษัทเข้ามาก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นรักษาการดีดีการบินไทย

ทั้งนี้ นายชาญศิลป์ ยอมรับว่า ในประเด็นที่เจ้าหนี้สอบถามว่าหากไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะขอขยายเวลาในการฟื้นฟูกิจการต่อไปอีก หากศาลมีคำสั่งให้สามารถต่อระยะเวลาได้

ด้านนายปิยสวัสดิ์ มีรายชื่อเป็นผู้บริหารแผนในฐานะพยานปากที่ 2 ยอมรับว่าการว่าจ้างบริษัท อีวายคอร์ปอเรทฯ เข้ามาร่วมดำเนินการ ได้รับรายงานการคัดเลือกบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ เข้ามาเป็นคณะผู้ทำแผน ส่วนกรณีมีการตั้งคำถามว่าบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ เป็นคนละบริษัทอีวายที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และมีเครือข่ายระดับโลก ยอมรับว่าทราบข้อมูลนี้ก่อน ทั้งนี้ ยอมรับว่าได้มีการจ่ายเงินว่าจ้างบริษัทอีวายคอร์ปอเรทฯ งวดแรกจำนวน 22 ล้านบาท และหลังจากนั้นชำระเดือน 15 ล้านบาท จนกว่าศาลจะมีคำสั่งพิจารณาให้การบินไทยดำเนินการแผนฟูกิจการฯ

เบื้องต้นศาลยังไม่ได้มีการพิจาณาให้การบินไทยควรได้รับการฟื้นฟูกิจการหรือไม่ และควรแต่งตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอหรือไม่ โดยได้มีการนัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้องเพิ่มวันที่ 20 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. และนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 หากพยานผู้คัดค้านสามารถมาให้การไต่สวนวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ได้ครบถ้วน ก็จะยกเลิกวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ส่วนวันพิพากษาจะแจ้งให้ทราบอีกหลังภายหลังที่มีการไต่สวนเสร็จสิ้นตามกระบวนการ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]