ชี้วิกฤติโควิดเป็นบทเรียนแนะธุรกิจประกันบริหารสร้างความเชื่อมั่น

กรุงเทพฯ 10 ส.ค.-รมว.คลัง ชี้วิกฤติโควิดเป็นบทเรียนสำคัญ แนะธุรกิจประกันบริหารความเสี่ยงสร้างความเชื่อมั่นพร้อมระบุปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เริ่มฟื้นตัว มาจาก 2 กลไกสำคัญคือ ภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “บทบาทของธุรกิจประกันภัย ต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน” ว่า ในปีนี้คาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้ดีขึ้น หลังจากเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยปีนี้แม้สถานการณ์ระบาดของโควิดจะคลี่คลายและพ้นช่วงวิกฤติไปได้แล้ว แต่โรคโควิดก็ยังไม่หายไปไหนประชาชนยังต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้ ซึ่งตลอดระยะ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยที่ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้เริ่มฟื้นตัว มาจาก 2 กลไกสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเริ่มกลับมาทำงานได้ดีขึ้น คือ ภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยว โดยในส่วนของการส่งออกนั้นเห็นสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ปลายปี 64 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น หลังจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าปีนี้มีโอกาสได้เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 10 ล้านคน อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และคาดว่าในปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะเพิ่มมากขึ้น


รมว.คลัง กล่าวว่า เมื่อเศรษฐกิจของประเทศเริ่มดีขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องมาทบทวนบทเรียนที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเห็นว่าในธุรกิจประกันภัย ได้เข้ามามีส่วนช่วยดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด มีการออกผลิตภัณฑ์เพื่อให้ความคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากสถานการณ์โควิด แต่ขณะเดียวกันก็มีบทเรียนที่สำคัญ คือการไม่สามารถบริหารความเสี่ยงจากการออกผลิตภัณฑ์ในช่วงที่สถานการณ์ไม่ปกติได้ จนเป็นผลให้เกิดการร้องเรียนเข้ามามากและกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวบริษัทประกันและมองว่า ทุกส่วนประกอบของโครงสร้างประกันภัย/ประกันชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานกำกับดูแล, ผู้ประกอบธุรกิจประกัน, ประชาชน และตัวแทนขายประกัน ล้วนแต่มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในระบบประกันทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ธุรกิจประกันเป็นส่วนหนึ่งของภาคการเงินที่มีส่วนช่วยในด้านการออมของประชาชน เพื่อให้เกิดความมั่นคงทั้งในชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้นจึงอยากฝากใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.ความมั่นคงของระบบประกัน ซึ่งกุญแจสำคัญคือการบริหารความเสี่ยง โดยจะเห็นได้จากประสบการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่าการจะออกผลิตภัณฑ์ใดๆ นั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และต้องมั่นใจว่าจะสามารถบริหารความเสี่ยงได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และความมั่นคงของธุรกิจประกัน 2. การนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ ซึ่งในปัจจุบันระบบดิจิทัลได้เข้ามามีส่วนอย่างมากต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนเอง แต่ขณะเดียวกันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จะต้องคำนึงถึงระบบความปลอดภัยและน่าเชื่อถือด้วย 3.การส่งเสริมการประกันภัยเพื่อความยั่งยืน โดยเป็นการสร้างองค์ความรู้ และเพิ่มทักษะทางการเงินให้กับภาคประชาชน เพื่อให้ถึงเห็นความสำคัญของการทำประกัน ในขณะที่หน่วยงานที่กำกับดูแล ก็ต้องช่วยลดปัญหาหรือผ่อนคลายกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม และไม่นำไปสู่ความเสี่ยงในภาคธุรกิจประกัน

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่าสภาพเศรษฐกิจและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ที่ผ่านมาธุรกิจประกันภัยต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผันผวนของเศรษฐกิจ, ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, ปัญหาภัยธรรมชาติ, การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค, การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด, การระบาดของโรคโควิด ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อความเข้มแข็ง และความเชื่อมั่นของธุรกิจประกันภัย ซึ่งนับเป็นโจทย์ที่ท้าทายให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจประกันจะต้องตอบสนองต่อความเสี่ยงดังกล่าวอย่างทันท่วงที


อย่างไรก็ตาม ในปีนี้และปีหน้ายังมีความไม่แน่นอนอยู่ แม้สถานการณ์ระบาดของโรคโควิดจะเริ่มคลี่คลายลงไปแล้วแต่การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดจะเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงเดือน ก.ย.นี้ อย่างไรก็ดี จากแนวนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นให้ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ก็จะเป็นส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค และลดโอกาสการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้เป็นอย่างดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย