ทำเนียบฯ 2 ส.ค.- ครม.ผ่านร่างยุทธศาสตร์การป้องกันฯ การฟอกเงิน ผสานความร่วมมือนานาชาติต่อต้านการก่อการร้าย
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ( 2565 – 2570) ตามที่สำนักงาน ป.ป.ง. เสนอ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงภัยคุกคามจากอาชญากรรมการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร่างยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ พ.ศ.2565-2570 นี้ จะขับเคลื่อนภายใต้ 6 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ผลักดันมาตรการเชิงรุกด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงของไทย ด้วยมาตรการเชิงรุกในการป้องกันอาชญากรรมความเสี่ยงสูง ยุทธศาสตร์ที่ 2 บูรณาการการกับหลายหน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อาทิ แสวงหาเครือข่ายความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือ ความช่วยเหลือทางอาญา และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเชิงรุก ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมมาตรการ กำกับดูแลของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น ส่งเสริมและพัฒนากลไกในการตรวจสอบ สอดคล้องกับความเสี่ยงของหน่วยงาน ยุทธศาสตร์ที่ 4 พัฒนาองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ยุทธศาสตร์ที่ 5 สร้างความร่วมมือและเผยแพร่ข้อมูล การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สู่ภาคประชาสังคม ยุทธศาสตร์ที่ 6 พัฒนาองค์กรสู่องค์กรที่มีสมรรถนะสูง ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงกรอบอัตรากำลังให้เหมาะสม
นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากร่างยุทธศาสตร์ฉบับนี้ คือ ประเทศไทยมีผลการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายที่ดีขึ้น โดยปรับระดับจากกลุ่มติดตามแบบเฝ้าระวัง เป็นกลุ่มที่มีการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลในระดับดี.-สำนักข่าวไทย