“กรุงไทย” เปิดขายหุ้นกู้ดิจิทัล SCGP ดอกเบี้ย 2.80% ผ่าน “เป๋าตัง”

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.- “SCGP” เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 2 ปี 10 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.80% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ A+(tha) จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าถึงหุ้นกู้ดิจิทัลได้อย่างสะดวกและทั่วถึง เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท คาดว่าจะเปิดจองซื้อวันที่ 26 – 27 กรกฎาคมนี้


นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า SCGP พร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 10 เดือน อัตราผลตอบแทน 2.80% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยหุ้นกู้ดิจิทัลของ SCGP ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+(tha) จาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 สะท้อนความแข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ SCGP

SCGP เป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาค และได้ลงทุนขยายการเติบโตในภูมิภาคอาเซียนและยุโรปอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และขยายฐานลูกค้าในกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้เติบโต รวมถึงการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อบรรลุเป้าหมายธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า การเสนอขายหุ้นกู้ SCGP ในครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ให้ผลตอบแทนดีในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และพร้อมเติบโตเคียงคู่ผู้บริโภค


SCGP เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ร่วมลงทุนกับบริษัทผ่านช่องทางดิจิทัลออนไลน์ด้วยแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเปิดจองซื้อในวันที่ 26 – 27 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท เพื่อให้ผู้ลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ดิจิทัลของ SCGP ได้อย่างสะดวกและทั่วถึง โดยหุ้นกู้จะถูกจัดสรรให้กับผู้ที่จองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปฯ ได้สำเร็จตามลำดับการจอง

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตอกย้ำพันธกิจการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมรูปแบบใหม่เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน ให้ตอบโจทย์ลูกค้าและประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และปลอดภัย เพื่อสนับสนุนคนไทยวางแผนการออมและการลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง การขายหุ้นกู้ดิจิทัล “SCGP” ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันของธนาคาร ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ดิจิทัลของ SCGP รวมถึงสามารถซื้อขายหุ้นกู้ในตลาดรองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับหุ้นกู้และได้รับเงินทันที พร้อมทั้งแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ทำให้มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ SCGP มีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ และมีสถานะทางการเงินที่ดี มีการดำเนินงานที่ผ่านเกณฑ์ด้าน ESG เป็นการเน้นย้ำถึงพันธกิจหลักของธนาคารที่ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำตลาดในการทำ ESG Financial Solution ที่พร้อมตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) โดยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลมายกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่มให้ดียิ่งขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในด้านการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพพัฒนาตลาดทุนไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัล SCGP ยังได้ตอบโจทย์เรื่องความสะดวก ลดการเดินทางไปสาขา ทำรายการผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบออนไลน์ได้ทันที ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการลงทุนได้ทั่วถึง โดยธนาคารเชื่อมั่นว่า จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ของธุรกิจที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง โดยให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้


สำหรับผู้ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัล SCGP สามารถลงทะเบียนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยทำแบบประเมินความเสี่ยงผู้ลงทุน และเติมเงินหรือเลือกผูกบัญชีกับธนาคารกรุงไทยให้พร้อมก่อนการวันเปิดจองซื้อหุ้นกู้เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสการลงทุน ทั้งนี้ธนาคารคาดว่าจะเปิดจองซื้อพร้อมกันในวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. จนกว่าจะมีผู้จองซื้อหุ้นกู้เต็มตามจำนวนที่เสนอขาย หรือไม่เกินวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00 น. จำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 ล้านบาทต่อราย โดยหุ้นกู้จะถูกจัดสรรให้กับผู้ที่จองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปฯ ได้สำเร็จตามลำดับการจอง หรือ “จองก่อน ได้ก่อน” ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถศึกษาขั้นตอนการลงทะเบียนแอปฯเป๋าตังและวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ได้ผ่าน www.krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/916 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้ได้จากร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อการเสนอขายหุ้นกู้ Link :https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=426002&SD= สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 หรือธนาคารกรุงไทยทุกสาขา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ปลัด อบต. ถูกหลอกลงทุน สูญ 4 ล้าน

บุรีรัมย์ 5 ก.ค. – ปลัด อบต.สาวชาวบุรีรัมย์ ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหมอเกษียณ ทักมาจีบ แล้วหลอกร่วมลงทุนอ้างผลตอบแทนสูง หลงเชื่อสูญ 4 ล้าน นำที่ดินไปจำนอง รถเข้าไฟแนนซ์ นางสาวปลา ปลัด อบต.แห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ นำหลักฐานข้อความแชทสนทนา และรูปโปร์ไฟล์ของชายที่เชื่อว่าเป็นอดีตนายแพทย์ รพ.ดัง ร้องเรียนสื่อหลังถูกหลอกลวงฉ้อโกง โดยอีกฝ่ายทักเฟซบุ๊กมาจีบ พร้อมหยอดคำหวาน ทำให้หลงเชื่อ ก่อนหลอกล่อให้ร่วมลงทุนผ่านแพลตฟอร์มหนึ่ง อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ยิ่งลงทุนมากยิ่งผลตอบแทนมาก แม้จะลงทุนได้ยอดเงินสูงถึง 28 ล้าน แต่เบิกมาไม่ได้ สุดท้ายสูญเงินไปถึง 4 ล้านบาท แล้วถูกบล็อกการติดต่อ ทำให้เดือดร้อนหนัก เพราะเงินที่นำไปลงทุน เป็นเงินเก็บสะสม นำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ และนำที่ดินไปจำนอง แจ้งความตำรวจแล้ว พบบัญชีที่โอนเงินเป็นบัญชีม้า พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]