เสริมความรู้ค้าส่ง-ปลีกเมืองกาญจน์โชว์พาวดันเป็นสมาร์ทโชวห่วย

กาญจนบุรี 12 พ.ค.-รมช พณ.เสริมความรู้ผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกรายใหญ่เมืองกาญจน์ผนึกกำลังภาครัฐเปิดพื้นที่อบรมโชวห่วยรายย่อย ยกระดับเป็นสมาร์ทโชวห่วย ศึกษาดูการจัดร้านค้าต้นแบบดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้าน พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายค้าส่ง-ปลีกในจังหวัดและจังหวัดข้างเคียงให้เข้มแข็ง เปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตร ถือคติ ‘ต้องเติบโตไปด้วยกัน กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน’ แนะผู้ประกอบการร้านโชวห่วยต้องเร่งปรับตัว รับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่วิถีชีวิตใหม่ เน้นซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และระวังเรื่องสุขอนามัยเพิ่มขึ้น


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ณ ทีเอ็มเค พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี คือ ทีเอ็มเค ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ได้ผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการเปิดพื้นที่จัดงาน ‘ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างเครือข่าย สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย’ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการร้านโชวห่วยรายย่อยในจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมให้ศึกษาดูการจัดร้านค้าแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานสัมมนาฯ เพื่อเป็นต้นแบบในการนำกลับไปจัดร้านค้าของตนเองให้มีความสวยงาม สะอาด เลือกหาสินค้าได้สะดวก และลูกค้ารู้สึกสบายใจ-สบายตาในการเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเหนียวแน่นของผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้ธุรกิจท้องถิ่นของไทยมีความแข็งแกร่ง

สาระสำคัญของการสัมมนา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การบรรยายให้ความรู้หัวข้อ ก้าวถูกทิศพิชิตยอดขาย เปิดมุมมองใหม่ให้โชวห่วยไทยสุดสมาร์ท โดยผู้ประกอบการจะได้ทราบถึงทิศทางของธุรกิจโชวห่วยและโอกาสจากวิกฤตโควิด-19 ในการประกอบธุรกิจ รวมถึง การปรับเปลี่ยนร้านโชวห่วยธรรมดาให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วย ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านและร้านค้ามีระบบการบริหารจัดการที่ดีช่วยลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ 2.กิจกรรมส่งเสริมการขายและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ เน้นการบริหารจัดการร้านค้าโดยนำเทคนิคและวิธีการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการจัดโปรโมชันต่างๆ มาช่วยขยายตลาด เพิ่มยอดขาย และดึงดูดผู้บริโภค ตลอดจนการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งภายในจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดข้างเคียงเพื่อให้เกิดความหลากหลายของพันธมิตร โดยคาดหวังว่าในอนาคตจะเกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลกันทางธุรกิจ


ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าส่ง-ปลีกทั้งรายย่อยและรายใหญ่ที่เข้าร่วมสัมมนาฯ ทำให้ทราบว่า ความเข้มแข็งของธุรกิจที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ถือคติร่วมกันว่า‘ต้องเติบโตไปด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้กิจการรุ่งเรืองไปพร้อมกัน’ โดยไม่ได้มองธุรกิจประเภทเดียวกันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ แต่มองว่าเป็นพันธมิตรที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจทั้งระบบมีความแข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงจะเกิดเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น แต่รวมถึงการสานสัมพันธ์กับพันธมิตรเครือข่ายข้ามจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ และการค้าที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาประยุกต์เพื่อปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจของตนเองได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การประกอบการธุรกิจไม่โดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มีพันธมิตรที่พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลและส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของธุรกิจโชวห่วยไทยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ปัจจุบันนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผู้ประกอบการโชวห่วยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านค้าขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ผลักดันร้านโชวห่วยให้เป็นร้านสมาร์ทโชวห่วย โดยผู้ประกอบการต้องเข้าสู่โลกดิจิทัลเพื่อเรียนรู้และซึมซับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนการประกอบธุรกิจ รวมถึง เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวกประชาชน เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้ง ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ‘คนละครึ่ง’ ฯลฯ มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นฐาน และเทคโนโลยีจะเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าร่วมและเข้าถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2565) จังหวัดกาญจนบุรีมีผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกโชวห่วยขนาดกลาง (นิติบุคคล) จำนวน 3,698 ร้านค้า และธุรกิจค้าปลีกโชวห่วยขนาดเล็กประมาณ6,000 ร้านค้า เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย