นนทบุรี 16 มี.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ขอเวลาพิจารณาปลอล็อกสัดส่วนข้อจำกัดนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ก่อน ย้ำทุกฝ่ายต้องรับได้ เตรียมชงคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดและณะกรรมการอาหารสัตว์พิจารณาก่อนประกาศใช้จริง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังปลัดกระทรวงพาณิชย์กับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งขณะนี้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์สูงขึ้นมากโดยเฉพาะวัตถุดิบสำคัญ 3 ตัว คือ 1.ข้าวโพด2.ข้าวสาลี 3.ปลาป่น ซึ่งข้าวโพดราคาสูงขึ้นมากโดยเฉพาะในประเทศ ขณะนี้ราคาข้าวโพด จากปกติกิโลกรัมละ 6-7 บาท แต่รัฐบาลประกันรายได้ที่ 8.50 บาท/กก. แต่ขณะนี้ราคาถึง 11 บาทกว่า/ต่อ กก.แล้ว
ขณะที่ข้าวสาลีในตลาดโลกราคาสูงขึ้นเพราะประเทศที่ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก คือ ยูเครนที่ทำสงครามกับรัสเซีย ทำให้ต้นทุนอาหารสัตว์โดยเฉพาะราคาข้าวโพด กับข้าวสาลี ที่เป็นต้นทุนอาหารสัตว์สูงขึ้นมาก จำเป็นต้องแก้ปัญหานี้เพื่อให้ไม่กระทบต่อราคาเนื้อสัตว์ที่อุปโภคบริโภคมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม โดยทั้งหมดยังไม่เป็นที่ยุติ เป็นเพียงมีแต่ความเห็นว่าจะผ่อนปรนให้ดำเนินการแก้ปัญหาข้าวโพด หรือผ่อนปรนที่จะนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนจะต้องซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรไทย 3 ส่วน ที่เรียกว่า 3:1 เพื่อป้องกันไม่ให้นำเข้าข้าวสาลีมากจนเกินไปและทำให้ข้าวโพดในประเทศราคาตก ส่วนการจะปรับสัดส่วนนี้หรือไม่ เพื่อเปิดโอกาสให้นำเข้าข้าวสาลีเข้าประเทศได้มากขึ้น เพราะเวลานี้ข้าวโพดในมือเกษตรกรเกือบจะไม่มีแล้วในช่วงเวลานี้ควรปรับสัดส่วนเป็นรูปแบบไหนอย่างไรหรือไม่ ต้องมีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง และนำเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายระดับชาติ ทั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์(นบขพ.) และคณะกรรมการอาหารสัตว์ก่อนเป็นต้น
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงทั้ง 2 กระทรวง จะต้องดำเนินการต่อไปและต้องฟังความเห็นของทุกฝ่ายด้วย แต่ทั้งหมดมีเป้าหมายที่ต้องการช่วยทั้งเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพด ผู้เลี้ยงสัตว์ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารสัตว์ และผู้บริโภคไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดผลกระทบเดือดร้อน จนเกินพอดีจากข้อเท็จจริงที่ต้นทุนสูงขึ้นและจากสถานการณ์สงคราม ต้องฟังทุกฝ่ายให้ดีที่สุดก่อน.-สำนักข่าวไทย