รมว.ดีอีเอส ลงตรวจพื้นที่กลางกรุง เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร

กทม. 10 มี.ค. – รมว.ดีอีเอส ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมในการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพชั้นใน บริเวณถนนสุขุมวิท 71 บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 – ซอยเอกมัย 12 – ปากซอยทองหล่อ 10 ช่วยปรับทัศนียภาพให้สวยงามมีความปลอดภัย


วันที่ 10 มีนาคม 2565 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ลงพื้นที่ ถ.สุขุมวิท ติดตามการจัดระเบียบสายสื่อสารของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และของผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นๆ พร้อมด้วย นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน NT นางสมจิตต์ ธีระชุติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้านครหลวง NT ตรวจความพร้อมในการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพชั้นใน บริเวณถนนสุขุมวิท 71 บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 – ซอยเอกมัย 12 – ปากซอยทองหล่อ 10 ช่วยปรับทัศนียภาพให้สวยงามมีความปลอดภัย หาแนวทางการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน (Infrastructure Sharing) เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการและประหยัดการใช้งบประมาณของทุกส่วนงานสนองตอบต่อนโยบายการจัดระเบียบสายสื่อสารของภาครัฐ โดยมีผู้บริหารจาก กทม.โดยสำนักงานเขตวัฒนา การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) สน.ทองหล่อ สน.คลองตัน พร้อมด้วยผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมภาคเอกชนทุกค่าย ร่วมรายงานการดำเนินงาน

​นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า การจัดระเบียบสายสื่อสารจะเร่งดำเนินการตามแผนจัดระเบียบสายสื่อสารของกระทรวงดีอีเอส ด้วยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยปี 2565 จะเริ่มดำเนินการเร่งด่วนพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานครก่อน ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ประมาณกลางเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในระหว่างการดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นอาจจะได้รับความไม่สะดวกบ้าง แต่ในอนาคตหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ บ้านเมืองจะเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความปลอดภัยในการสัญจรไปมาซึ่งการดำเนินงาน กระทรวงดีอีเอส จะได้ประสานความร่วมมือไปยังส่วนงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันดำเนินงานเพให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ตามกำหนด

นายชัยวุฒิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาดีอีเอสมอบหมายให้ NT ดำเนินการในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามแนวถนนสายหลัก บริเวณย่านธุรกิจและสถานที่สำคัญ โดยวันนี้ NT ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณพื้นที่เขตวัฒนา บริเวณถนนสุขุมวิท 71 บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 – ซอยเอกมัย 12 -ปากซอยทองหล่อ 10 เป้าหมาย เพื่อให้มีการจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมให้มีทัศนียภาพที่สวยงามและปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน


กระทรวงฯ มองว่าการลงทุนดำเนินการครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ดี ซึ่ง NT ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน (Telecom Infrastructure) ที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านกิจการโทรคมนาคมของประเทศไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนได้รับประโยชน์และใช้บริการโทรคมนาคมที่ทันสมัย ตั้งเป้าหมายการดำเนินการในโครงการจัดระเบียบสายสื่อสารบริเวณกรุงเทพชั้นในตามถนนสายหลัก โดยเฉพาะย่านธุรกิจที่มีประชาชนสัญจรผ่านเป็นจำนวนมากก่อน และขยายสู่พื้นที่รอบนอกต่อไป​​​​​​​

​นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน กล่าวว่า NT พร้อมที่จะดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีดีอีเอสมาโดยตลอด ในการดำเนินการเพื่อจัดระเบียบสายสื่อสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศภาพรวม โดย NT ดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารให้สวยงาม เป็นระเบียบร้อย ร่วมกับส่วนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวงเขตบางกะปิ สำนักงานเขตวัฒนา ส่วนงานให้บริการสื่อสารทั้งหมด โดยกำหนดให้ดำเนินการจัดระเบียบในพื้นที่นครหลวง กรุงเทพชั้นใน เพื่อเป็นต้นแบบ และกำหนดพื้นที่ส่วนบริการลูกค้านครหลวงที่ 2.2.1 บริเวณจุดที่ 1.ในเบื้องต้นจัดบริเวณปากซอยถนนสุขุมวิท71 ด้าน ถนนสุขุมวิท (ซอยปรีดีพนมยงค์) ถึงซอยปรีดีพนมยงค์ 5 ทั้งสองฝั่งถนน ระยะเวลาดำเนินการภายใน 30 วัน ระยะทาง 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ต้องจัดระเบียบเร่งด่วน โดยเป็นการเก็บสายที่ห้อยรกรุงรังให้มีความเป็นระเบียบปลอดภัย พร้อมกับดำเนินจัดระเบียบสายตลอดแนวถนนสุขุมวิท 71 ระยะทาง 3 กิโลเมตร (ทั้ง 2 ฝั่งถนน รวม 6 กิโลเมตร) และจุดที่ 2 และจัดระเบียบสายสื่อสารในซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ถึงปากซอยทองหล่อ 10 ระยะเวลาดำเนินการภายใน 60 วัน ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร เพื่อเป็นต้นแบบให้กับการจัดระเบียบสายในบริเวณอื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน นักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางสัญจร ซึ่ง NT ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการไม่ว่าจะเป็น กสทช. กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตวัฒนา สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม ทั้ง AIS ,True , ทริปเปิลที บรอดแบนด์ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนร่วมกันทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน

​ขณะเดียวกัน NT พร้อมเป็นผู้ให้บริการ Infrastructure sharing ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน ใช้ทรัพยากรของประเทศร่วมกันทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ระบบสื่อสารโทรคมนาคมมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปรับภูมิทัศน์เมืองให้สวยงาม ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และประชาชน ที่อาศัยในสองฝั่งถนน ของถนนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ลดการเกิดความร้อนทำให้เกิดไฟไหม้ที่สายสื่อสาร เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้งานได้ การบำรุงรักษาสายสื่อสารในอนาคตทำได้ง่าย รวดเร็ว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย