กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-พาณิชย์เพิ่มแผนภาคการส่งออก นอกจากจะสินค้า และบริการต่างๆ แล้ว ในปี 65 จะให้ความสำคัญ กับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ อนิเมชั่น หรือ เกมส์ เพื่อทำรายได้เข้าสู่ประเทศให้ได้มากขึ้น หลังปี 63 รายได้กลุ่มนี้สร้างเงินเข้าประเทศกว่า 2 แสนล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้นำร่องกิจกรรมแรกตั้งแต่ต้นปี ด้วยการจัดโครงการ “Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง” ในรูปแบบ on-site นำผู้ประกอบการไทยในธุรกิจภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง 15 ราย มาเจรจาธุรกิจ นำเสนอไอเดีย และผลงาน กับ ผู้ดำเนินธุรกิจสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม คอนเทนต์ออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ 4 รายที่มีชื่อเสียง ได้แก่ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทำธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้น ภายใต้ WeTV / บริษัท เน็ทพลิกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ( Netflix ) / บริษัท อ้ายฉีอี้ ประเทศไทย / และบริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แอพพลิเคชั่น “วิว” (Viu) เพื่อพัฒนา และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มคอนเทนต์ออนไลน์ที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ผลักดันให้ประเทศไทย เป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ระดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ จะให้ความสำคัญกับผลักดันการส่งออกอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น นอกเหนือจากการส่งออกเฉพาะตัวสินค้าหลักๆ อย่างสินค้าเกษตร ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา หรือสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม โดยจะสนับสนุนภายใต้แนวคิด “Soft Power” เป็นการนำจุดเด่นโดยเฉพาะในเรื่องของ วัฒนธรรม กีฬา การศึกษา มาดึงดูดความสนใจ ให้แพร่หลายในระดับสากล โดยในปี 2563 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ สูงกว่า 250,000 ล้านบาทเกินครึ่งอยู่ในวงการทีวี และภาพยนตร์ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วางแผน และสรุปกิจกรรมส่งเสริมดิจิทัลคอนเทนต์ตลอดทั้งปี เพื่อให้มีแนวทางผลักดันการส่งออกอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ตลาดโลกที่ชัดเจน ซึ่งคาดการณ์ว่าการเจรจาธุรกิจในครั้งนี้ จะมีมูลค่าการค้ากว่า 300 ล้านบาทและเชื่อว่าจะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน.-สำนักข่าวไทย