กรุงเทพฯ 17 พ.ย.- ธ.ก.ส. หนุนชุมชนไม้มีค่า เข้าร่วมกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก นำร่อง 45 ชุมชน ปลูกต้นไม้กว่า 8 แสนต้น ดูดซับปริมาณคาร์บอน 279,000 ตันคาร์บอน สร้างรายได้ เก็บคาร์บอนกว่า 1.8 ล้านบาท หนุนสินเชื่อรักษ์ป่าไม้ ไทยยั่งยืน 20,000 ล้านบาท
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เติมเต็มความรู้ให้ชุมชน เกี่ยวกับการประเมินมูลค่าการกักเก็บคาร์บอน ตามโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) ให้รู้จักการ กักเก็บก๊าซเรือนกระจก แปลงเป็นรายได้คืนสู่ชุมชน
ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนเงินให้ชุมชน ตันคาร์บอนละ 100 บาท ไม่เกินชุมชนละ 50,000 บาท ปัจจุบันมีชุมชน เข้าร่วมโครงการ 45 ชุมชน จำนวนต้นไม้ 880,791 ต้น ปริมาณการกักเก็บคาร์บอน 279,644 ตันคาร์บอน ธ.ก.ส. มอบเงินสนับสนุน 1.86 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมาย ให้ชุมชนไม้มีค่าเข้าร่วมโครงการ 77 ชุมชนภายในปี 2564
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. และ อบก. ยังร่วมมือยกระดับชุมชนไม้มีค่าสู่โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) เพื่อต่อยอดสู่การขายคาร์บอนเครดิต ปัจจุบันมีชุมชนขึ้นทะเบียน T-VER เพื่อเตรียมพร้อมสู่ตลาดคาร์บอน จำนวน 2 ชุมชน ได้แก่ ธนาคารต้นไม้บ้านลี่ และธนาคารต้นไม้บ้านแดง จังหวัดขอนแก่น คาดว่าจะผลิตคาร์บอนเครดิตได้ 3,025 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดระยะเวลาโครงการ
นายธนารัตน์ กล่าวอีกว่า เพื่อจูงใจให้เกษตรกรสร้างรายได้ และออมผ่านการปลูกต้นไม้ ธ.ก.ส. เตรียมสินเชื่อ “รักษ์ป่าไม้ ไทยยั่งยืน” เพื่อใช้ลงทุนขยายหรือสร้างอาชีพเสริม การปลูกไม้เศรษฐกิจ เพาะพันธุ์ไม้หรือเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่าย/ผลิตไม้ล้อม บริการจัดเตรียมพื้นที่ปลูก และบริการตัดสางต้นไม้ เป็นต้น วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สนใจใช้บริการสินเชื่อแล้วจำนวน 483 ราย เป็นเงิน 103 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย