กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – รมว.คมนาคม สั่งด่วน! ให้กรมทางหลวงแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมถนนหลวงสายหลัก เส้นทางสู่ภาคใต้ ล่าสุดสถานการณ์ดีขึ้น โดยวางแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น-ระยะยาว
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการด่วนให้อธิบดีกรมทางหลวง ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมสูงบนทางหลวงสายหลักลงสู่ภาคใต้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ใช้ทาง ดูแลให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร และทำให้ถนนที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมาใช้เส้นทางสัญจรโดยเร็ว และเน้นย้ำให้กรมทางหลวง พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทางหลวงอย่างถาวร และวางแผนการฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการร่วมกับจังหวัด ท้องถิ่น และรับฟังความคิดเห็นประชาชน รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงในทุกช่องทาง
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ทีมวิศวกรจากส่วนกลาง พร้อมด้วย นายนพพร พิสุทธิมาน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 15 (ประจวบคีรีขันธ์) นายไพจิตร แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 16 (นครศรีธรรมราช) ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชุมพรและสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจเส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 41 ถ.เพชรเกษม ตั้งแต่ จ.ชุมพร ถึง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเส้นทางหลวงสายหลักลงสู่ภาคใต้ ภายหลังวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักมากในพื้นที่ จ.ชุมพร วัดได้มากกว่า 200 มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมทางหลวงหลายจุด โดยเฉพาะ ถ.เพชรเกษม จาก จ.ชุมพร ไป จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่าง กม.33+600 – กม.34+000 พื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร เกิดน้ำท่วมสูงถึง 80-120 ซม. รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้เส้นทางจากสี่แยกปฐมพร อ้อมไปทาง จ.ระนอง แทน ทำให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด เป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ประชาชนที่สัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ นอกจากสาเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องตลอด 2 วัน ยังพบการใช้พื้นที่สองข้างทางเปลี่ยนไป ทำให้มวลน้ำสะสมจากทางด้านตะวันตกของ ถ.เพชรเกษม ไหลมาทางด้านตะวันออก ในทิศทางที่เปลี่ยนไปจากที่ได้ออกแบบก่อสร้างเปิดช่องระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำสวี แล้วออกไปสู่ทะเลฝั่งอ่าวไทยได้ไม่สะดวก ระบายน้ำได้ช้า เกิดน้ำเอ่อท่วมผิวทางจราจร
ในเบื้องต้น กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงชุมพร ได้ระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือเครื่องจักร และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย รวมทั้งป้ายจราจร และไฟกะพริบเตือน ที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่
ส่วนแนวทางการแก้ไขถาวรในระยะต่อไป ได้สั่งการให้สำรวจทิศทางการไหลของน้ำ และการใช้พื้นที่สองข้างทางในบริเวณนี้อย่างละเอียด รวมทั้งพื้นที่ที่มีลักษณะเช่นนี้ในบริเวณอื่น เพื่อให้ทีมวิศวกรวิเคราะห์และออกแบบ เปิดช่องระบายน้ำให้มากขึ้นและกว้างขึ้น บางจุดต้องทำการก่อสร้างเป็นสะพาน เพื่อให้ระบายน้ำได้เต็มที่ รวมทั้งยกระดับถนนที่ต่ำบางช่วงให้สูงขึ้น ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทุกมิติ ไม่ทำให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน
“ขณะนี้ในบริเวณจุดนี้ไม่มีน้ำท่วมบนผิวทางจราจรแล้ว และได้เดินทางตรวจเส้นทางสาย 41 ถ.เพชรเกษม ไปจนถึง จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 150 กิโลเมตร สภาพเส้นทางทั่วไปเป็นปกติ สามารถใช้การได้ดี ไม่มีน้ำท่วม สำหรับสภาพภูมิอากาศ ยังคงมืดครึ้ม และมีฝนตกบ้างเล็กน้อยตลอดทั้งวัน สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ถือว่าดีขึ้น โดยตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันนี้ (14 พ.ย.64) ทางหลวงสายหลักลงสู่ภาคใต้ และสายหลักสู่ทุกภาคทั่วประเทศ เข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางได้ทุกเส้นทาง” นายสราวุธ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ในเวลา 18.00 น. มีรายงานทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ จำนวน 3 จังหวัด 3 เส้นทาง ซึ่งสามารถสัญจรได้ตามปกติ มีบางเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไม่มาก โดยกรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยให้กับประชาชน ได้แก่
1.) ทล.3094 ช่วงทางเข้านครชัยศรี กม.0+000-1+894 ขาเข้า และขาออก ระดับน้ำสูง 20 ซม. พื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
2.) ทล.327 ช่วงสี่แยกปฐมพร-แยกหมอเล็ก กม.1+100-2+000 ระดับน้ำสูง 10 ซม. พื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร
3.) ทล.4191 ช่วงไชยา-เขาหลัก กม.2+697-3+102 ระดับน้ำสูง 5 ซม. พื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
โดยกรมทางหลวง ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง). – สำนักข่าวไทย