ทำเนียบฯ 4 พ.ย.- ครม. เร่งรัดแผนพัฒนาตลาดทุนไทย หวังเป็นแหล่งทุนให้ เอสเอ็มอี, สตาร์ทอัพ หนุนระดมทุนขายหลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง ส่งเสริมการออมระยะยาวรองรับสังคมผู้สูงอายุ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) รับทราบ แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) สำหรับมาตรการหลัก 7 แผนงานประกอบด้วย 1.การเป็นแหล่งทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) วิสาหกิจเริ่มต้น(สตาร์ทอัพ) และนวัตกรรม มุ่ง ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ เข้าถึงแหล่งเงินทุน การสนับสนุนนวัตกรรม เพื่อการระดมทุนขายหลักทรัพย์ผ่านระบบคราวด์ฟันดิง ด้วยระบบสินเชื่อออนไลน์ระหว่างบุคคล และเตรียมการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการซื้อขายสำหรับนักลงทุนประเภทพิเศษ
2.การเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย โดยใช้หลักเกณฑ์ทางภาษีของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ดึงดูดการลงทุน 3.การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย มี 33 แผนงาน ต้องเร่งปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
4.การพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการนำเงินไปลงทุนในกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม 5.การมีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ การเดินหน้าศึกษาเพื่อปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเป็นแหล่งเงินออมสำคัญในการรองรับการเกษียณอายุ และการจัดให้มีกฎหมายเพื่อรองรับธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ การพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย
6.การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล การพัฒนาการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านเทคโนโลยี Blockchain 7.การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาศูนย์รวมข้อมูลสำหรับหลักทรัพย์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้และกองทุนรวม และอีกแผนงานคือ การออกพันธบัตรสีเขียว พันธบัตรเพื่อสังคม และพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย