กรุงเทพฯ 15 ต.ค.-บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC มั่นใจดีมานด์บรรจุภัณฑ์แก้วไตรมาสสุดท้ายฟื้นตัว หลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเตรียมเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ และภายในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ จะพิจารณาอนุญาตให้สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ ตลอดจนการเปิดสถานบันเทิงและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เหมาะสม ถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ถือเป็นไฮซีซั่นของการเฉลิมฉลอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์แก้วซึ่งเป็นพอร์ตสินค้าหลักของบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
บริษัทฯ มีกำลังการผลิตและวางแผนบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้เพียงพอต่อการรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในปีนี้และช่วงปี
บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีแนวโน้มที่ดี และมีโอกาสเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ที่มีรายได้จากการขาย 3,020 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 182 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 คาดว่าจะลดลงเนื่องจากปีนี้ได้รับผลดีเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว
บริษัทได้ปรับโมเดลธุรกิจจากผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว สู่ Total Packaging Solutions เพิ่มพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษ, ขวด PET, ฟิล์มพลาสติก, ฝาพลาสติก, หลอดฟรีฟอร์ม เป็นต้น โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เพื่อเพิ่มโอกาสต่อยอดสู่การผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) รองรับการเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำและเพิ่มความหลากหลายในการนำเสนอสินค้า ซึ่งคาดว่ากลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์อื่น จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ ในปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10-15% ของรายได้จากการขายรวม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ในโรงงานจังหวัดราชบุรี และขยายกำลังการผลิตในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566 ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมทุกโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 12% จาก 3,495 ตันต่อวัน เป็น 3,935 ตันต่อวัน สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกปีละกว่า 1,000 ล้านบาท และสนับสนุนเป้าหมายระยะยาวที่จะเติบโตก้าวกระโดดด้วยเป้าหมายเพิ่มรายได้อีกกว่าเท่าตัว จากกว่า 11,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เป็น 25,000 ล้านบาท ภายในปี 2568 -สำนักข่าวไทย