ครั้งแรกในเอเชีย ขาย “หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ.” ผ่านวอลเล็ตบน “เป๋าตัง”

กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – “ปตท.สผ.” ผนึก “กรุงไทย” ปฏิวัติการลงทุน เสนอขาย “หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ.” บนช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในเอเชีย ซื้อ-ขายง่าย ได้ทันที 24 ชั่วโมง ผ่านแอปฯเป๋าตัง ตอกย้ำความเป็น “Thai-land Open Digital Platform” เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เปิดโอกาสเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ภาคเอกชนอย่างเท่าเทียม 


นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ. มีแผนที่จะเสนอขายหุ้นกู้ให้กับประชาชนทั่วไปในตลาดทุนไทย โดยได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ให้บริการซื้อขายหุ้นกู้ครั้งนี้ผ่านแอปพลิเคชัน ”เป๋าตัง” ถือเป็นการซื้อขายหุ้นกู้ด้วยระบบดิจิทัลวอลเล็ต เต็มรูปแบบครั้งแรกในเอเชีย  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยมีโอกาสเข้าถึงการลงทุนกับ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำของประเทศไทย หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. จึงเปิดให้ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท  ซึ่งเป็นมูลค่าลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำที่สุดของการขายหุ้นกู้ในประเทศ บริษัทคาดว่าจะสามารถกำหนดมูลค่าการเสนอขายหุ้นกู้ทั้งหมดได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าจะเปิดการเสนอขายหุ้นกู้ได้ในระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2564 

สำหรับหุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. ที่เสนอขายครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 5 ปี ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี พ.ศ. 2569 ด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเริ่มต้น  ที่ร้อยละ 2.00 ต่อปี และสูงสุดที่ร้อยละ 2.75 ต่อปี คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 2.25 ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน นักลงทุนสามารถลงทุนเพิ่มด้วยอัตราทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท วงเงินลงทุนสูงสุดท่านละไม่เกิน 10 ล้านบาท หุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ “AAA” โดยทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดของตราสารหนี้ในประเทศ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท


“การเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลครั้งนี้ของ ปตท.สผ. เป็นการกลับมาเสนอขายหุ้นกู้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดย ปตท.สผ. ในฐานะที่เป็นบริษัทพลังงานของคนไทย ต้องการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้มีส่วนร่วมในการลงทุนกับ ปตท.สผ. เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสการลงทุนกับบริษัทที่มีความมั่นคงและเติบโตในอนาคต ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยที่สุดของการซื้อขายหุ้นกู้ในประเทศ และสามารถซื้อขายได้สะดวกสบายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาตลาดทุนไทย โดยการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้หรือหนี้จากการออกตราสารหนี้ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานในธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต” นายมนตรี กล่าว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นนำนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ตอบโจทย์ลูกค้าและประชาชนทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง บนช่องทางดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก และปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้งานในยุคใหม่ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) ให้เป็น Thailand Open Digital Platform เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทุกกลุ่มใช้บริการได้ แม้ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย พร้อมเปิดกว้างร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลาย ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับศักยภาพของ Platform ให้สามารถบริการครอบคลุมกิจกรรมหลักในชีวิตของลูกค้าและประชาชนอย่างทั่วถึง ทั้งด้านบริการทางการเงิน สุขภาพ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงการออมและการลงทุนในครั้งนี้ ธนาคารได้ร่วมมือกับ ปตท.สผ. ยกระดับแอปฯเป๋าตัง รองรับการซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลของ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นการจองซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนในตลาดแรก  และสามารถซื้อขายเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในตลาดรอง บนช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ ผ่านวอลเล็ตเป็นครั้งแรกในเอเชีย โดยหุ้นกู้ดิจิทัล ปตท.สผ. ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในระดับ AAA และมีความต้องการในตลาดหุ้นกู้สูง แต่ที่ผ่านมาการซื้อขายหุ้นกู้เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดอาจทำได้ลำบาก ไม่รู้ว่าจะซื้อขายกันที่ไหน ธนาคารกรุงไทยจึงให้บริการเป็นตัวกลางสำหรับตลาดรอง เพื่อให้นักลงทุนมีช่องทางการซื้อขายได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตลอด 24 ชั่วโมง ได้รับหุ้นกู้และได้รับเงินทันที โดยไม่มีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้มีเงินลงทุนหมุนเวียน สร้างสภาพคล่องให้กับตลาดตราสารหนี้ของไทยอีกด้วย 

“ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นการปฏิวัติการลงทุนครั้งสำคัญที่คนไทยทุกภาคส่วน ทุกระดับชั้นรายได้ สามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือในระดับ AAA ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท สามารถซื้อขายเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ตลอดเวลา แบบที่เรียกว่า ทุกที่ ทุกเวลา  ผ่านแอปฯเป๋าตัง ที่เป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว โดยคนไทยให้กับคนไทย ทั้งจากโครงการภาครัฐ เช่นคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน บริการ Health Wallet และการลงทุน ผ่านวอลเล็ต สบม.  ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปฯเป๋าตังมากกว่า 33 ล้านคน  ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDGS ในหลายด้าน  ทั้งในด้านการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม ยั่งยืน และการลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ  โดยธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นอย่างทั่วถึงและยั่งยืน”


ดร.ภากร ปีตธวัชชัย  กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เปิดเผยว่า  รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ดิจิทัลปตท. สผ. ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของนวัตกรรมการให้บริการทางการเงินขั้นพื้นฐานให้แก่ประชาชนไทยอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง อันเป็นการต่อยอดและยกระดับตลาดทุนไทยสู่ตลาดทุนดิจิทัลและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศอย่างยั่งยืนอีกด้วย

สำหรับผู้สนใจลงทุนในหุ้นกู้ดิจิทัลของ ปตท.สผ. สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการซื้อหุ้นกู้ ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวนการเสนอขายได้ที่ www.sec.or.th และ www.krungthai.com หรือสอบถามข้อมูลผ่านธนาคารกรุงไทย โทร. 02-111-1111.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย