นนทบุรี 4 ต.ค.-อธิบดีกรมการค้าภายในจับมือปั๊มน้ำมัน แก้ไขปัญหาไข่ไก่ล้นตลาดโดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6 – 13 ตุลาคม 2564นี้
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่ผลผลิตไข่ไก่ เริ่มออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากในทุกพื้นที่ ประกอบกับปัจจุบันเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ทำให้เกิดการชะลอตัวของการรับซื้อของตลาดทั้งในและต่างประเทศ เกษตรกรขาดช่องทางในการกระจายผลผลิต เนื่องจากธุรกิจบริการ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ไม่เปิดให้บริการ จึงเกิดภาวะไข่ใก่ล้นตลาด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพณิชย์ จึงได้มอบนโยบายให้กรมการค้าภายในเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไข่ไก่ โดยดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ 1. เชื่อมโยงการจำหน่ายหรือกระจายข่ไก่ผ่านช่องต่างๆ เช่น งานธงฟ้า รถโมบาย และสถานีจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น 2. กำกับดูแลการค้าปลีก โดยติดตามภาวะการค้าปลีกและราคาขายปลีกในตลาดสดให้สอดคล้องกับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม รวมทั้งตรวจสอบกำกับดูแลด้านเครื่องชั่ง และการปิดป้ายแสดงราคาขายปลีก
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ กรมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง 3 รายใหญ่ ประกอบด้วย บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) , บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR รับซื้อไข่ไก่ในปริมาณ 1,450,000 ฟอง เพื่อจัดทำโปรโมชันเป็นของสมนาคุณให้กับผู้ใช้บริการในสถานีจำหน่ายน้ำมัน พีที พีทีที สเตชั่น และบางจาก ในพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑลฯ และภาคตะวันออก ครอบคลุมพื้นที่ 13 จังหวัด 790 สาขา โดยกรมฯ ช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการ เพื่อช่วยขยายช่องทางในการกระจายผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่
ทั้งนี้ กรมๆ มั่นใจการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อเร่งกระจายผลผลิตให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ดังที่ได้กล่าวข้างต้น จะสามารถแก้ไขปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด รักษาเสถียรภาพด้านราคาและปรับสมดุลกลไกตลาด อันจะเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ รวมทั้งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกผักในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงมีผลผลิตได้รับความเสียหาย รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภคผักในช่วงเทศกาล กินเจมีปริมาณสูง สินค้าผักจึงขาดแคลน ส่งผลให้ราคาสินค้าผักปรับตัวสูงขึ้น กรมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้ง 3 ราย ในการสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าผักให้เกษตรกร ในช่วงประสบภัยน้ำท่วม และให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าผักในราคาที่เหมาะสมในช่วงเทศกาลกินเจ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6 – 13 ตุลาคม 2564 ณ สถานีจำหน่ายน้ำมันในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑลฯ ที่ร่วมรายการ จำนวน 100 สาขา โดยผักที่นำมาวางจำหน่าย ได้แก่ ผักคะน้า ในราคา 35 บาท กวางตุ้ง 20 บาท ผักบุ้ง 25 บาท ผักกาดขาว 25 บาท และกะหล่ำปลี 20 บาท เป็นต้น โดยกรมๆ ร่วมกับตลาดค้าส่งผัก อาทิ ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง นำผักมาจำหน่ายเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ในราคาประหยัดกว่าปกติในช่วงเทศกาลกินเจประมาณร้อยละ 40 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย