อุบลราชธานี 29 ก.ย. – กรมชลประทานเร่งวางกระสอบทรายและสูบน้ำที่ท่วม อ.วารินชำราบ และ อ.เมืองอุบลราชธานี แล้วผลักดันให้ระบายลงสู่แม่น้ำโขงเร็วที่สุด บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนหลายพื้นที่ หลังน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร
นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานีกล่าวว่า ฝนที่ตกกระจายทั่วพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อำเภอศรีเมืองใหม่ สิรินธร และพิบูลมังสาหาร ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันที่สถานี M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,396 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังคงมีน้ำที่ระบายจากภาวะน้ำท่วมพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำมูลและแม่น้ำชี รวมทั้งลำน้ำสาขาไหลลงสู่แม่น้ำมูลตอนล่างอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ได้รับผลกระทบได้แก่ บริเวณชุมชนวังแดง อ.เมือง เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมซ้ำซาก น้ำยังท่วมขังสูงประมาณ 1.90 ม. บริเวณริมแม่น้ำมูล ในเขต อ.เมือง ได้รับผลกระทบแล้ว 4 ชุมชนคือ ชุมชนหาดวัดใต้ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมซ้ำซาก มีบ้านเรียนราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 15 ครัวเรือน น้ำยังท่วมขังสูงประมาณ 0.30 ม. ชุมชนหลังโรงเรียนสมเด็จ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมมีบ้านเรียนราษฎร น้ำยังท่วมขังสูงประมาณ 0.30 ม. ชุมชนเยาวเรศ 3 น้ำยังท่วมขังสูงประมาณ 0.50 ม. บริเวณถนนชุมชน ท่าบ่อ หนองแก ทุ่งขุนน้อย เนื่องจากน้ำมูลน้อยเพิ่มสูงเอ่อเข้าท่วมถนนเส้นทางสัญจรระหว่างหมู่บ้าน
ส่วนที่อำเภอวารินชำราบได้รับผลกระทบแล้ว 4 ชุมชน รวม 40 ครัวเรือน ได้แก่ ชุมชนท่าบ้งมั่ง เกตุแก้ว หาดสวนยา และดีงามเนื่องจากน้ำมูลหนุนสูงและเป็นพื้นที่รองรับน้ำรอการระบายจากเทศบาลเมืองวารินชำราบ ระดับน้ำสูงประมาณ 1.30 ม.
สำหรับบริเวณลำเซบก น้ำจากลำเซบกและลำน้ำสาขาไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรรวม 1,130 ไร่ โดยที่ห้วยน้อย บ้านผักกะย่าม่วงตอย ต.ตระการ อ.ตระการพืชผล พื้นที่น้ำท่วม 230 ไร่ ท่วมสูงประมาณ 1.70 ม. ห้วยหลุบ บ้านโอด ต.ท่าเมือง อ. ดอนมดแดง พื้นที่น้ำท่วม 150 ไร่ ท่วมสูงประมาณ 1.20 ม. ห้วยมะข่า บ้านสว่าง ต.ท่าเมือง อ.ดอนมดแดง พื้นที่น้ำท่วม 270 ไร่ ท่วมสูงประมาณ 2.10 ม. คลองส่งน้ำสาย5R-1L สถานีสูบน้ำ P.1 (ในเขตชลประทาน) พื้นที่น้ำท่วม 400 ไร่ ท่วมสูงประมาณ 1.30 ม. คลองส่งน้ำสาย5R-1L-1R (ในเขตชลประทาน) พื้นที่น้ำท่วม 80 ไร่ ท่วมสูงประมาณ 1.00 ม.
ในเบื้องต้นได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่บริเวณประตูระบายน้ำ (ปตร.)วัดเสนาวงศ์ เพื่อระบายน้ำจากอำเภอวารินชำราบ พร้อมกับวางกระสอบทราย 500 ลูก บริเวณชุมชนท่ากอไผ่ เพื่อเป็นแนวกั้นน้ำ และอีก 400 ลูก บริเวณชุมชนท่ากกแห่ อ.เมือง พร้อมกันนี้เร่งผลักดันน้ำแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด
นายสัมพันธ์กล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและจุดเสี่ยงต่างๆ รวมที่งปิดป้ายแจ้งเตือนและธงสัญลักษณ์ที่สถานีวัดน้ำแม่น้ำมูลให้ประชาชนเห็นชัดเจน จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อโครงการชลประทานอุบลราชธานี โทร. 045-841-684 หรือ สายด่วนกรมชลประทาน 1460 .- สำนักข่าวไทย