GPSC โชว์กำไร Q2/64 โต 21% ฝ่าโควิด-19

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.-GPSC ฝ่าโควิด กำไรสุทธิไตมาส 2/64 กว่า 2,302 ล้านบาท โต 21% ครึ่งหลังเดินหน้านวัตกรรมพลังงานเต็มสูบ รับรู้ผลการดำเนินงานจากพอร์ตลงทุนในต่างประเทศ พร้อมยกระดับมาตราการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ดูแลความมั่นคงระบบการผลิต ป้อนไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 มีรายได้ทั้งสิ้น 18,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 โดยมีกำไรสุทธิ 2,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 (YoY) โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี การรับรู้รายได้จากเงินชดเชย ค่าประกันภัยของโรงไฟฟ้าโกลว์พลังงานระยะที่ 5 ปัจจัยบวกจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) จะลดลงในส่วนของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน ที่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงในช่วงที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของไตรมาส 2/2564 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2564 (QoQ) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 329 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% เป็นผลการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเงินชดเชยจากค่าประกันโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงานระยะที่ 5 และมีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า IPP ถึงแม้ว่า กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPP ลดลง เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะเดียวบริษัทฯ ยังรับรู้มูลค่า Synergy ร่วมกับ GLOW จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษี จำนวน 436 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ รวมถึงการใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ทั้งยังสามารถลดต้นทุนจัดซื้อจัดจ้าง และงานซ่อมบำรุงได้ตามเป้าหมาย

สำหรับภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 4,276 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 34,858 ล้านบาท หรือลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังคงแสวงหาโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงาน จากกลยุทธ์หลักในการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้แก่ วันที่ 13 ก.ค. 2564 บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ซึ่ง GPSC ถือหุ้น 100% ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าลงทุนในบริษัท Avaada Energy Private Limited (Avaada) สัดส่วนประมาณ 41.6% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 14,825 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศอินเดีย กำลังผลิตรวม 3,744 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เรียบร้อยแล้วประมาณ 1,392 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวนประมาณ 2,352 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ในปี 2564-2565 ทำให้สามารถรับรู้รายได้ทันที นอกจากนี้ วันที่ 14 ก.ค. 2564 GRSC ยังได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับกองทุน CI-II และ CI-III ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท Copenhagen Infrastructure Partners (CIP) เพื่อเข้าลงทุนในสัดส่วน 25% ในโครงการ Changfang และ โครงการ Xidao (CFXD) ซึ่งเป็นโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind) ในไต้หวัน กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมจำนวน 595 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ในช่วงปี 2565-2567 CFXD มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ บริษัท Taiwan Power Company โดยคาดว่าการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าวจะแล้วเสร็จและสามารถดำเนินการโอนหุ้นได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565


พร้อมกับความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมพลังงาน โดย GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยี SemiSolid กำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 เป็นการผลิตแบตเตอรี่ G-Cell ที่ใช้เทคโนโลยี 24M เป็นแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแข็ง ที่มีความปลอดภัยสูง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นหน่วยงานกักเก็บพลังงานจากพลังงานหมุนเวียนในการเพิ่มประสิทธิภาพจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังสามารถรองรับอุตสาหกรรมไฟฟ้ายานยนต์แห่งอนาคต (EV)

“แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มีมาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด โดย GPSC ในฐานะผู้ผลิตสาธารณูปโภคในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจและสังคม ได้ยกระดับมาตรการป้องกันเข้มข้นสูงสุด ผ่านการดำเนินงานโดยศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส (GPSC G-COVID Center) ของบริษัทฯ โดยกำหนดให้พื้นที่กระบวนการผลิตเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตั้งทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจของแต่ละโรงไฟฟ้า ห้ามบุคคลภายนอกเข้าพื้นที่สำนักงานและพื้นที่ปฏิบัติการอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อให้การผลิตไฟฟ้า ไอน้ำและสาธารณูปโภคเป็นไปมีเสถียรภาพและความมั่นคง ตอบสนองความต้องการใช้ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง” นายวรวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร