เวียดนามรับจะทบทวนนำเข้าสุกรให้ไทยใหม่

นนทบุรี 7 มิ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ ระบุเวียดนามจะทบทวนมาตรการประกาศห้ามนำเข้าสุกรแก่ไทยใหม่ คาดได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ ปลื้มการค้า 2 ฝ่ายขยายตัวเกือบร้อยละ 20 แม้เจอพิษโควิด เตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการค้าปีนี้ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนาย ฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทยว่า ตนได้หยิบยกกรณีที่เวียดนามตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรมีชีวิตที่นำเข้าจากประเทศไทย ทำให้ทางเวียดนามเตรียมที่จะออกประกาศระงับการนำเข้าสุกรจากไทยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้นั้น โดยได้ชี้แจงกับฝ่ายเวียดนามไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก และได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสุกรก่อนการส่งออกทุกขั้นตอนแล้ว และขอให้เวียดนามพิจารณายกเลิกมาตรการนี้ หากก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้เวียดนามตรวจไม่พบโรคในสุกรที่ส่งออกจากไทยก็น่าจะประกาศยกเลิกดังกล่าวได้ ซึ่งทางเวียดนามรับปากจะกลับไปทบทวนเรื่องนี้ให้ไทยอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะมีข่าวดีได้เร็วๆนี้


ทั้งนี้ ส่งไทยส่งออกสุกรไปเวียดนามปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท จึงได้ขอให้ท่านทูตช่วยประสานทางการเวียดนาม ให้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้สุกรคุณภาพจากไทยส่งออกไปเวียดนามได้โดยสะดวก เพราะสุกรจากไทยเป็นที่ต้องการของเวียดนามอยู่แล้ว ซึ่งประเทศไทยเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและการส่งออกสุกรไปเวียดนามมาก โดยจะตรวจสุกรทุกล็อตที่ออกจากไทยไปยังชายแดนและส่งออกไปต่างแดนด้วย

อย่างไรก็ตามทูตเวียดนามนำมาหารือ 2 ประเด็น คือ 1 เนื่องจากประเทศไทยต้องเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าไทย-เวียดนามในปีนี้แต่ติดสถานการณ์โควิด จึงได้ข้อสรุปว่าควรเป็นเดือนสิงหาคมนี้ แต่จะเป็นวันไหนให้ระดับเจ้าหน้าที่ไปกำหนดกันอีกที และ 2 ท่านทูตสนับสนุนความเห็นของตนที่ให้ความเห็นในการประชุมเอเปค ในประเด็นที่ไทยสนับสนุนให้ประเทศต่างๆสามารถใช้สิทธิพิเศษในการผลิตวัคซีนโดยให้เหตุผลสุขอนามัยของประชาชนหรือที่เรียกว่า CL วัคซีน หรือมาตรการใช้ทริปส์ที่ให้ถือว่าวัคซีนปลอดการบังคับใช้สิทธิบัตรชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆสามารถผลิตวัคซีนได้ จะได้กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ทั้งประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา


ทั้งนี้ ในส่วนของไทยนอกจากเรื่องสุกรแล้ว ยังขอให้เวียดนามประชาสัมพันธ์ งานจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างไทย-เวียดนามที่ไทยจัดขึ้น ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคมเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ขอทูตเวียดนามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด่านเพื่ออำนวยความสะดวกสินค้าไทยผ่านเวียดนามไปจีน เพราะบางด่านประสบปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะด่านเวียดนาม ฝั่งจีนโหย่วอี้กวน และภาคเอกชนผู้ผลิตยาไทยได้ให้ข้อมูลมาที่กระทรวงพาณิชย์กรณีที่เวียดนามกำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนยาที่เวียดนามมีความซับซ้อน จึงขอให้ผ่อนคลายกฏระเบียบให้เป็นมาตรฐานอาเซียนหรือ WHO ด้วย เพราะประเด็นนี้จะช่วยการส่งออกยาไปเวียดนาม ส่วนเรื่องน้ำตาล เวียดนามขึ้นภาษีการทำตลาดน้ำตาลไทยในเวียดนามและขึ้นภาษีโดยใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุนโดยโดยคิดภาษีเพิ่มจาก ร้อยละ 5 เพิ่มเป็นทั้งในโควต้าและนอกโควต้าเป็นร้อยละ 51 ขอให้ช่วยพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้เป็นตามกรอบ WTO เป็นหลัก

สำหรับเป้าหมายส่งออกเวียดนาม ได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค้าระหว่างกันจากปัจจุบัน 20,000 ล้านดอลาร์สหรัฐหรือ 500,000 กว่าล้านบาทเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 750,000 ล้านบาท ในปีนี้ และยังมอบหมายเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้ง 2 ประเทศ หารือกันว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีและนำมาหารือร่วมกันในการประชุม JTC ร่วมกันในเดือนสิงหาคมต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมส่งเสริมกิจกรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายอาจร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 นี้ และยินดีกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่เติบโตถึงร้อยละ 2.91 ในปี 2563 รวมทั้งการขยายตัวของการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 19.93 มีมูลค่ารวมกว่า 6,623.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท นับเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะยังคงเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม


ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือถึงการส่งเสริมการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้า 2 ฝ่ายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านความร่วมมือที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการค้ามากขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในรูปแบบออนไลน์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิต เพื่อช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานภายในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าในสินค้าเกษตรที่ทั้งไทยและเวียดนามต่างก็เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญของโลก
นอกจากนี้ ไทยได้เน้นย้ำความสำคัญของการอำนวยความสะดวกและลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้าสองฝ่ายยังคงขยายตัวได้ต่อไปในช่วงที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้เวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีน โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลไม้ของไทย ซึ่งในทุกปีจะมีการขนส่งผลไม้ผ่านแดนเวียดนามไปยังจีนจำนวนมาก การลดข้อกำหนดในการขอหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์ยาที่ส่งออกจากไทยไปยังเวียดนาม

ทั้งนี้ ในปี 2563 เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในโลก และอันดับที่ 3 ของไทยในอาเซียน รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 16,618.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 517,424.4 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปยังเวียดนาม 11,163.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 346,063.4 ล้านบาท และนำเข้าจากเวียดนาม 5,454.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 171,361.04 ล้านบาท สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2564 ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 64 การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 6,623.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 19.93 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกมูลค่า 4,314.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 129,294.27 ล้านบาท และเป็นการนำเข้ามูลค่า 2,309.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 70,229.02 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปเวียดนาม คือ รถยนต์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากเวียดนาม คือ โทรศัพท์มือถือและอื่นๆเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]