เวียดนามรับจะทบทวนนำเข้าสุกรให้ไทยใหม่

นนทบุรี 7 มิ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ ระบุเวียดนามจะทบทวนมาตรการประกาศห้ามนำเข้าสุกรแก่ไทยใหม่ คาดได้รับข่าวดีเร็วๆ นี้ ปลื้มการค้า 2 ฝ่ายขยายตัวเกือบร้อยละ 20 แม้เจอพิษโควิด เตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการค้าปีนี้ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนาย ฟาน จี๊ ทัญ เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทยว่า ตนได้หยิบยกกรณีที่เวียดนามตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรมีชีวิตที่นำเข้าจากประเทศไทย ทำให้ทางเวียดนามเตรียมที่จะออกประกาศระงับการนำเข้าสุกรจากไทยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้นั้น โดยได้ชี้แจงกับฝ่ายเวียดนามไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก และได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสุกรก่อนการส่งออกทุกขั้นตอนแล้ว และขอให้เวียดนามพิจารณายกเลิกมาตรการนี้ หากก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้เวียดนามตรวจไม่พบโรคในสุกรที่ส่งออกจากไทยก็น่าจะประกาศยกเลิกดังกล่าวได้ ซึ่งทางเวียดนามรับปากจะกลับไปทบทวนเรื่องนี้ให้ไทยอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะมีข่าวดีได้เร็วๆนี้


ทั้งนี้ ส่งไทยส่งออกสุกรไปเวียดนามปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท จึงได้ขอให้ท่านทูตช่วยประสานทางการเวียดนาม ให้ผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้สุกรคุณภาพจากไทยส่งออกไปเวียดนามได้โดยสะดวก เพราะสุกรจากไทยเป็นที่ต้องการของเวียดนามอยู่แล้ว ซึ่งประเทศไทยเข้มงวดเรื่องสุขอนามัยและการส่งออกสุกรไปเวียดนามมาก โดยจะตรวจสุกรทุกล็อตที่ออกจากไทยไปยังชายแดนและส่งออกไปต่างแดนด้วย

อย่างไรก็ตามทูตเวียดนามนำมาหารือ 2 ประเด็น คือ 1 เนื่องจากประเทศไทยต้องเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมการค้าไทย-เวียดนามในปีนี้แต่ติดสถานการณ์โควิด จึงได้ข้อสรุปว่าควรเป็นเดือนสิงหาคมนี้ แต่จะเป็นวันไหนให้ระดับเจ้าหน้าที่ไปกำหนดกันอีกที และ 2 ท่านทูตสนับสนุนความเห็นของตนที่ให้ความเห็นในการประชุมเอเปค ในประเด็นที่ไทยสนับสนุนให้ประเทศต่างๆสามารถใช้สิทธิพิเศษในการผลิตวัคซีนโดยให้เหตุผลสุขอนามัยของประชาชนหรือที่เรียกว่า CL วัคซีน หรือมาตรการใช้ทริปส์ที่ให้ถือว่าวัคซีนปลอดการบังคับใช้สิทธิบัตรชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆสามารถผลิตวัคซีนได้ จะได้กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ทั้งประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา


ทั้งนี้ ในส่วนของไทยนอกจากเรื่องสุกรแล้ว ยังขอให้เวียดนามประชาสัมพันธ์ งานจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างไทย-เวียดนามที่ไทยจัดขึ้น ในช่วงวันที่ 4-5 สิงหาคมเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ขอทูตเวียดนามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด่านเพื่ออำนวยความสะดวกสินค้าไทยผ่านเวียดนามไปจีน เพราะบางด่านประสบปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะด่านเวียดนาม ฝั่งจีนโหย่วอี้กวน และภาคเอกชนผู้ผลิตยาไทยได้ให้ข้อมูลมาที่กระทรวงพาณิชย์กรณีที่เวียดนามกำหนดหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนยาที่เวียดนามมีความซับซ้อน จึงขอให้ผ่อนคลายกฏระเบียบให้เป็นมาตรฐานอาเซียนหรือ WHO ด้วย เพราะประเด็นนี้จะช่วยการส่งออกยาไปเวียดนาม ส่วนเรื่องน้ำตาล เวียดนามขึ้นภาษีการทำตลาดน้ำตาลไทยในเวียดนามและขึ้นภาษีโดยใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุนโดยโดยคิดภาษีเพิ่มจาก ร้อยละ 5 เพิ่มเป็นทั้งในโควต้าและนอกโควต้าเป็นร้อยละ 51 ขอให้ช่วยพิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้เป็นตามกรอบ WTO เป็นหลัก

สำหรับเป้าหมายส่งออกเวียดนาม ได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค้าระหว่างกันจากปัจจุบัน 20,000 ล้านดอลาร์สหรัฐหรือ 500,000 กว่าล้านบาทเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 750,000 ล้านบาท ในปีนี้ และยังมอบหมายเจ้าหน้าที่อาวุโสทั้ง 2 ประเทศ หารือกันว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีและนำมาหารือร่วมกันในการประชุม JTC ร่วมกันในเดือนสิงหาคมต่อไป

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมส่งเสริมกิจกรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายอาจร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการฉลองโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 นี้ และยินดีกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่เติบโตถึงร้อยละ 2.91 ในปี 2563 รวมทั้งการขยายตัวของการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามที่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 19.93 มีมูลค่ารวมกว่า 6,623.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท นับเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะยังคงเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม


ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือถึงการส่งเสริมการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้า 2 ฝ่ายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านความร่วมมือที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการค้ามากขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในรูปแบบออนไลน์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมการผลิต เพื่อช่วยพัฒนาห่วงโซ่อุปทานภายในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มห่วงโซ่คุณค่าในสินค้าเกษตรที่ทั้งไทยและเวียดนามต่างก็เป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สำคัญของโลก
นอกจากนี้ ไทยได้เน้นย้ำความสำคัญของการอำนวยความสะดวกและลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันเพื่อให้การค้าสองฝ่ายยังคงขยายตัวได้ต่อไปในช่วงที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอให้เวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนจากไทยไปจีน โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลไม้ของไทย ซึ่งในทุกปีจะมีการขนส่งผลไม้ผ่านแดนเวียดนามไปยังจีนจำนวนมาก การลดข้อกำหนดในการขอหนังสือรับรองผลิตภัณฑ์ยาที่ส่งออกจากไทยไปยังเวียดนาม

ทั้งนี้ ในปี 2563 เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในโลก และอันดับที่ 3 ของไทยในอาเซียน รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 16,618.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 517,424.4 ล้านบาท โดยไทยส่งออกไปยังเวียดนาม 11,163.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 346,063.4 ล้านบาท และนำเข้าจากเวียดนาม 5,454.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาท 171,361.04 ล้านบาท สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2564 ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 64 การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 6,623.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 199,523.29 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 19.93 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกมูลค่า 4,314.06 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 129,294.27 ล้านบาท และเป็นการนำเข้ามูลค่า 2,309.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 70,229.02 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปเวียดนาม คือ รถยนต์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากเวียดนาม คือ โทรศัพท์มือถือและอื่นๆเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย