กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเปิดตัวธุรกิจ EGAT EV Business Solution ร่วมกับ RATCH- EGCO ตั้งบริษัทลูกลุยเต็มตัว
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เปิดตัวธุรกิจ EGAT EV Business Solutions ภายใต้ชื่องาน The Next Future Journey EGAT EV Business Solutions” ภายใต้ชื่องาน The Next Future Journey EGAT EV Business Solutions พร้อมลงนามความร่วมมือด้านยานยนต์ไฟฟ้า( EV) ในส่วน EV Charging Station & Platform co creation for Electric Vehicles Project ระหว่าง กฟผ. และพันธมิตรจาก 6 บริษัทรถยนต์ชั้นนำ ได้แก่ Audi, BMW, Mercedes-Benz, MG, Nissan และ Porsche เพื่อให้ความร่วมมือกันในด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้า Application เชื่อมโยงข้อมูล และการส่งเสริมการขาย
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานและในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่าไทยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมอีวีโดยและจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกและรมว.พลังงานเป็นประธานปลายเดือนนี้ที่จะกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนที่ชัดเจนมากขึ้นอีกครั้งจากเดิมกำหนดเป้าหมยปี 2573 จะมีการผลิตรถอีวี 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดหรือคิดเป็นประมาณ 750,000 คัน โดยกรณีที่เอกชนเสนอให้เป็น 50% ก็อาจจะมีความเป็นไปได้เพราะขณะนี้รถอีวีเริ่มมาเร็ว ทั้งนี้อีวีป็นเทรนด์ของโลกโดยคาดการณ์ว่าปี 2568 ราคารถอีวีจะเท่ากับรถยนต์สันดาปและในปี 2040 (ปี 2583) อีวีจะมีมากกว่ารถยนต์สันดาปเพื่อตอบโจทย์การก้าวสู่การปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์เป็นศูนย์(Carbon neutrality)
นายกุลิศกล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เมื่อ 10 มี.ค.64 ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท Egat Innovation Holdings มี กฟผ.ถือหุ้น 40%, บมจ. ราช กรุ๊ป ถือหุ้น 30% และบมจ.ผลิตไฟฟ้ ถือหุ้น 30% เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอีวี แบตเตอรี่ เทคโนโลยี 5G เทรดดิ้งไฟฟ้าซึ่งพร้อมจะเปิดให้พันธมิตรต่างๆเข้ามาร่วมดำเนินการ
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่ากฟผ. กล่าวว่า กฟผ.เปิดตัวธุรกิจใหม่ “EGAT EV Business Solutions” ซึ่งประกอบด้วย 4 ผลิตภัณฑ์และบริการ ได้แก่
- สถานีอัดประจุไฟฟ้า “EleX by EGAT” ที่ชาร์จไฟได้รวดเร็วซึ่ง กฟผ. ติดตั้งไปแล้ว 13 สถานี และตั้งเป้าหมายที่จะติดตั้งเพิ่มเป็น 48 สถานี ภายในสิ้นปี 2564 โดยเน้นขยายสถานีไปตามเส้นทางการเดินทางหลักทั่วประเทศ
- Mobile Application Platform “EleXA” เป็นแอปพลิเคชันช่วยผู้ใช้รถ EV ตั้งแต่การค้นหา จองชาร์จ และจ่ายเงิน ซึ่ง กฟผ. มุ่งพัฒนาให้เชื่อมโยง ทั้งลูกค้า ร้านค้า ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้สถานีของ กฟผ. ซึ่งทั้งสถานีชาร์จฯ และแอปลิเคชันจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส2ปีนี้ทันที
- ตู้อัดประจุไฟฟ้า “EGAT Wallbox และ EGAT DC Quick Charger” เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกแก่ผู้ใช้งานรถ EV โดย EGAT Wallbox เป็น Home Charger ที่เล็กกะทัดรัด สวยงาม โดย กฟผ. ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายเพียงรายเดียวในไทย ปัจจุบัน กฟผ. ได้พัฒนาตู้อัดประจุไฟฟ้า EGAT DC Quick Charger ขนาด 120 kW ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้ โดย กฟผ. จะนำผลิตภัณฑ์นี้ออกใช้งานในเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 3 ปีนี้
4.ระบบบริหารจัดการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “BackEN หรือ Backend EGAT Network Operator Platform” ที่จะเชื่อมโยงระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด เข้าด้วยกันที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม.ทั้งหมดนี้ พร้อมให้บริการประชาชนทุกคนในปี 2564 นี้อย่างแน่นอน
ล่าสุด กฟผ.ได้จับมือกับบมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG ในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าโดยจะเปิดนำร่องที่สถานีบริการน้ำมัน PT สาขาปากช่อง 3 จ.นครราชสีมา และยังเปิดรับพันธมิตรทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนอีวี โดยขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าชมข้อมูลธุรกิจเพิ่มเติม ได้ที่ www.elexaev.com
นายวฤต รัตนชื่น ผู้อำนวยการฝ่ายแผนยุทธศาสตร์ กฟผ.กล่าวว่า ค่าบริการชาร์จไฟรถอีวีเบื้องต้นกฟผ.ที่ร่วมกับเอกชนเฉลี่ยอยู่ที่ 7 บาทต่อหน่วย โดยขณะนี้กำลังพิจารณาจะจัดโปรโมชั่นในเดือนเมษายนนี้ให้ราคาค่าบริการชาร์จไฟสำหรับรถอีวีไม่เกิน 1 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป้าหมายค่าไฟฟ้าอีวีจะต้องถูกกว่าน้ำมัน2/3ส่วนเช่นถ้าต้นทุนน้ำมัน 2บาท/กม.ค่าไฟฟ้าอีวีจะอยู่ที่1.30-1.40บาท/หน่วย.-สำนักข่าวไทย