โควิดไม่กระทบส่งออกสินค้าสัตว์น้ำไทย

กรุงเทพฯ  5 ม.ค. – ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ยืนยันสินค้าสัตว์น้ำยังไม่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ สั่งกรมประมงตรวจสอบข่าวการติดเชื้อของแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำใน จ.สมทุรสาคร  

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงผลการตรวจเชิงรุกโรงงานทูน่ากระป๋องแห่งหนึ่ง จ.สมุทรสาครวานนี้ (4 ม.ค.) โดยระบุว่ายังไม่ทราบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมอบหมายให้กรมประมงตรวจสอบและรายงานมาด่วนที่สุด

ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร เป็นศูนย์กลางการผลิตทูน่ากระป๋องและแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำ ทางทูตเกษตรในประเทศต่าง ๆ รายงานว่าประเทศคู่ค้าสำคัญยังมั่นใจมาตรฐานการผลิตสินค้าสัตว์น้ำของไทย ขณะนี้จึงยังไม่เกิดผลกระทบต่อการส่งออก

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกประชุมทุกภาคส่วนซึ่งมีหน้าที่ดูแลมาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงรับผิดชอบมาตรฐานและความปลอดภัยของวัตถุดิบที่ส่งเข้าโรงงาน ส่วนการดูแลสถานประกอบการเป็นหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านสวัสดิภาพแรงงานอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม และด้านมาตรฐานการผลิตสินค้าแปรรูปดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข โดยนายจุรินทร์ให้ร่วมหาแนวทางการดำเนินงานออกเอกสารรับรองปลอดโควิด- 19 แก่ผู้ประกอบการโรงงาน เสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

ทั้งนี้ มีการประชุมอีกครั้ง โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ และภาคผู้ส่งออกสินค้าเกษตรต่าง ๆ ที่ประชุมเสนอแนวทางการรับรองแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ ผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และแรงงาน โดยกรมประมงรับรองมาตรฐาน GAP แหล่งผลิต โดยสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยและสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทยในการคัดเลือกวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานสากลเข้าสู่โรงงาน ส่วนการรับรองผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ใช้มาตรฐานการรับรองเดิมที่ปฏิบัติอยู่ เช่น GMP HACCP ISO เป็นต้น และเพิ่มการจัดทำ COVID – 19 Preventive measure โดยให้หน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละกลุ่มสินค้าเป็นผู้ให้การรับรอง ในส่วนของการรับรองแรงงานนั้น ที่ประชุมเสนอให้มีการรับรองการปลอดเชื้อของแรงงานในโรงงานตามพื้นที่ที่ปลอดเชื้อโควิด-19 (Safe zone) โดยให้กรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัดเป็นหน่วยงานให้การรับรอง

ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กำลังเร่งทำหนังสือแจ้งไปยังโรงงานอุตสาหกรรมให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของ ศบค. ได้แก่ ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิทุกทางเข้า-ออก หากพบว่ามีไข้สูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเชียส ให้กลับบ้านเพื่อเฝ้าระวังตนเอง เป็นเวลา 14 วัน ติดป้ายแสดงตนตลอดเวลาปฏิบัติงาน งานที่สามารถปฏิบัติที่บ้านได้ ให้ทำ WFH ส่วนที่ต้องทำในสถานที่ทำงาน ให้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีคุณภาพและทำความสะอาดพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคารสม่ำเสมอ จัดให้มีแอลกอฮอล์เจล อ่างล้างมือ สบู่ล้างมือให้เพียงพอ ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และจัดให้มีระยะห่างในการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลเรื่องความปลอดภัยจากการปฏิบัติงานในโรงงาน รวมถึงมาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนด้านสุขอนามัยอยู่ความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับการดูแลแรงงานเป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงาน.-สำนักข่าวไทย