บีบีจีไอคาดเข้าสู่กระบวนการกระจายหุ้นปี 64
กรุงเทพฯ 17 พ.ย.-บีบีจีไอ แต่งตัวเตรียมกระจายหุ้นปี 64 ล่าสุด ขยายธุรกิจสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ลงทุนใน Manus Bio Inc. ผู้นำธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพระดับโลก ตามแผนบริษัทแม่ “บางจากฯ” สร้างรายได้จากธุรกิจสีเขียวครึ่งหนึ่งในปลายปี 64
นายกิตติพงศ์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (บีบีจีไอ) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะเริ่มขบวนการกระจายหุ้น เพื่อการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก IPO ใน ปี 2564 หลังจากที่ช่วงต้นปี 64 จะดำเนินการออกหุ้นกู้ ราว 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการนำมาลงทุน ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (high value bio-based products) ที่ ล่าสุด บีบีจีไอ และ Manus Bio Inc. (Manus Bio) ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง (high value bio-based products)ในสหรัฐ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ด้วยเทคโนโลยีชีวนวัตกรรมจากกระบวนการหมักขั้นสูง (advanced bio-fermentation) ประกาศตั้งบริษัทร่วมทุน “WIN Ingredients” เพื่อดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ สำหรับการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง หลังจากบีบีจีไอ เข้าร่วมเป็น ผู้ถือหุ้นหลัก หรือ Lead Investor ใน Manus Bio จากการระดมทุน Series B ของ Manus Bio ด้วยเงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท
“WIN Ingredients จะเริ่มธุรกิจด้วยการนำเข้าสารให้ความหวาน “ หญ้าหวาน คุณสมบัติพิเศษ” จาก ใน Manus Bio เข้ามาจำหน่ายและ เตรียมตั้งโรงงาน Synthetic Biology เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์แบบ Multi-Products แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถผลิตธุรกิจชีวภาพต่างๆหลากหลาย เช่น สารให้ความหวานจากธรรมชาติ สารปรุงแต่งสี กลิ่น รสจากธรรมชาติ วัตถุดิบชีวภาพสำหรับใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง รวมถึงวัตถุดิบชีวภาพสำหรับใช้ในการผลิตยาหรือชีวเภสัชภัณฑ์ ฯลฯ” นายกิตติพงศ์ กล่าว
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับ Manus Bio เป็นการแต่งตัวของ บีบีจีไอให้น่าสนใจก่อนกระจายหุ้น ซึ่งในปี 2564 บริษัทมีรายยได้กว่า 1.2 หมื่นล้านบาท จากการจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล ที่ ปัจจุบันมีกำลังผลิต 6 แสนลิตร/วัน และ 1 ล้านลิตร/วันตามลำดับ โดยในปี 64 วางแผนจะขยายกำลังผลิตเอทานอลเป็น 8 แสนลิตร/วันด้วยเงินลงทุนราว 1 พันล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบางจากฯ ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสีเขียวเพื่อสังคมและความยั่งยืน และการลงทุนใน Manus Bio ที่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ไม่ใช่เพียงของกลุ่มบางจากฯ แต่เป็นของประเทศไทยที่ได้เข้าสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงด้วยกลุ่มธุรกิจผู้นำนวัตกรรมสีเขียวเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ผ่าน Bio Economy ที่ประเทศไทยมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ และตอบโจทย์การเพิ่มความหลากหลายในการทำธุรกิจ สร้างสมดุลระหว่างธุรกิจประเภทต่างๆ และที่สำคัญคือตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
“ในปลายปี 2564 หลังจากร่วมทุนใน Manus Bio กลุ่มบางจากฯ จะมีรายได้ธุรกิจสีเขียว ราว ร้อยละ 40-50 จากที่ขณะนี้มีราว ร้อยละ 25-30 และยังเดินหน้าลงทุนธุรกิจสีเขียวเพิ่มเติมอีก ตามเป้าหมายกลุ่มบางจากจะเป็น ZERO CARBON ในปี 2573 “นายชัยวัฒน์ กล่าว –สำนักข่าวไทย-