คมนาคมเผยข้อมูล 35 จุดอันตราย จุดตัดรถไฟ-ถนน

กรุงเทพฯ  2 ต.ค. – กระทรวงคมนาคม เผยข้อมูลจุดตัดรถไฟกับถนนที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก 34 แห่งทั่วไทย รวมกับจุดตัดใกล้สถานีคลองแขวงกลั่นที่รถบัสกฐินประสบอุบัติเหตุถูกรถไฟพุ่งชนดับ 19 ศพ โดยจัดงบ กปถ. 29.5 ล้าน ศึกษาแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมานายชยธรรม พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เรียกผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมการขนส่งทางราง หารือจากปัญหาอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถบัสกฐินบริเวณจุดตัดใกล้สถานีคลองแขวงกลั่น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม และโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังอุบัติเหตุทำให้เกิดการสูญเสียเมื่อวานที่ผ่านมา เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมสั่งให้ รฟท.เร่งเยียวยาผู้ประสบเหตุเต็มที่ ขณะนี้มียอดเสียชีวิตรวม 19 ราย บาดเจ็บ 44 ราย ส่วนการตรวจสอบเยียวยาตามกฎหมายและการประกันภัยนั้น พบว่ารถที่ประสบเหตุทำประกันภัยภาคบังคับกับบริษัท อาคเนย์ ประกันภัย ซึ่งผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยตามกรมธรรม์คนละ 500,000 บาท บาดเจ็บจะได้รับเงินชดเชยคนละ 80,000 บาท นอกจากนี้ รถคันดังกล่าวยังมีประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 3 ซึ่งจะให้ความคุ้มครองผู้เสียชีวิตอีกคนละ 500,000 บาท รวมไม่เกิน 10 ล้านบาท


ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาจุดตัดรถไฟกับถนนโดยเฉพาะจุดเกิดเหตุดังกล่าว ล่าสุดกระทรวงคมนาคมสั่งการให้ รฟท.ประสานขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) วงเงิน 4-5 ล้านบาท เพื่อทำการก่อสร้างเครื่องกั้นในจุดเกิดอุบัติเหตุนี้ รวมทั้งเร่งซ่อมระบบสัญญาณไฟเตือนรถที่จะข้ามให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้สั่งการให้ รฟท.เร่งทำการสำรวจจุดตัดรถไฟกับถนนทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นจุดตัดที่อยู่บนถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยข้อมูลกรมการขนส่งทางรางเบื้องต้นมี 621 แห่ง อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคม ต้องการให้ รฟท.ทำการสำรวจจำนวนล่าสุดอีกครั้ง รวมถึงลักษณะกายภาพของจุดตัดต่าง ๆ ด้วย

วันนี้ข้อมูลของ รฟท.และกรมการขนส่งทางรางยังระบุถึงข้อมูลจุดตัดรถไฟกับถนนที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หรือ Black Spot ซึ่งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างปี 2558-2562 จำนวน 34 จุด และเมื่อรวมกับจุดตัดที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อวานที่ผ่านมาจะมี 35 จุด การแก้ไขปัญหาจุดตัดดังกล่าวกระทรวงคมนาคมขอให้มีการจัดสรรงบประมาณจาก กปถ.เช่นกันวงเงิน 29.5 ล้านบาท เพื่อศึกษาปัญหาทางกายภาพและแนวทางแก้ไขปัญหา เนื่องจากพบว่าทั้ง 35 แห่ง 9 แห่งเป็นจุดตัดที่มีเครื่องกั้นแล้ว แต่ยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแม้บางจุดจะมีเครื่องกั้น แต่หากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยก็ยังจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้อยู่ดี โดยแนวทางแก้ปัญหานั้น จะไปศึกษารายละเอียดว่าหากจุดตัดใดแม้จะมีเครื่องกั้นแล้ว แต่ไม่ปลอดภัยจำเป็นต้องปิดทำรั้วกั้นก็ให้ดำเนินการ จุดตัดใดจำเป็นแก่ผู้ใช้ทางและจะต้องก่อสร้างสะพานข้ามก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการด่วน

รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาปัญหาจุดตัดรถไฟกับถนนได้มีการแก้ไขตั้งแต่ปี 2557 โดยจุดตัดที่อยู่ในเขตถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการแก้ไขไปแล้ว ส่วนจุดตัดถนนกับรถไฟที่อยู่ในถนนของ อปท. แนวทางในอนาคตก็จะต้องให้ อปท.ทำเรื่องเสนอความต้องการทำเครื่องกั้น โดยขอข้อมูลทางวิชาการจาก รฟท.เสนอผ่านจังหวัด เพื่อขอจัดสรรงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกระบุถึงรถเกิดอุบัติเหตุจังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวานนี้ รถคันดังกล่าวกรมฯ พบว่ามีการจดทะเบียนเป็นรถ 42 ที่นั่ง แต่มีการโดยสารถึง 62 คน แน่นอนว่าจะต้องมีผู้โดยสารยืนสุ่มเสี่ยงเกิดอันตรายมากขึ้นหากรถประสบอุบัติเหตุ รวมทั้งรถคันดังกล่าวขาดต่อทะเบียนภาษีประจำปีตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยกรมฯ ได้ดำเนินการสั่งปรับผู้ประกอบการรายนี้ในฐานความผิดดังกล่าว จำนวน 50,000 บาทไปแล้ว ไม่รวมฐานความผิดอื่น ๆ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]