กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – 2 กรมฯ เสริมความรู้ผู้ประกอบการไทย เตรียมแผนบุกเจาะตลาดจีน ใช้กรอบอาเซียน-จีนทำตลาด มั่นใจหลังคุมโควิดได้ดี เล็งมณฑลไห่หนาน และอีกหลายเมือง ขยายตลาดสินค้าไทย
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตลอด “หนึ่งทศวรรษ เอฟทีเอ อาเซียน-จีน โดยก้าวต่อไปของเอกชนไทยในแดนมังกร” ซึ่งการทำงานร่วมกันทั้งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาถือว่าได้ทำงานควบคู่ไปด้วยกัน เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถมีโอกาสเข้าถึงตลาดจีนอย่างเต็มที่ ซึ่งตลาดจีนถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่มีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น และขณะนี้จีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ขณะที่ประเทศอื่นยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น การจัดสัมมนาครั้งนี้เตรียมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการไทยทราบถึงทิศทางที่กรมจะขับเคลื่อนใน 5 เรื่องสำคัญ เริ่มจากการเร่งสร้างหุ้นส่วนพันธมิตรกับมณฑลไห่หนาน เร่งผลักดันความร่วมมือเชิงลึกกับมณฑลสำคัญ และอื่น ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมฯ เห็นว่ารัฐบาลจีนมีนโยบายผลักดันมณฑลไห่หนานเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือการค้าเสรีระดับโลก การร่วมเป็นพันธมิตรกับมณฑลไห่หนานเชิงลึกจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร เศรษฐกิจทางทะเล การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่น ๆ การดำเนินงานครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยที่จะจัดคณะร่วมเดินทางไปเจรจาธุรกิจ คาดว่าปลายปีหน้าจะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม และนอกจากสร้างหุ้นส่วนพันธมิตรทางการค้าแล้ว กรมฯ ยังคงมอบให้สำนักงานในต่างประเทศจัดกิจกรรมตลาดเมืองรองในจีน ซึ่งปีนี้มีกิจกรรมส่งเสริมการขายผลไม้ไทยทั่วจีน ภายใต้กิจกรรม Thai fruits golden months ควบคู่กับการส่งเสริมการขายสินค้าศักยภาพอื่น ๆ ในห้างสรรพสินค้าของเมืองรอง
นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการได้ทดลองและแสวงหาโอกาสจากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศจีน ซึ่งเดือนพฤศจิกายนมีงานแสดงสินค้านานาชาติใหญ่ที่สุดของจีน เช่น งานแสดงสินค้านำเข้าจีน (CIIE) นครเซี่ยงไฮ้ และงานแสดงสินค้าอาเซียน-จีน (CAEXPO) นครหนานหนิง ซึ่งทั้ง 2งาน กรมได้เตรียมจัดนิทรรศการแสดงศักยภาพสินค้าไทยภายใต้คอนเซ็ป “คิดถึงความปลอดภัยและrefinement คิดถึงประเทศไทย” ซึ่งในกิจกรรมช่วงวิกฤติโควิดจะผลักดันตลาดสินค้าและบริการยุคนิวนอร์มอล (New normal) โดยเน้นย้ำกลุ่มสินค้าด้านอาหารปลอดภัยและอาหารเพื่อสุขภาพ (Food Safety & Functional Food) กลุ่มสินค้าเกษตร ผ่านกิจกรรม sourcing และจับคู่การค้าออนไลน์ รวมทั้งเจาะตลาดผ่านการค้าออนไลน์ ทั้งแพลตฟอร์มพันธมิตร การเจรจาธุรกิจแบบออนไลน์ รวมทั้งใช้ KOL ในการแนะนำสินค้าไทย และช่วงต้นเดือนตุลาคมจะมีการประชุมกับทูตพาณิชย์ เพื่อจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการ พร้อมรับมอบนโยบายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พิจารณาแผนงานต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ตลาดจีนมีความสำคัญต่อไทยในฐานะเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ติดต่อกันมา 8 ปี การค้าเฉลี่ยในช่วง 5 ปี มูลค่า 72,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการใช้มาตรการปกป้องทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การค้าระหว่างไทยและจีนยังเติบโต ทั้งนี้ ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน หรือ ACFTA ครอบคลุมทั้งเรื่องสินค้า บริการ และการลงทุน โดยปัจจุบันไทยและจีนมีการลดภาษีลงเหลือ 0 ภายใต้ความตกลงนี้แล้วกว่าร้อยละ 95 ของรายการสินค้าทั้งหมด และปี 2563 เป็นปีที่มีความสำคัญต่อไทยและจีน ในโอกาสการครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีนและยังถือเป็นปีที่ความตกลง ACFTA มีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบมาครบ 10 ปีด้วย
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปีของความตกลง ACFTA แล้ว กรมฯ ตั้งใจให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะบุกตลาดจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีกำหนดจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China International Import Expo หรือ CIIE ที่เซี่ยงไฮ้และงาน China-ASEAN Expo หรือ “คาเอ็กซ์โป” ที่หนานหนิง ในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ไปร่วมงานหรือเข้าสู่ตลาดจีนอย่างมีข้อมูลรอบด้านครบมือ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความตกลง ACFTA ทั้งข้อมูลอัตราภาษี การได้ถิ่นกำเนิดสินค้า รวมถึงข้อมูลภาพรวมของจีน ศักยภาพ โอกาส ความท้าทาย และเทคนิคการทำการค้าออนไลน์ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการค้าและเพิ่มโอกาสสินค้าไทยในตลาดจีนให้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย
