คปภ.เร่งเพิ่มภูมิคุ้มกันเอสเอ็มอี

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – คปภ.ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เร่งเพิ่มภูมิคุ้มกันความเสี่ยงภัยด้วยระบบประกันภัย


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา “ประกันภัยถูกทางสร้างเกราะให้ SME” เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสัญญาประกันภัยและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้แทนจากสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ส่วนภูมิภาคและเอสเอ็มอีกว่า 150 คน เข้าร่วมสัมมนา

นายสุทธิพล กล่าวว่า เอสเอ็มอีจัดเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความเปราะบางต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่มีสายป่านธุรกิจที่ยาว จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมในการเพิ่มความคุ้มกันจากความเสี่ยงภัย และเนื่องจากสัญญาประกันภัยมีความคุ้มครองที่หลากหลาย โดยเฉพาะกรมธรรม์ประกันภัยที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้กับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อจะได้เลือกใช้เครื่องมือในการจัดการกับความเสี่ยงภัยได้อย่างเหมาะสม ได้แก่ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยความเสี่ยงภัยต่อทรัพย์สิน ประกันภัยการสูญเสียรายได้และค่าใช้จ่ายคงที่ระหว่างธุรกิจหยุดชะงัก ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ การประกันภัยผู้โดยสารเรือสำหรับโดยสาร ซึ่งเป็นประกันภัยภาคบังคับ ฯลฯ


“ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับเอสเอ็มอี โดยการทำประกันภัยบางกรณีก็เป็นภาคบังคับเนื่องจากกฎหมายบังคับให้ทำ หากไม่ทำจะมีโทษปรับเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เอสเอ็มอีจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของการประกันภัยที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง เพื่อจะได้ปฏิบัติตนได้ถูกต้องโดยไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย และสามารถใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยในการช่วยบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นแก่ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง