KTBST ประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 2563 ที่ 1,725 จุด

กรุงเทพ ฯ 25 ธ.ค. –  KTBST ประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 2563 ที่ 1,725 จุด รับผลบวกจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่น่าจะคลี่คลาย ให้น้ำหนักเน้นหุ้นสหรัฐ-ยุโรป  กองรีท พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ตั้ง KTBST Holding เพื่อขยายธุรกิจมุ่งเป้าเป็นสถาบันการเงินที่ครบวงจรของประเทศ พร้อมนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2563 


 นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)  กล่าวว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในปี 2563  จะฟื้นตัวตั้งแต่ครึ่งปีแรกเป็นต้นไป เนื่องจากรับปัจจัยบวกที่สหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้บางส่วน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นในไตรมาสที่ 2 อีกทั้งธนาคารกลางทั่วโลก จะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยและกำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้นตัวได้ในครั้งปีหลัง  โดยให้เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 2563 ที่ 1,725 จุด  หรืออาจจะถึง 1,800 จุด  หากข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนจบลงได้ดีกว่าที่คาด และการเมืองในประเทศสงบด้วยดี ส่วนกรอบการเคลื่อนไหว ต่ำสุด-สูงสุด ของดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 1,588-1,787 จุด ส่วนประมาณการกำไรปี 2563 อยู่ที่ 980,000 ล้านบาท ขยายตัว 8.2% โดยมีค่า EPS เฉลี่ยอยู่ที่ 94.8 บาท และปี 2564 คาดกำไรอยู่ที่ 1.08 ล้านล้านบาท ขยายตัว 10.5%  และคิดเป็น EPS เฉลี่ยที่ระดับ 103.6 บาท ทั้งสองปีจะเป็นการขยายตัวมาจากฐานที่ต่ำและผลกระทบจากสงครามการค้าที่คลี่คลายลง  

สำหรับหุ้นเด่นในปี 2563 ที่คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดีในปี 2563 และในไตรมาสที่ 1 ได้แก่ 1.) กลุ่มที่ผลการดำเนินงานยังเติบโตดีต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มสัมปทานภาครัฐ สินเชื่อรายย่อย หรือหุ้นที่มีการลงทุนใหม่ ๆ ได้แก่ BCH, CBG, GUNKUL, PRM, SPALI, BGC,  MTC, SAWAD, OSP , BDMS, และ JMT 2.) กลุ่มที่ราคาหุ้นหรือผลประกอบการอ่อนตัวลงมามากในปี 2019  อาทิ น้ำมัน , ปิโตรเคมี , ส่งออก , โรงแรม เช่น ERW, BCP, CPF, TKN , IRPC, PTTEP และ HANA ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า เช่น GULF, BGRIM, GPSC  คาดว่าปีทองได้ผ่านไปตั้งแต่ปี 2562 แล้ว  


นายชาตรี โรจนอาภา กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์  KTBST SEC เปิดเผยว่า ในปี 2563 คาดว่าภาพการลงทุนมีความผันผวนที่ต่ำลงจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในอดีตพบว่าในช่วงการเลือกตั้งจะเกิด “Election rally” คือ ตลาดหุ้นทั่วโลกให้ผลตอบแทนเป็นบวก โดยตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาจะให้ผลตอบแทนในช่วงปีที่มีการเลือกตั้งมากกว่าตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก 2. รูปแบบการกระตุ้นเศรษฐกิจเปลี่ยนจากนโยบายทางการเงิน มาสู่นโยบายทางการคลังในการป้องกันการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะการลดภาษีนิติบุคคล ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี 3. สถานการณ์สงครามการค้าเบนเข็มสู่ยุโรป หากนายโดนัลด์ ทรัมป์สามารถชนะการเลือกตั้งได้ จะหันกลับมาทำสงครามทางการค้ากับยุโรปเพื่อชดเชยการขาดดุลทางการค้า 

ด้านมุมมองดอกเบี้ยคาดว่าปีหน้าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการลดดอกเบี้ยได้อีก 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้เศรษฐกิจ เช่นเดียวกับธนาคารแห่งประเทศไทยในการปรับลดลงอีกครั้งให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยโลก โดยยังให้คำแนะนำเน้นลงทุนในตราสารทุนมากกว่าตราสารหนี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรปมากกว่าตลาดกำลังพัฒนา เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสนำเครื่องมือการคลังมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจตลอดจนเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง รวมทั้งพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสามารถสร้างผลประกอบการได้ดีกว่ากลุ่มตลาดเกิดใหม่ สำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานจากอัตราเงินปันผลที่สูง ประกอบกับเงื่อนไขของกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่จะเริ่มต้นในปีหน้าเปิดให้ลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้อย่างเสรีจึงเป็นโอกาสให้กองทุนเพื่อการออมลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น


นายวิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานตั้งแต่ ม.ค.-พ.ย. 2562 อยู่ที่ 1,092 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 44 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจาก 2 ส่วน คือ ค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์42% และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริการอื่น ๆ 38% ขณะที่รายได้กลุ่มบริษัท KTBST 1,104 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าในปี 2563 จะมีรายได้ 1,400 ล้านบาท กำไรสุทธิ 101.55 ล้านบาท หรือเติบโต 26.3 %  โดยในปีหน้า บริษัทในเครือ คือ บริษัท เคทีบีเอสที รีท แมเนจเมนท์ (KTBST REIT)  เดินหน้าจัดตั้งกองรีท 2 กองทุน มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท มีทั้งสินทรัพย์ที่เป็นกลุ่มโกดังสินค้าหรือโรงงาน , โรงแรมที่พักและสำนักงานกับพื้นที่ค้าปลีก และตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ในปี 2563 เป็น 10,000 ล้านบาท  จากแนวโน้มของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน ขณะเดียวกันจะมีการจัดตั้งบริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)”  (KTBST Holding) ขึ้น เพื่อขยายธุรกิจ ให้ KTBST Holding เป็นสถาบันการเงินครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการจัดตั้งบริษัท KTBST Lend  บริษัทปล่อยสินเชื่อในลักษณะคลินิกแก้หนี้ให้กับองค์กร และพนักงาน เพื่อนำไปแก้หนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง พร้อมทั้งให้คำปรึกษา และแนะนำการลงทุนเพื่อลดหนี้เพิ่มการออม พร้อมกันนี้จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2563 ด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง