ธ.ก.ส. ครบรอบ 52 ปี ชูยุทธศาสตร์เกษตรยั่งยืน พัฒนาเกษตรกร ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม

กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – ธ.ก.ส.ครบรอบ 52 ปี เส้นทางสู่ความยั่งยืน นำยุทธศาสตร์ชาติ พัฒนาภาคการเกษตร มุ่งพัฒนาเกษตรกร ชุมชนและสังคม ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม  โดยสนับสนุนระบบสหกรณ์ และ SMAEs  เป็นหัวขบวนในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และเสริมช่องทางการตลาดทุกรูปแบบ   


นายอภิรมย์  สุขประเสริฐ  ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า  ในโอกาสครบรอบ 52 ปี ธ.ก.ส.  มุ่งเน้นการนำนโยบายเกษตรยั่งยืน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ มาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาเกษตรกรและภาคการเกษตรเพื่อสร้างความยั่งยืน  ประกอบด้วยการทำเกษตรกรรม 5 รูปแบบ คือ เกษตรทฤษฎีใหม่ วนเกษตร เกษตรผสมผสาน เกษตรธรรมชาติ และเกษตรอินทรีย์ เป้าหมายพื้นที่ 5 ล้านไร่  โดยเฉพาะด้านเกษตรอินทรีย์ ธ.ก.ส. มีเป้าหมายชุมชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 600 ชุมชน และขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 60,000 ไร่ ภายในปี 2563 ธนาคารได้จัดเตรียมโครงการสินเชื่อส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Credit ) วงเงิน 5,000 ล้านบาท และสินเชื่อชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตเพื่อพัฒนาอาชีพของผู้มีรายได้น้อย (XYZ) วงเงิน 2,000 ล้านบาท รองรับ โดยดำเนินการร่วมกับภาครัฐและเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศจัดทำงานโครงการอาหารปลอดภัย และการสร้างชุมชนเกษตรอินทรีย์อย่างน้อย จังหวัดละ 1 ชุมชน เพื่อสนับสนุนให้มีการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและมีมาตรฐานรองรับ เริ่มจากชุมชนที่มีการพัฒนาการผลิตในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วจำนวน 250 แห่ง  ให้ได้รับการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ครบทุกชุมชน ใช้ระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Participatory Guarantee System : PGS)  ตามหลักการและมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งสนับสนุนชุมชนอื่นๆที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ  


ทั้งนี้ ชุมชนเกษตรอินทรีย์ทั้ง 77 จังหวัด จะต้องมีกระบวนการผลิตที่ดี มีมาตรฐาน ทั้งระบบโรงเรือน ระบบน้ำ ระบบควบคุม รวมถึงโรงบรรจุหีบห่อ มีกระบวนการตรวจสอบเพื่อรับรองคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย โดย ธ.ก.ส. จะร่วมกับเครือข่ายประชารัฐสนับสนุนด้านการเพิ่มช่องทางตลาด ออนไลน์ รวมถึงตลาด โมเดิร์นเทรด ตลาดนัดของดีวิถีชุมชน ร้านค้า A-Shop เป็นต้น เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าคุณภาพ อาหารปลอดภัยจากชุมชนไปสู่ผู้บริโภค 

ด้านวนเกษตรและสิ่งแวดล้อม ธ.ก.ส พร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกต้นไม้ตามแนวทาง ป่า  3อย่าง ประโยชน์  4 อย่าง โดยชุมชนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อน  ภายใต้โครงการธนาคารต้นไม้เชื่อมโยงไปสู่โครงการชุมชนไม้มีค่าตามนโยบายของรัฐบาล การปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองและของชุมชน อันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในที่ดิน เปรียบเสมือนการออมทรัพย์หรือการลงทุนในระยะยาว เมื่อต้องใช้เงินทุนก็สามารถนำต้นไม้ที่ปลูกบนที่ดินตนเองมาเป็นหลักประกันเงินกู้ได้  จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน และยังช่วยเพิ่มพื้นที่ป่า อันนำไปสู่การสร้างความมั่นคงด้านีเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีชุมชนที่ร่วมปลูกต้นไม้กับ ธ.ก.ส. ตามโครงการธนาคารต้นไม้จำนวน 6,804 ชุมชน มีสมาชิก 115,217 ราย มีจำนวนต้นไม้ที่ปลูกเพิ่มขึ้นในประเทศกว่า 11.7   ล้านต้น

ในส่วนของความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ  มุ่งเน้นการบริหารจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรที่มีภาระหนัก  ผ่านมาตรการขยายระยะเวลาการชำระหนี้  การสนับสนุนการปฏิรูปภาคการเกษตรร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น  การปรับเปลี่ยนการผลิต  การรวมกลุ่มเพื่อร่วมกันผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  การรวบรวมและใช้กระบวนการสหกรณ์ เป็นหัวขบวน ในการขับเคลื่อนภายใต้หลักตลาดนำการผลิต และการนำรูปแบบ Project based  มาสร้างอาชีพและมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่ ควบคู่การสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการส่งเสริมเงินออม การให้ความรู้  การสร้างเครือข่าย และสร้างทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่  


นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติอีก 7 แผนงาน ซึ่งผลการดำเนินงาน  ณ 30 กันยายน 2561 มีดังนี้  1) แผนงานพัฒนาและยกระดับเกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ   ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท ต่อปี จำนวน 599,066 ราย สามารถยกระดับรายได้ให้เกิน 20,000 บาท ได้จำนวน 146,305 ราย คิดเป็น 24.42%  และผู้มีรายได้ระหว่าง 20,001-30,000 บาทต่อปี จำนวน 284,518 ราย สามารถยกระดับรายได้ให้เกิน 30,000 บาท ต่อปี จำนวน 74,395 ราย คิดเป็น 26.15%  ด้านการออมของผู้ที่ประสงค์พัฒนาตนเอง 2.76 ล้านราย ธ.ก.ส.ได้เข้าไปสนับสนุนให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้มีเงินออมเพิ่มขึ้น จำนวน 1,636.14 ล้านบาท เฉลี่ยมีเงินฝากเพิ่มขึ้นรายละ 591 บาท  2) แผนงานพัฒนาและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร  โดยมีเป้าหมายเกษตรกรและทายาทเข้ารับการอบรม เพื่อพัฒนาสู่การเป็น Smart Farmer จำนวน 8,000 ราย  และการยกระดับสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการSME เกษตร เพื่อเป็นหัวขบวนในการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต การสร้างงานและรายได้  รวมทั้งสิ้น 7,490 ราย  3) แผนงานเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์การเกษตรโครงการตลาดประชารัฐ  โดยมอบหมายให้สาขาในพื้นที่ดำเนินการจัดตลาดประชารัฐรวม 280 แห่ง มียอดขายสะสมในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา  จำนวน 81.85 ล้านบาท  4) โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561  มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 1,917,460 ราย พื้นที่ 27.5 ล้านไร่  โดยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยที่เข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 13,916 ราย พื้นที่จ่ายค่าสินไหมทดแทน 122,154.62 ไร่ เป็นจำนวนเงิน 153.9 ล้านบาท  5) แผนงานสร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร (โครงการเงินออมกองทุนทวีสุข) มีจำนวนสมาชิกสะสมทั้งสิ้น 1,516,567 ราย 6) แผนงานพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรให้เป็นเครือข่ายทางการเงิน  จำนวน 1,200 แห่ง  7) แผนงานพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอุดมสุข  มีชุมชนเป้าหมายที่จะยกระดับสู่ชุมชนอุดมสุข 800 ชุมชน ผ่านเกณฑ์ประเมินครั้งที่ 1 จำนวน 428 ชุมชนอยู่ระหว่างการนำแผนสู่การปฏิบัติ และพัฒนาเพื่อประเมินการผ่านเกณฑ์ในครั้งที่ 2 ต่อไป

ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวด้วยว่า ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีบัญชี 2561 ธ.ก.ส. (1 เมษายน 2561-31 มีนาคม 2562) ธนาคารปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 300,000 กว่าล้านบาท ตั้งเป้าสินเชื่อหมุนเวียนที่ 7.5 แสนล้านบาท ทั้งปีคาดสินเชื่อโตร้อยละ 4 โดยปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.36 ล้านล้านบาท

สำหรับแผนงานพัฒนาและยกระดับเกษตรกรผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท ต่อปี จำนวน 599,066 ราย สามารถยกระดับรายได้ให้เกิน 20,000 บาท ได้จำนวน 146,305 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.42  และผู้มีรายได้ระหว่าง 20,001-30,000 บาทต่อปี จำนวน 284,518 ราย สามารถยกระดับรายได้ให้เกิน 30,000 บาท ต่อปี จำนวน 74,395 ราย คิดเป็น ร้อยละ 26.15  ด้านการออมของผู้ที่ประสงค์พัฒนาตนเอง 2.76 ล้านราย ธ.ก.ส.ได้เข้าไปสนับสนุนให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้มีเงินออมเพิ่มขึ้น จำนวน 1,636.14 ล้านบาท เฉลี่ยมีเงินฝากเพิ่มขึ้นรายละ 591 บาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย