กรุงเทพ 27 ต.ค.-กรมปศุสัตว์ กำหนดแผนระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศภายในปี
2562 เร่งรัดฉีดวัคซีนสุนัข-แมวรอบจุด เฝ้าระวังพื้นที่จุดเกิดโรคอย่างน้อย 6
เดือน เร่งรัดทำหมันควบคุมประชากรสุนัขแมวจรจัด หันมาผลิตวัคซีนภายในประเทศแก้ไขปัญหาวัคซีนขาดแคลน
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า งบประมาณปี 62
กรมปศุสัตว์กำหนดให้เป็นปีแห่งการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าเชิงคุณภาพและมีประสิทธิภาพ
ตั้งเป้าหมายต้องไม่พบโรคในสัตว์ถือเพื่อให้มนุษย์ปลอดภัย
กำหนดแผนปฏิบัติการในไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ จะบูรณาการกับท้องถิ่นและสาธารณสุขประสิทธิภาพอาสาสมัคร เพื่อทำหน้าที่ฉีดวัคซีนในสัตว์ เป็นกระบวนการสำคัญต่อการเกิดภูมิคุ้มกันโรค
โดยอาสาสมัครต้องผ่านการฝึกอบรมจากสัตวแพทย์ ได้รับใบประกาศผู้ผ่านการฝึกอบรม
และที่สำคัญต้องได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์ตาม
พ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ.2535
อาสาสมัครทั้งหมดนี้จะทำหน้าที่ฉีดวัคซีนในช่วงรณรงค์ 4 เดือน ตั้งแต่
เดือนมีนาคม – พฤษภาคม พร้อมกันทั่วประเทศ โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
จะทำหน้าที่สำรวจและขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว รวมทั้งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ
80 ของยอดสัตว์ เป็นไปตามหลักการควบคุมโรคระบาด
เป็นบริการจากภาครัฐโดยไม่คิดมูลค่า
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติม มาตรการเร่งด่วนต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทั้งปีคือ
การเร่งรัดควบคุมโรคในพื้นที่เกิดโรค
โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 22 ตุลาคม 2561)
พบจุดเกิดโรคที่ยังคงประกาศเป็นเขตโรคระบาดสัตว์ลดลงเหลือ 26 จุด ในพื้นที่ 18
จังหวัด จากที่พบการเกิดโรคมากที่สุดในปี 2561 ถึง 305 จุด ใน 54
จังหวัดจึงสั่งการให้เร่งรัดฉีดวัคซีนสุนัข-แมวรอบจุดเกิดโรคร้อยเปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ที่ยังพบโรคและเฝ้าระวังเชิงรุกพื้นที่จุดเกิดโรคต่อเนื่องอย่างน้อย
6 เดือน ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบจุดเกิดโรคเพิ่ม
ทั้งนี้หากพบสัตว์แสดงอาการสงสัยเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือป่วยตายโดยไม่ทราบสาเหตุจะต้องเก็บตัวอย่างส่งตรวจทุกตัว
ซึ่งจะทราบผลตรวจภายใน 24 ชั่วโมง สิ่งที่จะทำควบคู่ไปด้วยคือ การทำหมันควบคุมประชากรสุนัขแมวจรจัดเพื่อลดการเพิ่มจำนวน
ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า
อีกทั้งสร้างความตระหนักและปลูกจิตสำนึก “เลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ”
เรื่องสำคัญอีกประการคือ
การเร่งวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าภายในประเทศเพื่อป้องกันปัญหาวัคซีนขาดแคลน
อีกทั้งจะต้องได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า
กรมปศุสัตว์กำหนดให้เดือนกรกฎาคมของทุกปีเป็นเดือนมหามงคลซึ่งจะจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ
บดินทรเทพยวางรกูรและศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี โดยจะเน้นกิจกรรมฉีดวัคซีน
ผ่าตัดทำหมัน รักษาพยาบาลสัตว์ โดยไม่คิดมูลค่า
และให้ความรู้แก่ประชาชนตลอดทั้งเดือน.-สำนักข่าวไทย
